ครส.เพิ่มสวัสดิการรัฐวิสาหกิจเพียบ ออมสินขึ้นเงินเดือน 12.5% สปส.งดแจกเช็ค10-14 เม.ย.

ครส.เพิ่มสวัสดิการรัฐวิสาหกิจเพียบ ออมสินขึ้นเงินเดือน 12.5% สปส.งดแจกเช็ค10-14 เม.ย.

ครส.เพิ่มสวัสดิการรัฐวิสาหกิจเพียบ ออมสินขึ้นเงินเดือน 12.5% สปส.งดแจกเช็ค10-14 เม.ย.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พนักงานรัฐวิสาหกิจเฮ! ครส.เห็นชอบเพิ่มสวัสดิการเพียบ ออมสินปรับเงินเดือนขึ้น 12.5% กอร์ปศักดิ์สั่งเร่งเบิกจ่ายงบฯ เช็คช่วยชาติแล้ว คาดใน 7 วันได้รับแน่ สมาคมท่องเที่ยวประจวบฯ จัดให้ใช้แลกพักโรงแรมหรู สปส.หยุดแจกเช็ค10 -14 เม.ย.

ที่กระทรวงแรงงาน นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 3 เมษายน ภายหลังประชุมคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (ครส.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้พนักงานรัฐวิสาหกิจหลายแห่งได้รับเงินเดือน และสวัสดิการเพิ่มขึ้นตามที่มีการเสนอ ประกอบด้วย 1.ธนาคารออมสินปรับโครงสร้างเงินเดือนพนักงาน เพิ่มอีก 12.5% ของเงินเดือน เพราะขณะนี้เงินเดือนของพนักงานต่ำกว่าพนักงานในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน 2.พนักงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ตั้งแต่ระดับ 9 ขึ้นไป เปลี่ยนวิธีพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน จากขั้นวิ่งเป็นแบบร้อยละ

นายไพฑูรย์ กล่าวว่า 3.ปรับสวัสดิการค่าห้องและค่าอาหาร กรณีเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชน ดังนี้ พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฝผ.) ได้รับเฉพาะพนักงานที่เข้างานก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2548 รวมถึงบิดา-มารดา จาก 800 บาท เป็น 1,000 บาทต่อวัน พนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) รวมถึงพนักงานบำนาญ ได้รับจาก 800 บาท เป็น 1,200 บาทต่อวัน ขณะที่พนักงานการประปานครหลวง (กปน.) และพนักงานการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้รับ 1,200 บาทต่อวัน เช่นกัน

"นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ปรับขึ้นค่าตอบแทนความดีความชอบของพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ทำงานครบ 15 ปี จากเดิมที่ให้ค่าตอบแทนเป็นเงิน 240 วัน เพิ่มเป็น 300 วันด้วย โดยจะเสนอความเห็นให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติอีกครั้ง" นายไพฑูรย์ กล่าว

นายไพฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนการแจกเช็คช่วยชาติ 2,000 บาทให้พนักงานรัฐวิสาหกิจนั้น ล่าสุดอยู่ระหว่างรอนำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม. อนุมัติ หลังจาก ครม.มีมติเห็นชอบให้เพิ่มอีก 6 กลุ่ม คือ บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) พนักงานรัฐวิสาหกิจ บุคลากรขององค์กรในรูปแบบพิเศษ (องค์การมหาชน) ทหารเกณท์ ครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือบุคลากรอื่นในโรงเรียนเอกชน และบุคลากรขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ ระหว่างนี้ ขอให้หน่วยงานต้นสังกัดของรัฐวิสาหกิจสำรวจรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเช็คช่วยชาติ ก่อนนำรายชื่อส่งหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อรอเสนอครม.อนุมัติงบประมาณ

ด้านนายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (เลขาธิการ สปส.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม- วันที่ 2 เมษายน มีผู้ประกันตนมารับเช็คแล้วกว่า 4 ล้านคน เป็นเงินกว่า 8,000 ล้านบาท ล่าสุด สปส.จ่ายเช็ค ล็อตที่ 3 กว่า 375,525 ฉบับ และส่งรายชื่อของผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คในงวดที่ 4 (รายชื่อตกหล่น) ให้กับธนาคารกรุงเทพฯ เพื่อพิมพ์เช็คได้ในวันที่ 30 เมษายนนี้ และจะเริ่มจ่ายรอบสุดท้ายในวันที่ 4 พฤษภาคม คาดจะจ่ายแล้วเสร็จวันที่ 6 พฤษภาคม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สปส.จะหยุดให้บริการแจกเช็คตั้งแต่วันที่ 10 - 14 เมษายน และเริ่มเปิดให้บริการใหม่ในวันที่ 15 เมษายน และหลังจากวันที่ 15 เมษายน สปส.จะเปิดให้บริการในวันเวลาราชการเท่านั้น

นายปัญจะ ศรีทรงผล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวปราณบุรี สามร้อยยอด สนับสนุนโครงการเช็คช่วยชาติ จึงร่วมกันให้ผู้ที่ได้รับเช็คช่วยชาติ เข้าพักในโรงแรมหรูในราคาประหยัด ที่หาดปราณบุรี - สามร้อยยอด โดยใช้เช็คช้วยชาติจ่ายค่าห้องพักหรูจากราคาหลายพันบาทจนถึงหมื่นบาท ได้ในราคาเดียวเพียงห้องละ 2,000 บาทเท่านั้น และพักได้ถึง 2 คืน ระหว่างวันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี ของเดือนพฤษภาคม - ตุลาคม โดยจองห้องพักได้ที่เซน อีเวนท์ แกลเลอเรีย ชั้น 8 Zen เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพ ระหว่างวันที่ 4 - 6 เมษายนนี้

ที่รัฐสภา นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการบริหารโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน หรือโครงการต้นกล้าอาชีพ กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินโครงการมีประสิทธิภาพ นอกเหนือจากการยุบรวมหลักสูตรที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกัน การเลื่อนผู้สมัครที่ขึ้นบัญชีสำรองไว้มาเติมในหลักสูตรที่ยังขาดอยู่ เพื่อให้เปิดการอบรมดำเนินไปได้ ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดการตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครมากขึ้น เช่น มีความต้องการฝึกอบรมจริงหรือไม่ และในการแจ้งผลการคัดกรองคุณสมบัติ นอกจากจะแจ้งผ่านเอสเอ็มเอสแล้ว จะต้องโทรศัพท์ยืนยันกับผู้ฝึกอบรมโดยตรงด้วย

"ที่ผู้ผ่านคัดเลือกไม่มารายรายตัว ถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะถ้าไม่ครบเราก็เปิดอบรมไม่ได้ ดังนั้นคนที่มาสมัครต้องตั้งใจจริง จากนี้ไปใครที่สมัครและไม่มารายงานตัวจะถือว่าสละสิทธิ และไม่สามารถร่วมโครงได้อีกต่อไป" นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวและว่า สำหรับปัญหาการเบิกจ่ายงบฯที่มีความล่าช้า ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีโครงการไหนที่สามารถเบิกจ่ายได้ภายใน 3 วันนับแต่เปิดโครงการ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการแล้ว คาดว่าภายใน 7 วันจะเบิกเงินได้

นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ไม่อยากให้มองในแง่ร้ายว่ามีคนเข้ามาฝึกอบรมในโครงการต้นกล้าอาชีพน้อย แต่อยากให้มองในแง่ดี เพราะที่ผ่านมามีหลายโครงการที่แก้ไขปัญหาตกงาน เช่น การจัดนัดพบแรงงานมีการบรรจุงานไปแล้ว 2-3 หมื่นอัตรา มีศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ มีตำแหน่งงานเป็นแสนรองรับ มีการฝึกอบรมฝีมือแรงงาน พร้อมทั้งมีมาตรการป้องกันการเลิกจ้าง นายจ้างหลายโรงงานที่หยุดงานชั่วคราวแทนการเลิกจ้าง เป็นต้น ทำให้คนตกงานน้อย จึงไม่ทะลักเข้าโครงการต้นกล้าอาชีพ

นายไพฑูรย์ กล่าวว่า ไม่อยากให้มองว่างบประมาณไม่ถึงกระทรวงแรงงานแล้วทำให้เป็นปัญหาทุกอย่าง เพราะสามารถแก้ปัญหาได้โดยให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานฝึกอบรมให้กับผู้ที่มาลงทะเบียนไปก่อนและสามารเบิกเงินเบี้ยเลี้ยง เงินค่าวิทยากร รวมถึงค่าเดินทางได้ในภายหลัง

นายวีระชัย ถาวรทนต์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทระทวงแรงงาน ในฐานะอนุกรรมโครงการต้นกล้าอาชีพ กล่าวว่า เดิมกำหนดเปิดฝึกอบรมในวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา แต่เหตุที่ต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 5 เมษายน เนื่องจากเป็นการดำเนินการครั้งแรก บางอย่างยังไม่ลงตัว ทั้งเจ้าหน้าที่ งบประมาณ สถานที่ อุปกรณ์การฝึกอบรม ที่สำคัญงบประมาณที่จะใช้ยังไม่ถึงกระทรวงแรงงาน แต่ยืนยันว่ามีงบประมาณแน่นอน

นายวีระชัย กล่าวว่า ส่วนกรณีหลายหน่วยงานที่รับฝึกอบรมถอนตัวออกจากโครงการนั้น ไม่ทราบสาเหตุ แต่ในส่วนของกระทรวงแรงงานยืนยันมีความพร้อมในการดำเนินการ และขณะนี้มีผู้มีสิทธิมาขอฝึกอบรมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานแล้ว 4,000 คน และจะเริ่มอบรมตั้งแต่วันที่ 7 เมษายนนี้เป็นต้นไป จึงขอให้ผู้ที่ลงทะเบียนแล้วไปรายงานตัว และผู้ที่ยังไม่มาลงทะเบียนก็ขอให้มาลงทะเบียนฝึกอบรมภายในวันที่ 5 เมษายน โดยการอบรมจะได้รับเบี้ยเลี้ยง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามที่กำหนดไว้ทุกประการ

นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ ว่า จะเริ่มจ่ายเงินในวันผู้สูงอายุในวันที่ 13 เมษายน และคาดว่าผู้สูงอายุจะได้รับเงินสดจริงประมาณปลายเดือนนี้เพราะต้องให้เวลากับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทำหลักฐานการจ่ายเงินด้วย โดยผู้สูงอายุที่จะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลในครั้งนี้มีประมาณ 3.1 ล้านคน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook