แกนนำนปช.ปัดข้อเสนอเสนาะตั้งรบ.แห่งชาติ ใช้ป้าอุเดินเกมเจรจา รวมประชาราช-ภูมิใจไทย

แกนนำนปช.ปัดข้อเสนอเสนาะตั้งรบ.แห่งชาติ ใช้ป้าอุเดินเกมเจรจา รวมประชาราช-ภูมิใจไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แกนนำนปช.ปัดตั้งรัฐบาลแห่ชาติ กลัวโดนระบอบอำมาตย์ครอบงำ เสนาะ ส่งป้าอุคุยภูมิใจไทยรวมกับประชาราช เพื่อไทย ยื่นถอดถอนอภิสิทธิ์-สุเทพ ทำผิด พ.ร.บ.ตำรวจฯ สดศรี บอกยุบพผ.ไม่ต้องตั้งอนุกก.สอบ

เสื้อแดงดับฝันรบ.แห่งชาติ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวเมื่อวันที่ 3 เมษายน ถึงความเป็นไปได้ ในการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ตามข้อเสนอของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช (ปชร.) ว่า ขณะนี้ความขัดแย้งระหว่างคน 2 กลุ่ม คือฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายอำมาตยาธิปไตย เผชิญหน้ากันอย่างชัดเจน ซึ่งเชื่อว่าประชาชนไม่ต้องการแค่การประสานรอยความ ขัดแย้ง แต่ต้องการกำจัดต้นตอของปัญหาดังนั้น วิธีการที่ถูกต้องคือต้องเลือกว่าจะเอาประชาธิปไตย หรือเอาอำมาตยาธิปไตย ข้อเสนอเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ จึงไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ขณะนี้ เพราะถ้าจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมา พรรคการเมืองและนายกรัฐมนตรี ก็จะอยู่ภายใต้อำมาตย์อีก ถ้าฝีจะแตกก็ต้องปล่อยให้มันแตกไปเลยแล้วค่อยรักษาให้หาย อย่าพยายามเอาอะไรมาเกลื่อนฝีอีกเลย

เสนาะ ส่งลูก-เมียเจรจาภูมิใจไทย

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคประชาราช จะเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทยว่ายังไม่มีการหารือ ระหว่างนายเสนาะกับแกนนำพรรคภูมิใจไทย มีเพียงนายเนวิน ชิดชอบ และแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน เข้าอวยพรวันเกิดนายเสนาะ แต่ไม่ได้เกี่ยวกับการที่พรรคประชาราชจะมาร่วมงาน แต่อนาคตเป็นอีกเรื่องหนึ่ง นายเสนาะเป็นผู้ใหญ่ เป็นกูรูทางการเมือง หากจะตัดสินใจอะไร นายเสนาะย่อมรู้ว่าอะไรถูกอะไรควร คงรู้ว่าใครจะพาประเทศไปได้ พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคหนึ่งที่เป็นทางเลือก ก็เป็นไปได้ แต่อนาคตทางการเมืองต้องดูกันอีกครั้ง

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ นายเสนาะได้ส่งสัญญาณผ่านทางนางอุไรวรรณ เทียนทอง ภรรยา เมื่อประมาณปลายเดือนมีนาคม โดยนางอุไรวรรณไปร่วมงานวันเกิดนายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ จ.ราชบุรี มีการพูดคุยระหว่าง นางอุไรวรรณ นายสรอรรถ และนายเนวิน ถึงเรื่องอนาคตทางการเมือง แต่ยังไม่มีการหารือในพรรคประชาราช ทางนางอุไรวรรณ ขอหารือกับลูกพรรค เพื่อกำหนดทิศทางทางการเมืองก่อน

ต่อมา นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว บุตรชายนายเสนาะ ได้คุยกับแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวินคนหนึ่ง ในเบื้องต้น พรรคประชาราชจะสนับสนุนการทำงานของพรรคภูมิใจไทย และหากยุบสภา เลือกตั้งใหม่ มีความเป็นไปได้สูงว่า ส.ส.พรรคประชาราช จะย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยที่นายเสนาะจะวางมือทางการเมือง และให้บุตรชายทำงานทางการเมืองแทนแต่จนขณะนี้ การเจรจายังไม่ได้ข้อสรุป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อนายเสนาะ เพื่อที่จะสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเข้าร่วมงานทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย แต่ไม่สามารถติดต่อได้

ขณะที่นางอุไรวรรณกล่าวว่า นายเสนาะต้องการพักผ่อนเนื่องจากเพิ่งเดินทางกลับมาจากจังหวัดสระแก้ว หากมีเรื่องอะไรอย่าเพิ่ง ไปถาม เมื่อถามว่า นายเสนาะยังคงจุดยืน เดิมที่สนับสนุนรัฐบาลแห่งชาติอยู่หรือไม่ นางอุไรวรรณกล่าวว่า นายเสนาะไม่เคยสนับสนุนรัฐบาลแห่งชาติ แต่เป็นรัฐบาลเพื่อชาติ เพราะรัฐบาลเพื่อชาติกับรัฐบาลแห่งชาติเป็นคนละความหมาย เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยระบุว่า พรรคประชาราชอาจจะเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทย นางอุไรวรรณกล่าวว่า อย่าเพิ่งไปพูดขนาดนั้น เพราะตอนนี้เรายังเป็นพรรคประชาราชอยู่ และเป็นคนไ

เพื่อไทย ยื่นถอดถอนอภิสิทธิ์-สุเทพ

ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมนายสุรชัย เบ้าจรรยา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นำรายชื่อ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 120 คน เข้ายื่นต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อให้วุฒิสภาดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 274 ถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากบุคคลทั้งสองมีพฤติการณ์ส่อจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 270 โดยเอกสารในการยื่นถอดถอนมีทั้งหมด 8 หน้า มีสาระสำคัญว่า เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2552 นายอภิสิทธิ์มีคำสั่งมอบหมายให้นายสุเทพไปปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ซึ่งขัดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 42 วรรค 2 และถือว่าขัดต่อ พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 12 และ 38 เพราะตามกฎหมายถือว่า นายกรัฐมนตรีทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) และประธาน ก.ตร.โดยตำแหน่ง จึงไม่อาจมอบหมายและมอบอำนาจให้ใครปฏิบัติหน้าที่แทนได้ ถือ ว่านายอภิสิทธิ์จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนนายสุเทพนั้นจงใจกระทำผิด โดยไปประชุม ก.ตร.ถึง 3 ครั้ง แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับนายพลถึง 73 นาย ทั้งๆ ที่นายสุเทพไม่มีอำนาจ

นายประสพสุขกล่าวว่า จะใช้เวลาตรวจสอบรายชื่อ 15 วัน เพื่อตรวจสอบว่า รายชื่อที่แนบมานั้นครบ 1 ใน 4 ตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ หากครบก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในวันที่ 18 เมษายนนี้

นายสุรชัยกล่าวว่า ขอให้นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเตรียมใจไว้ให้ดี เพราะถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว แม้จะยกเลิกคำสั่งในภายหลังก็ตาม แต่คณะกรรมการกฤษฎีกาก็ตีความเรียบร้อยแล้วว่าไม่สามารถกระทำได้ ในวันที่ 7 เมษายน จะไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย

อานันท์ ชี้พูดเลอะเทอะระบอบอำมาตย์

ด้านนายอานันท์ ปันยารชุน นายกกรรมการธนาคารไทยพาณิชย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี สัมภาษณ์กรณีปัญหาความไม่สงบของการเมืองในประเทศว่า กรณีที่มีคนกำลังใช้ความพยายามในการล้มล้างระบอบอำมาตยาธิปไตยนั้น ตนมองว่าคนกำลังพูดมาก จนกลายเป็นเลอะเทอะ ซึ่งคนฟังต้องมีวิจารณญาณในการมอง และเชื่อว่าจะสามารถถมองออกว่า สิ่งที่คนเหล่านั้นพูดเป็นจริงหรือมีความเลอะเทอะมากน้อยแค่ไหน ถ้าใครพูดเลอะเทอะแล้วยังมีคนเอามาพูดกันต่อจะเกิดผลกระทบในวงกว้าง สุดท้ายทุกคนต้องมาเรียนรู้ปัญหานี้ ต้องรู้จักใช้ข้อมูลที่ถูกต้อง มีข้อเท็จจริง และต้องวิเคราะห์อย่างมีตรรกะ อย่างนี้สังคมจึงจะไปรอด ไม่ใช่เอาแต่สวะกับเรื่องเลอะเทอะมานั่งถกเถียงกันไปมา

ความระส่ำระสายของสถานการณ์การ เมืองไทยไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดมาตั้งแต่ 3-4 ปีที่ผ่านมาแล้ว ที่สำคัญเป็นปัญหาที่สร้างกันเอง ผมเชื่อว่าทุกอย่างจะปรับตัวได้ และสามารถแก้ไขกันเองได้ ขึ้นอยู่กับว่าคนไทยจะร่วมกันแก้ไขปัญหาหรือไม่ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าจะแก้ปัญหาด้วยระบบตุลาการหรือทางรัฐสภา ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับตัวเราเองนายอานันท์กล่าว

สดศรี บอกยุบพผ.ไม่ต้องตั้งอนุกก.สอบ

นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีนายนพดล พลซื่อ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 3 ในฐานะรองเลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) จากศาลฎีกา อาจยุบพรรค พผ. เพราะนายนพดลมีสถานะเป็นกรรมการบริหารว่า กรณีนี้หากดูมาตรา 237 วรรคหนึ่ง ระบุว่า หากพบว่ากรรมการบริหารพรรคหรือหัวหน้าพรรครู้เห็นการกระทำผิดก็เป็นเหตุให้ยุบพรรคได้ ดังนั้น เรื่องนี้คงไม่ใช่ดูเพียงแค่วันที่กระทำผิดนั้น นายนพดลเป็นกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ แต่ กกต.จะต้องพิจารณาว่า ขณะนายนพดลกระทำผิด กรรมการบริหารพรรคคนอื่นได้มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ และนายนพดลเป็นกรรมการบริหารพรรคขณะกระทำผิดหรือไม่ การจะยึดความเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองสมบูรณ์ โดยยึดวันที่นายนพดลได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่หรือวันที่นายทะเบียนพรรคการเมืองตอบรับนั้น ก็คงเป็นข้อถกเถียงทางด้านกฎหมายอีก ซึ่งการพิจารณาคงต้องพิจารณาให้เสร็จโดยเร็วว่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคหรือไม่ เพราะเป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมืองที่กฎหมายให้ไว้โดยไม่ต้องมีใครร้องเรียน

คงไม่ต้องมีคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกแล้ว เพราะศาลเคยได้พิพากษามาแล้ว ดิฉันเห็นว่าจะต้องยึดถือวันที่กระทำผิดที่ศาลได้พิพากษาเป็นหลัก ขอยืนยันกกต.ไม่ได้ตั้งธงว่าจะยุบพรรคไหน เพราะหากเข้าข้อกฎหมายก็ต้องดำเนินการทั้งพรรครัฐบาลและฝ่ายค้าน นางสดศรีกล่าว

ปชป.ทำบุญครบรอบ63ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 6 เมษายน พรรคประชาธิปัตย์จะทำพิธีครบรอบ 63 ปีการก่อตั้งพรรค ที่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ถนนเศรษฐศิริ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะกล่าวปราศรัยถึงแนวทางการแก้วิกฤตการเมือง และวิกฤตเศรษฐกิจ และช่วงบ่ายประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์นัดพิเศษในเวลา 14.00 น. เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองและประเมินสถานการณ์กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 8 เมษายนนี้ รวมทั้งจะกำชับ ส.ส.ให้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนในประเด็นความขัดแย้งต่างๆ และจะขอความร่วมมือ ส.ส.พรรคทุกคนเดินทางไปร่วมแสดงความยินดีกับพรรคภูมิใจไทยที่จะเปิดพรรคอย่างเป็นทางการในช่วงเย็นของวันที่ 6 เมษายนด้วย

สุเทพ ไม่กังวลถูกยื่นถอดถอน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่งว่า ไม่รู้สึกกังวลเลยเพราะก่อนจะไปทำงานก็ศึกษาดีแล้วว่าทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อถามว่าแต่ทางพรรคเพื่อไทยก็มั่นใจในข้อมูลซึ่งได้ปรึกษาทั้งอัยการและนักกฎหมาย นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างที่พูดก็ต้องรอดูผลการพิจารณาของฝ่ายต่างๆ เมื่อดำเนินการอย่างไรนี้วุฒิสภาก็ต้องพิจารณาและดำเนินการไปตามขั้นตอน ในที่สุดก็จะได้ข้อสรุปที่ถูกต้อง ทั้งนี้ ยังไม่ได้เตรียมเพราะไม่คิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ และไม่มองใครในแง่ร้ายเกินไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook