มีรางวัลนำจับ เมาขับสงกรานต์ ห้ามรถเข้า19ถนน ขนคน-สาดน้ำเล่น

มีรางวัลนำจับ เมาขับสงกรานต์ ห้ามรถเข้า19ถนน ขนคน-สาดน้ำเล่น

มีรางวัลนำจับ เมาขับสงกรานต์ ห้ามรถเข้า19ถนน ขนคน-สาดน้ำเล่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจจราจรออกมาตรการช่วงสงกรานต์ ห้ามรถบรรทุกน้ำ อุปกรณ์ฉีดน้ำคนเล่นสาดน้ำ เข้าในเกาะรัตนโกสินทร์และถนนบางสายรอบเกาะรวม 19 สาย

ถ.สามเสน พระสุเมรุ พระอาทิตย์ ตะนาว สิบสามห้าง ห้ามเข้าเฉพาะเที่ยงวันถึงเที่ยงคืน และ ถ.ข้าวสารห้ามตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน ตั้งแต่ 11-15 เม.ย. ขณะที่ตำรวจทางหลวงเปิด 10 ทีเด็ดตั้งแต่แจกผ้ายันต์กัน น็อกของหลวงปู่ทิม กาแฟ ที่นอน ฯลฯ มูลนิธิเมาไม่ขับจับมือร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ งดขายเหล้า 13 เม.ย.ไถ่ชีวิตคนไทย และใครแจ้งเบาะแสคนเมาแล้วขับ แจ้งทันทีที่ 1584 ได้รับรางวัล 500 บาท ขณะที่รามาฯวิจัยพบแรงดันจากปืนฉีดน้ำเป็นอันตรายกับตาของเด็กได้ และพบเด็กไปรักษาช่วงสงกรานต์จำนวนมาก

เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.วรเทพ เมธาวัธน์ รอง ผบช.ประจำตร. ในฐานะรองโฆษกตร. พร้อมด้วยนายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผอ.สำนักสนับสนุนการสร้างสุขภาวะและลดปัจจัยเสี่ยง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) น.พ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ศูนย์นเรนทร ตำรวจสังกัดต่างๆ แถลงข่าวโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุเทศกาลสงกรานต์ 2552 และมาตรการป้องกันอาชญากรรม อำนวยความสะดวกการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน

พล.ต.ต.วรเทพกล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นวันหยุดยาว ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย. ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด และมีกิจกรรมรื่นเริงโดยมีประชาชนไปร่วมจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งด้านการจราจรที่มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิตจำนวนมาก ตำรวจจึงออกมาตรการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งด้านป้องกันอาชญากรรม ระดมกวาดล้างอาชญากรรมตั้งแต่วันที่ 6-12 เม.ย.นี้ มุ่งเน้นคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ อาชญากรรมตามแหล่งท่องเที่ยว คดีที่รัฐเป็นผู้เสียหาย เช่น พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง รวมทั้งกวด ขันสถานบริการผิดกฎหมาย ป้องกันผู้ฉวยโอกาสก่อความไม่สงบ เพิ่มการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ สถานที่สำคัญ ดำเนินการด้านการข่าวติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

พล.ต.ต.วรเทพกล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการด้านการจราจร เตรียมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณทางแยก ทางโค้ง และบริเวณที่มีปัญหาด้านการจราจรและอุบัติเหตุ พร้อมทั้งตั้งจุดบริการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดชุดเคลื่อนที่เร็วแก้ไขปัญหาจราจร ซึ่งจะจัดช่องทางพิเศษในถนนที่การจราจรหนาแน่นเพื่อระบายรถ ส่วนการป้องกันลดอุบัติเหตุทางถนนด้วยการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมตั้งจุดตรวจตามชุมชน จุดอันตราย ระวังรถที่ขับด้วยความเร็วสูง และรถที่ฝ่าฝืนกฎจราจร และกวดขันการขายสุราไม่ให้เกินเวลากำหนด หรือขายผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

ด้านพล.ต.ต.วีระพัฒน์ ตันศรีสกุล ผบก.จร. กล่าวว่า บก.จร.ออกข้อบังคับห้ามรถยนต์ที่บรรทุกภาชนะบรรจุน้ำ บรรทุกน้ำ หรือบรรทุกอุปกรณ์การเล่นน้ำ และบรรทุกคนโดยสารเพื่อเล่นสาดน้ำสงกรานต์ บนถนนบางสายรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่วันที่ 11-15 เม.ย. ประกอบด้วย ทางคู่ขนานลอยฟ้า ถ.บรมราชชนนีเฉพาะฝั่งขาเข้า ตั้งแต่ช่วง ถ.พุทธมณฑลสาย 3 ถึงทางลง ถ.สมเด็จพระปิ่นเกล้าต่อเนื่องไปจนถึงสะพานพระราม 8 ถ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ฝั่งขาเข้า ตั้งแต่แยกอรุณอมรินทร์ถึงแยกสะพานผ่านพิภพ ถ.อรุณอมรินทร์ตั้งแต่แยกอรุณอมรินทร์ถึงทางขึ้นสะพานพระราม 8 ถ.ราชดำเนินใน ราชดำเนินกลาง ราชดำเนินนอก ถ.หน้าพระลาน ถ.หน้าพระธาตุ ถ.จันทร์ ถ.จักรพงษ์ตลอดทั้งสาย ถ.สนามไชย ตั้งแต่แยกป้อมเผด็จถึงแยกวงเวียนรักษาดินแดน ถ.มหาราชตั้งแต่แยกท้ายวังถึง ถ.จันทร์ ถ.ราชินี ตั้งแต่แยกสะพานผ่านพิภพถึงสะพานเลี้ยว ถ.อู่ทองในตั้งแต่แยกอู่ทองในตัด ถ.ราชวิถีถึงลานพระราชวังดุสิต

พล.ต.ต.วีระพัฒน์กล่าวต่อว่า ส่วน ถ.สามเสนตั้งแต่แยกสี่เสาเทเวศร์ถึงแยกบางลำพู ถ.พระสุเมรุตั้งแต่ป้อมพระสุเมรุถึงแยกวันชาติ ถ.พระอาทิตย์ตั้งแต่สะพานพระปิ่นเกล้าถึงป้อมพระสุเมรุ ถ.ตะนาวตั้งแต่แยกศาลเจ้าพ่อเสือถึงวงเวียนสิบสามห้าง ถ.สิบสามห้างตั้งแต่วงเวียนสิบสามห้างถึงแยกสิบสามห้าง ห้ามรถยนต์ดังกล่าวสัญจรช่วงเวลา 12.00-24.00 น. สำหรับ ถ.ข้าวสารห้ามรถยนต์ทุกชนิดสัญจรตั้งแต่เวลา 09.00-24.00 น.วันที่ 11-15 เม.ย.

พ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ รอง ผบก.ทล. กล่าวถึงโครงการของตำรวจทางหลวงว่า จัดทำโครงการไว้ถึง 10 โครงการทีเด็ด เช่น แจกยันต์กันน็อกของหลวงปู่ทิม วัดพระขาว 1 แสนผืน น้ำมนต์หลวงพ่อคูณ 2 แสนขวด แจกลูกอม 2 แสนเม็ด บริการร้านกาแฟ Highway Police Coffee ที่พักแรมกลางทาง โดยตำรวจทางหลวงดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่วันที่ 8-15 เม.ย.

น.พ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า ช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่คนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรมากที่สุด ปี 2551 มีคนเสียชีวิต 368 คน บาดเจ็บ 4,803 คน มูลนิธิเมาไม่ขับได้กำหนดยุทธศาสตร์ลดอุบัติเหตุไว้ 2 แนวทาง คือ 1.ร่วมกับสมาคมภัตตาคารไทย ขอความร่วมมือร้านอาหาร สถานบันเทิง สถานที่ท่องเที่ยว วันที่ 13 เม.ย.วันมหาสงกรานต์ งดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 วัน เพื่อร่วมไถ่ชีวิตคนไทย แม้ว่ากฎหมายห้ามขายจะไม่ออกมาบังคับใช้ และ 2.ผลักดันให้แก้กฎหมายว่าด้วยผู้ขับขี่รถสาธารณะ แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ ร่วมกับกระทรวงคมนาคม จัดโครงการ "รถสาธารณะปลอดภัย แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์" ให้กับผู้ขับขี่รถบ.ข.ส. รถเมล์ โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นบุคคลที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นจำนวนมาก จำเป็นต้องมีมาตรฐานการขับขี่รถสูงกว่าผู้ขับขี่ทั่วไป

"แม้ว่าพ.ร.บ.จราจรจะกำหนดให้ผู้ขับขี่รถสาธารณะมีแอลกอฮอล์ในร่างกายได้ไม่เกิน 50 ม.ก.เปอร์เซ็นต์จึงจะมีความผิดฐานเมาแล้วขับ กระทรวงคมนาคมกำหนดบทลงโทษอย่างหนักกับผู้ขับขี่รถสาธารณะที่ฝ่าฝืน หากตรวจพบแอลกอฮอล์ในร่างกายจะถูกไล่ออก ให้ออก ตัดเงินเดือนหรือสั่งพักงานทันที แม้ตามกฎหมายจะลงโทษไม่ได้แต่ทางวินัยถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว โดยหลังสงกรานต์จะผลักดันให้ออกเป็นประกาศกฎกระทรวงคมนาคมต่อไป" น.พ.แท้จริงกล่าว

เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับกล่าวอีกว่า มูลนิธิขอความร่วมมือประชาชนที่จะเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ สังเกตผู้ขับขี่ หากพบว่าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือมีลักษณะเมาสุรา ขอให้แจ้งศูนย์ปลอดภัยคมนาคม 1584 ถ้าตรวจพบทางมูลนิธิเมาไม่ขับ สมาคมประกันวินาศภัย กองทุนเพื่อความปลอด ภัยในการใช้รถใช้ถนน ร่วมกับภาคเอกชนจำนวนมาก จะมอบเงินให้ผู้แจ้ง 500 บาททันที สำหรับตำรวจที่ตรวจจับก็จะได้รางวัล 500 บาทเช่นกัน

น.พ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยฯ ร.พ.รามาธิบดี กล่าวว่า อนุกรรมการฝ่ายป้องกันโรคและอุบัติเหตุ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ ร่วมกับบริษัท อินเตอร์เทค ได้ศึกษาอันตรายจากปืนฉีดน้ำที่ไม่ใช้ท่อพีวีซีต่อลูกตาของเด็ก ซึ่งปืนฉีดน้ำสามารถทำอันตรายให้กับดวงตาได้ หากเลือกใช้ชนิดที่มีแรงสูงและนำมาเล่นอย่างผิดวิธี เพราะตาเป็นอวัยวะบอบบางมาก โดยทดลองฉีดน้ำใส่แผ่นฟอยล์ เพื่อดูความแรงของแรงดันน้ำ เพื่อเปรียบเทียบกับการทำให้เกิดอันตรายกับดวงตา

"การทดลองปืนฉีดน้ำ 17 กระบอก พบว่า 14 กระบอก ยิงทะลุแผ่นฟอยล์ได้ในระยะ 50 ซ.ม. และจาก 14 กระบอก มี 8 กระบอกสามารถยิงผ่านฟอยล์ได้ระยะ 100 ซ.ม. และใน 8 กระบอก มี 1 กระบอกที่ยิงทะลุฟอยล์ได้ระยะ 150 ซ.ม. โดยปืนที่ยิงทะลุฟอยล์ได้ทั้งหมดยิงในแนวระนาบที่ความสูง 1 เมตร และยิงได้ไกลกว่า 6 เมตร และหากปืนที่ฉีดน้ำออกมาพุ่งเป็นเส้นตรงเส้นเดียวน้ำจะมีความแรงมากขึ้น" น.พ.อดิศักดิ์กล่าว

น.พ.อดิศักดิ์กล่าวอีกว่า ร.พ.เลิศสินเก็บข้อมูลพบว่าช่วงสงกรานต์มีคนไข้เด็กมารักษาโรคทางตาจำนวนมาก บางรายตาบอด สันนิษฐานว่าเกิดจากถูกปืนฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดเข้าดวงตา ดังนั้นจะนำผลวิจัยเรื่องปืนฉีดน้ำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการวิชาการพัฒนามาตรฐานของเล่นเด็กที่ 423 ของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) วันที่ 7 เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาเรื่องคุณภาพมาตรฐานปืนฉีดน้ำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้วันที่ 9-11 เม.ย.นี้ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ จะประชุมวิชาการ ซึ่งจะเผยแพร่ผลศึกษาของเล่นเด็กที่มีอันตราย 400 กว่าชิ้น ซึ่งมีจำหน่ายแพร่หลายในประเทศไทย โดยมีสารพิษปนเปื้อน เช่น สารตะกั่ว สารปรอท เป็นต้น รวมทั้งของเล่นบางชิ้นทำจากโลหะ หรือของแข็ง ทำให้มีความแหลมคม ทำให้เกิดบาดแผลกับเด็กได้ ซึ่งแม้แต่ของเล่นพื้นบ้านไทยอย่างปลาตะเพียนสานก็มีอันตรายได้ เพราะมีการใช้ลวดเย็บกระดาษที่มีความแหลมคม

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook