มาร์คหนุนคนกลางไกล่เกลี่ย แต่ห้ามต่อรองเรื่องคดี ปธ.วุฒิแย้มผู้ใหญ่เคลื่อนประสานคนกลางถก2ฝ่าย
มาร์คหนุนคนกลางไกล่เกลี่ย2ฝ่าย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เห็นด้วยที่คนกลางผู้มีบารมี จะเข้ามาเกลี่ยไกล่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น จากการชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลของมวลชนเสื้อแดง ภายหลังนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ออกมาระบุในลักษณะจะมีผู้มีบารมีเข้าไกล่เกลี่ยในเร็ววันนี้ เว็บไซต์สำนักข่าวไทย รายงานบทสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ ก่อนร่วมประชุมลอนดอนซัมมิท เมื่อวันที่ 2 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่นของอังกฤษว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความเห็นด้วยกับแนวคิดเรื่องจะมีคนกลางเข้ามาเจรจาคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงและรัฐบาลของนายชัย ขณะนี้ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับนายชัย แต่ถ้ามีใครก็ตามที่เข้ามาช่วยเหลือให้บ้านเมืองเดินหน้าได้ ก็เป็นเรื่องดีทั้งสิ้น รัฐบาลยืนยันมาตลอดว่าแนวนโยบายในการแก้ไขปัญหาจะไม่สร้างความขัดแย้ง หากจะมีกระบวนการที่จะนำไปสู่เป้าหมายก็ยินดี นายกฯกล่าว
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง มีแนวคิดเชิงประนีประนอมโดยพร้อมเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ ว่าเท่าที่ทราบนายสุเทพน่าจะพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมมากกว่า เพราะการพูดคุยต้องทำกับคนที่มีข้อเรียกร้อง ส่วนเรื่องคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น รัฐบาลพร้อมให้ความเป็นธรรม และดูแลความปลอดภัยให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ หากเดินทางกลับมา อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การชุมนุมเท่าที่ได้รับรายงานไม่มีอะไรเพิ่มเติม
จุดยืนเจรจาต้องไม่มีการต่อรอง
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์เดินทางกลับจากอังกฤษถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 14.45 น. ทันทีที่เดินทางถึงนายสุเทพ ได้เข้ารายงานสถานการณ์กว่า 10 นาที จากนั้น นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวแบบดาวกระจายของกลุ่มเสื้อแดงว่า ไม่เป็นปัญหาตราบใดที่ยังไม่กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง ส่วนเรื่องที่นายสุเทพบอกว่าพร้อมเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จุดยืนของรัฐบาลคือต้องไม่มีการต่อรอง ในเรื่องที่จะทำให้เกิดปัญหาต่อไปในอนาคต โดยการขอเจรจาของนายสุเทพ เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจะไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับผู้ชุมนุม แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นความพยายามจากฝ่ายตรงข้ามที่จะเข้ามาขอเจรจา ผมเห็นด้วยกับแนวคิดเรื่องคนกลาง ใครจะเสนอตัวเข้ามาแก้ปัญหาก็ยินดี นายกฯกล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่ารัฐบาลปิดประตูการต่อรองเรื่องคดีความเลยใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คดีก็เป็นเรื่องของคดี คนทำผิดจะไม่ยอมรับผิดคงไม่ได้ แต่ถ้าผิดแล้วสังคมจะให้อภัยก็อีกเรื่องหนึ่ง
การเจรจา ไม่ใช่แค่คิดว่ายอมๆ กันไปแล้วทุกอย่างจะจบ ไม่เช่นนั้นจะมีกลุ่มอื่นๆ ออกมาเรียกร้องอะไรอีก จะต้องมีกระบวนการที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ เช่น คำตัดสินของศาลเป็นสิ่งที่ตัดสินว่าอะไรผิดอะไรถูกที่ทุกคนควรยอมรับ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ไม่คิดใช้พ.ร.ก.คุมชุมนุมใหญ่8เม.ย.
ส่วนการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในวันที่ 8 เมษายน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้พูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งคนเสื้อแดงก็ชุมนุมใหญ่มาแล้วถึง 3 ครั้ง เชื่อว่าครั้งนี้กำลังตำรวจและทหารที่ขอมาดูแลสถานการณ์น่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และไม่เคยมีความคิดจะใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดยืนเสื้อแดงคือล้มล้างระบอบอำมาตยาธิปไตย นายอภิสิทธิ์กล่าวสวนทันทีว่า ระบอบนั้นไม่มีหรอกครับ ทุกอย่างเกิดขึ้นตามกระบวนการของสภา ผมได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ในสภา การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ทำในสภา ทุกอย่างเกิดขึ้นตามระบอบรัฐสภาทุกอย่าง จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาบอกว่าขณะนี้มีบุคคลนอกระบบการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง นโยบายของรัฐบาลชุดนี้ก็เน้นไปที่คนด้อยโอกาสที่สุด ไม่ได้ช่วยเหลือคนที่มีฐานะดีหรือระบอบอำมาตย์
มักง่ายยอมทุกเรื่องไม่จบแน่
นายกฯยังกล่าวกรณีผู้ชุมนุมประกาศ หางแถวจะยาวไปถึงบริเวณบ้านสี่เสาเทเวศร์ว่า ได้วางแผนเรียบร้อยแล้วในการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดูแลความสงบเรียบร้อยและไม่ให้เกิดปัญหา อย่าไปกังวล อะไรก็ตามที่เกิดระหว่างการชุมนุมก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย บ้านเมืองต้องรักษาหลักอย่างน้ อดทน ถ้าหลวมตัวนำไปสู่ความรุนแรง เกิดการปะทะกันบ้านเมืองก็จะเสียหาย หรือถ้าคิดมักง่ายว่าใครเรียกร้องอะไร ก็ยอมตามไป เรื่องก็จะไม่จบ เพราะมีคนอีกจำนวนมากที่มีความเห็นไม่ตรงกับคนที่มาชุมนุมอยู่และมีความเห็นอย่างรุนแรงด้วย ซึ่งได้สะท้อนผ่านหลายๆ สื่ออยู่ในขณะนี้อยู่ รวมถึงส่งมาถึงตนด้วย
ผมเข้าใจความรู้สึกของทุกฝ่าย มั่นใจว่าการปรบมือข้างเดียวนั้นจะไม่ดัง และขณะนี้ยังไม่มีนโยบายอะไรที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ของผมก็ไม่ได้รับผลกระทบ พรุ่งนี้ผมยังทำงานต่อ มั่นใจว่าเรื่องจะจบเร็ว ผมเชื่อในความเป็นคนไทย เชื่อในเสียงส่วนใหญ่ที่ต้องการให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย เชื่อในการเคารพเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ และมั่นใจว่าใครที่พยายามที่จะดึงบ้านเมืองไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ในที่สุดไม่เข้าใจก็จะต้องจำนนต่อความถูกต้อง นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการปกป้องสถาบันองคมนตรีอย่างไร เพราะขณะนี้ถูกโจมตีอย่างมาก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องใช้กระบวนการของกฎหมาย เพียงแต่ว่าสถานะของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็คงไม่ประสงค์ที่จะมาเป็นคู่กรณี คู่ขัดแย้ง รัฐบาลก็จะพยายามทำความเข้าใจในความถูกต้องให้เกิดขึ้น
มาร์ค ยันไม่ยุบสภา-ไม่กลัวม็อบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พิเศษนายเซบาสเตียน ทง ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดจี-20 เกี่ยวกับสถานการณ์ความวุ่นวายในเมืองไทย ตอนหนึ่งยืนยันว่า จะไม่มีการยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ขึ้นเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อมายาวนาน เชื่อมั่นว่าการชุมนุมประท้วงจะไม่เป็นอุปสรรคจนทำให้รัฐบาลหมดหนทางแก้ปัญหาภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในขณะนี้แน่นอน จนถึงขณะนี้กลุ่มผู้ประท้วงก่อให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยังมองไม่เห็นว่าการชุมนุมประท้วงในครั้งนี้จะก่อให้เกิดภาวะชะงักงันขนานใหญ่ขึ้นในทำนองเดียวกับการปิดล้อมท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่งในกรุงเทพฯเมื่อปีที่ผ่านมาขึ้นมาอีกครั้ง
สุเทพย้ำพร้อมเจรจา ทักษิณ
นายสุเทพให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมประชุม กับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ที่กองบัญชาการกองทัพบก กรณีโฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เชื่อ นายสุเทพพร้อมเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณว่า เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาเพราะตนรู้จัก พ.ต.ท.ทักษิณดี และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็รู้จักตน ส่วนลูกน้อง พ.ต.ท.ทักษิณ จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องปกติก็วิจารณ์กันไป
ผมขอยืนยันว่าพร้อมจะเจรจาด้วย แต่จะให้ผมไปเจรจากับแกนนำ นปช. (แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ) ทั้ง 3 คน นั้นคงไม่ได้ เพราะคนที่ตัดสินใจเรื่องนี้คือ พ.ต.ท.ทักษิณ กรอบและเงื่อนไขการเจรจาคือต้องให้ประเทศชาติปลอดภัย การเจรจาใดๆ ก็ตาม ถ้าทำให้ประเทศชาติและประชาชนปลอดภัยก็ได้ทั้งนั้น นายสุเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวว่าถามหาก พ.ต.ท.ทักษิณพ้นคดีและกลับเข้าสู่การเมืองอีก ยอมรับได้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ทั้งหมดต้องเป็นไปตามหลักกฎหมาย หากวันที่ 8 เมษายน ที่ นปช.นัดชุมนุมใหญ่ ยังไม่มีการเจรจากัน รัฐบาลจะยึดหลักการเคารพสิทธิของประชาชน กฎหมาย ไม่ได้คิดว่าผู้ชุมนุมเป็นศัตรู แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าทำงานในทำเนียบรัฐบาลได้รัฐบาลก็ยังทำงานอยู่ ไม่สะดุด
สัปดาห์หน้าประชุมครม.ที่พัทยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 3 เมษายน เจ้าหน้าที่สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เผยแพร่วาระงานของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 4-7 เมษายน ให้สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลทราบ ที่น่าสนใจคือ ในเวลา 09.00 น. ของวันอังคารที่ 7 เมษายน นายกฯจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ ห้องประชุม ครม. ชั้น 2 สำนักเลขาธิการ ครม. ทำเนียบรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เข้าใจว่าการประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้าจะต้องไปดูในเรื่องของอาเซียน ที่พัทยา จ.ชลบุรี
นายสุเทพกล่าวกรณีที่ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ออกมาแนะนำให้ตรวจสอบการฟอกเงินที่เกาะเคย์แมนของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ผมคิดว่าน่าสนใจ แต่ต้องขอไปดูหน่อย เพราะผมมีความรู้ในเรื่องพรรค์อย่างนี้น้อย เมื่อถามว่า จะสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เดี๋ยวลองดู
ปธ.วุฒิฯเผยผู้ใหญ่เคลื่อนไกล่เกลี่ย
นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวกรณีประธานรัฐสภาระบุ จะมีคนกลางเข้ามาไกล่เกลี่ยปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองว่า ขณะนี้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมีความเป็นห่วงในสถานการณ์การเมือง และไม่ได้นิ่งนอนใจ เท่าที่ทราบขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ โดยได้มีการประสานกับคนกลางที่จะทำหน้าที่ดังกล่าวแล้ว โดยคนกลางคนนี้ทั้ง 2 ฝ่ายให้ความเคารพ และเชื่อถือ จะมาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย เชื่อว่าคงเจรจากันได้ เพราะสิ่งใดที่จะทำให้บ้านเมืองสงบทุกคนก็ต้องการ แต่ขณะนี้คงบอกไม่ได้ว่าเป็นใครและเรื่องแบบนี้คงจะพูดรายละเอียดไม่ได้ การเจรจาไกล่เกลี่ยปัญหาจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 8 เมษายน ที่เป็นวันชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่า ทราบข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางออกจากเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปยังประเทศหนึ่งในยุโรป เพื่อไปเจรจากับญาติผู้ใหญ่วัย 80 ปี ที่เป็นอดีตทูตเสรีไทย และมีความสนิทสนมกับนายเติ้ง เสี่ยว ผิง อดีตประธานาธิบดีจีน เพื่อหาทางลงให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากเห็นว่าการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา มันไปต่อไม่ได้อีกแล้ว จึงเชื่อว่าโทนการปราศรัยผ่านวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในคืนนี้จะเปลี่ยนไปในทางที่เป็นผลดีต่อประเทศชาติมากขึ้น
โฆษกแม้วชี้สุเทพหวังผลการเมือง
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ติดต่อ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อสอบถาม แต่ส่วนตัวไม่ให้น้ำหนักในคำพูดของนายสุเทพ เพราะนายสุเทพเคยพูดถึงเรื่องการเจรจามาแล้วครั้งหนึ่งแต่กลับไม่มีการติดต่อกับ พ.ต.ท.ทักษิณจริง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นการพูดเพื่อหวังผลทางการเมือง ต้องการชี้นำ และปรักปรำให้สังคมเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และอยู่เบื้องหลังคอยชี้นำการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งไม่ใช่ความจริง
หากนายสุเทพอยากเจรจา ก็ควรไปเจรจากับแกนนำคนเสื้อแดง และคุยกับคนที่อยู่เบื้องหลังนายสุเทพ เพราะนายสุเทพไม่ได้อยู่ในฐานะที่สามารถตอบสนองอะไรได้ แต่ถ้ามีคนกลางที่เป็นที่ยอมรับมาช่วยเจรจา ก็เป็นเรื่องดีที่จะช่วยยุติปัญหาความขัดแย้งได้ดีขึ้น โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
แกนนำเสื้อแดงปัดคุยทุกกรณี
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเสื้อแดง กล่าวว่า ไม่มีการพูดถึงเรื่องการเจรจา เพราะตอนที่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรัฐบาลได้แสดงท่าทีขึงขังว่าจะตามจับตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และจะถอนพาสปอร์ต แต่พอหาทางเข้าทำเนียบไม่ได้ก็เลยทำทีพูดถึงเรื่องการเจรจาขึ้นมา ซึ่งน่าจะเป็นเพียงวาทกรรมมากกว่า และไม่ทราบผู้มีบารมีที่นายชัยพูดถึงนั้นหมายถึงใคร แต่ผู้มีบารมีที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทำตัวเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญไปหมดแล้ว สามัญชนที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ จึงไม่เห็นว่าจะมีใครแก้ไขปัญหาได้ กลุ่มคนเสื้อแดงไม่พร้อมจะเจรจากับอำมาตย์ในทุกกรณี ทฤษฎีของเราคือโค่นล้ม ไม่ใช่เปลี่ยนผ่าน และถ้าฝ่ายรัฐจะใช้กำลังเข้าปราบปราม ประชาชนก็ต้องใช้กำลังป้องกันตนเอง นายณัฐวุฒิกล่าว
นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า คนกลางและมีบุญบารมีอย่างที่นายชัยพูดไม่มีอย่างแน่นอน สิ่งที่นายชัยพูดเป็นได้แค่เพียงความฝันเท่านั้น ส่วนนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พท. กล่าวว่า เป็นการโกหกเพื่อดึงเกมให้ยืดเวลาออกไปเท่านั้น เพราะเชื่อว่าถ้าอยากให้ยุติปัญหา คนกลางจะต้องออกมาตอนนี้ ไม่ใช่จะต้องรอหลังสงกรานต์