พิจิตรแฉแผนทักษิณล้มสถาบัน

พิจิตรแฉแผนทักษิณล้มสถาบัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วอนคนไทยรักแผ่นดิน ''แม้ว''ปลุกเสื้อแดง 3 วันต้องเผด็จศึกศักดิ์ชัยช่วยกล่อม

พิจิตร กุลละวณิชย์ระบุ''ทักษิณจ้องล้มสถาบันฯ จี้รัฐบาลดำเนินคดี ข้องใจมีเงินฝากที่เกาะเคย์แมนเป็นแสนล้าน ทั้งที่ทำงานเพียง 5-6 ปี ด้านอักชราทรรับกินข้าวบ้านปีย์จริง แต่ไม่ได้คุยเรื่องปฏิวัติ แม้เรื่องอีหนูยังพูดไม่ได้เลย จะพูดเรื่องนี้ได้อย่างไร ประสพสุข ยันผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเป็นห่วงสถานการณ์ มีการประสานคนกลางที่ทั้ง 2 ฝ่ายให้ความเคารพเชื่อถือ เชื่อว่าคงเจรจากันได้เพื่อให้บ้านเมืองสงบก่อนสงกรานต์ อภิสิทธิ์ เผยรัฐบาลพร้อม ถ้ามีตัวกลางช่วยเจรจา แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย สุเทพ แบะท่าพร้อมเจรจากับ ทักษิณ เงื่อนไขคือ ต้องให้ประเทศชาติปลอดภัย ระบุไม่คุยกับ 3 แกนนำเ พราะคนตัดสินใจคือ ทักษิณ ส่วน ปชป.ปูด ญาติผู้ใหญ่เรียก ทักษิณ มาคุยเพื่อหาทางลง ด้าน จตุพร ปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่มีการเจรจา เป็นเหลี่ยมคูทางการเมือง ขณะที่ม็อบเสื้อแดง ดาวกระจายไป คิงเพาเวอร์ ทำการจราจรติดหนัก ณัฐวุฒิ ยันไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ เผยคืนนี้ ทักษิณ วิดีโอลิงก์แน่นอน

ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 เม.ย. บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่ม นปช.และคนเสื้อแดง ปักหลักชุมนุมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 9 วันแล้ว ยังคงมีประชาชนมาปักหลัก ฟังการปราศรัยบนเวที โดยกางร่มและใส่หมวกกันแดดอยู่จำนวนหนึ่ง แม้ว่าแดดจะร้อนจัดมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงก็ยังมีจำนวน น้อยกว่าพ่อค้าแม่ค้าที่มาวางแผงขายของสารพัดชนิด ที่ล้วนเป็นสีแดงทุกอย่างตลอดทางเท้า มีทั้งหมวก แว่นตากันแดด อาหารและน้ำดื่มทุกชนิดจะขายดีที่สุด เพราะโรงทานของกลุ่มเสื้อแดงมีอาหารแจกจ่ายไม่เพียงพอ ณัฐวุฒิ เผยคืนนี้ได้พบ ทักษิณ

ที่บริเวณด้านหลังเวที สะพานชมัยมรุเชฐ เมื่อเวลา 10.00 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. แถลงว่า คืนนี้เวลา 20.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะวิดีโอลิงก์มาพบปะชาวเสื้อแดง โดยจะพูดประเด็นการเมือง เศรษฐกิจ เพราะอดีตนายกฯเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจมาก ส่วนเรื่องการเมืองเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ประกาศตัวสู้ เพื่อโค่นล้มระบอบอำมาต ยาธิปไตย และนำระบอบประชาธิปไตยคืนมา สำหรับเที่ยงวันนี้ จะมีชาวเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง ไปชุมนุมที่บริษัท คิงเพาเวอร์ เพื่อไปเรียกร้องเชิงสัญลักษณ์ต่อบริษัทดังกล่าว เพราะรู้แน่ชัดแล้วว่า เป็นบริษัทที่สนับสนุนระบอบอำมาตยาธิปไตย ให้ทุนสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยการย้ายขั้วเปลี่ยนข้าง ของพรรคร่วมรัฐบาลมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่ามีผลกระทบโดยตรงต่อกระบวนการประชาธิปไตย นอกจากนี้หากพบว่า มีบริษัทใดสนับสนุนระบอบอำมาตยาธิปไตย เราจะประกาศให้สังคมได้รับรู้ แล้วยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก็อาจจะเผชิญกับการเคลื่อนไหวที่อาจจะหนักหน่วงขึ้น แต่ทั้งนี้จะอยู่ภายใต้กฎหมาย ประธานวุฒิเผยมีคนกลางช่วย

ที่รัฐสภา นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงคนกลางที่จะเข้ามาไกล่เกลี่ยปัญหาการเมืองว่า ขณะนี้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมีความเป็นห่วงในสถานการณ์การเมือง และไม่ได้นิ่งนอนใจ เท่าที่ทราบขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ โดยได้มีการประสานกับคนกลางที่จะทำหน้าที่ดังกล่าวแล้ว โดยคนกลางคนนี้เป็นคนที่จะมาทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย ซึ่งคนนี้ทั้ง 2 ฝ่ายให้ความเคารพ และเชื่อถือ เชื่อว่า คงเจรจากันได้ เพราะสิ่งใดที่จะทำให้บ้านเมืองสงบทุกคนก็ต้องการ แต่ตนคงบอกไม่ได้ว่าเป็นใคร และเรื่องแบบนี้คงจะพูดรายละเอียดไม่ได้ อย่างไรก็ตามการเจรจาไกล่เกลี่ยปัญหาจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 8 เม.ย.นี้ เมื่อถามว่า ได้หารือกับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ยังไม่คุยกัน

ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็มีความเป็นห่วงสถานการณ์ในขณะนี้ ก็มีความพยายามทำกันอยู่ จะเรียบร้อยก่อนวันสงกรานต์ ซึ่งได้มีการประสานกันเป็นภายในแล้ว นายประสพสุข กล่าว สุเทพ พร้อมเจรจา ทักษิณ ที่กองทัพบก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมกับ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เดินทางมาประชุมหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ร่วมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพูดคุยถึงการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงในขณะนี้ มีผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลอย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า อย่างที่ได้เรียนไปแล้วว่าทางกองทัพไม่ได้มีภาระหน้าที่รับผิดชอบกับกลุ่ม ต่าง ๆ กองทัพก็มีภารกิจของกองทัพ ซึ่งเป็นภารกิจของประเทศชาติโดยส่วนรวม และการมาประชุมที่กองทัพบกในครั้งนี้เพราะว่ากองทัพ มีภาระในการดูแลความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้เรื่องเสื้อแดงนั้นไม่ใช่เรื่องของกองทัพเรื่องเสื้อแดงเป็นเรื่องการชุมนุมของประชาชนซึ่งรัฐบาลก็เคารพสิทธิของประชาชน ส่วนกรณีที่โฆษกส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าไม่เชื่อว่านายสุเทพ พร้อมจะเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาเพราะตนรู้จัก พ.ต.ท.ทักษิณดี และ พ.ต.ท.ทักษิณก็รู้จักตน ส่วนลูกน้อง พ.ต.ท.ทักษิณจะเชื่อหรือไม่ เป็นเรื่องปกติ วิจารณ์กันไป และยืนยันว่าพร้อมจะเจรจาด้วย หากต้องไปเจรจากับแกนนำ นปช.ทั้ง 3 คนนั้น เรื่องนี้คงไม่ได้ เพราะคนที่ตัดสินใจเรื่องนี้คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ในเงื่อนไขชาติต้องปลอดภัย

เมื่อถามว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ส่งคนไปเจรจากับกลุ่ม นปช.จริงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้ส่งคนในพรรคไปเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุม ส่วนกรอบและเงื่อนไขการเจรจาคือ ต้องให้ประเทศชาติปลอดภัย การเจรจาใด ๆ ก็ตาม ถ้าทำให้ประเทศชาติและประชาชนปลอด ภัยก็ได้ทั้งนั้น เมื่อถามว่าจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องพ้นคดีและกลับเข้าสู่การเมืองได้อีกยอมรับได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ทั้งหมดต้องเป็นไปตามหลักการของกฎหมาย เมื่อถามว่าหากยังไม่มีการเจรจาและการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 8 เมษายนนี้รัฐบาลจะทำอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลจะยึดหลักการเคารพสิทธิของประชาชน กฎหมาย รัฐบาลไม่ได้คิดว่าผู้ชุมนุมเป็นศัตรู แต่เราเป็นคนไทยเหมือนกัน ไม่มีปัญหาคุยกันได้ แม้ว่าขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าทำงานในทำเนียบรัฐบาลได้ แต่ถือว่ารัฐบาลยังทำงานได้ งานไม่สะดุด ผมมองโลกในแง่ดี ทุกอย่างที่เป็นแนวทางที่ดี ผมหวังทั้งนั้น ฝันทั้งนั้น ส่วนกรณี ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินอีกในวันนี้ไม่เป็นปัญหา ประชาชนมีวิจารณญาณตัดสินใจได้ว่าอะไรถูกผิด อภิสิทธิ์ ยันไม่เจรจาล้างคดี

ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 14.45 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากประเทศอังกฤษ ถึงกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เสนอให้เจรจากับ พ.ต.ท. ทักษิณว่า ตนไม่มีอะไร ถ้าจะไปพบปะกันที่ใดตนก็บอกได้เพียงว่า เราให้ความเป็นธรรม ทุก อย่างเป็นไปตามกฎหมาย สำหรับแนวทางการเจรจานั้นขึ้นอยู่ว่าจะคุยในลักษณะใด เพราะจุดยืนของรัฐบาลจะไม่นำเรื่องใดมาต่อรองเพื่อให้เกิดปัญหาต่อไปในอนาคต หรือไม่รักษาหลักของบ้านเมืองและความถูกต้อง เพราะความถูกต้องและความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติอยู่ เหนือสิ่งอื่นใด ไม่สามารถต่อรองได้ แต่ถ้าจะพูดคุยเพื่อให้เกิดความเข้าใจว่า รัฐบาลไม่ได้มีเจตนาในการกลั่นแกล้ง และจะให้ความเป็นธรรม ความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ก็คุยกันได้ ส่วนแกนนำผู้ชุมนุม ผู้ชุมนุม และฝ่ายค้านนั้น ถ้าจะพูดคุยเกี่ยวกับกรอบการปฏิรูปการเมืองการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็พูดคุยกันได้ แต่ถ้าจะต่อรองว่าให้ทำอะไรที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้รัฐบาลอยู่ได้ พวก ตนไม่ทำ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีความพยายาม ที่จะมาพูดคุยจากฝั่งตรงกันข้าม

คนทำผิดแล้วไม่ต้องยอมรับผิด ก็คงไม่ได้ ส่วนถ้ารับผิดแล้วต่อไปวันข้างหน้า มีกระบวน การในการให้อภัยกัน สังคมเราก็มีอยู่แล้ว แต่นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่จะต้องรับผิดก่อน นายกฯ กล่าว ระบุไม่คิดใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจุดยืนของกลุ่มเสื้อแดงคือ การโค่นล้มระบอบอมาตยาธิปไตย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการของสภา และตนมาจากการเลือกของสภา ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก็ทำในสภา ซึ่งรัฐบาลมีเสียงข้างมากสนับสนุนเพิ่มขึ้น จึงไม่มีเหตุผลใดที่บอกว่า ขณะนี้มีบุคคลอื่นนอกระบบการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อถามว่าทำไมกลุ่มผู้ชุมนุมจึงต้องการให้เกิดการเผชิญหน้ากัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เห็นได้ว่ามีบุคคลที่ถูกกระบวนการยุติธรรมตัดสินลงโทษแล้วไม่ยอมมารับผิด หรือไม่รับผิดชอบกับการกระทำของตัวเองในอดีต แม้จะเป็นความผิดที่เห็นว่า กฎหมายเป็นธรรมหรือไม่ แต่ก็ต้องแก้ด้วยกระบวนการของกฎหมาย ไม่ใช่สร้างการเผชิญหน้าแล้วดึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง หรือดึงสถาบันหลักของชาติเข้ามาอยู่ในความขัดแย้ง ซึ่งเราจะเห็นว่าเรื่องที่เขานำมาพูดก็ไม่ได้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง

ต่อข้อถามว่ากลุ่มคนเสื้อแดงประกาศว่าจะระดมคนถึง 3 แสนคน มาชุมนุมใหญ่ในวันที่ 8 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลวางแผนในการวางกำลังเจ้าหน้าที่ที่ดูแลความสงบความเรียบร้อยไว้แล้ว ทั้งนี้ยังไม่มีความคิดที่จะบังคับใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และยังเชื่อว่าการใช้กำลังตำรวจซึ่งสามารถร้องขอกองทัพ หรือบุคคลจากฝ่ายอื่นมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน จะเพียงพอในการดูแลสถานการณ์ได้ ผู้สื่อข่าวถามถึงการประชุม ครม.ในวันที่ 7 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะไปดูเรื่องการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาที่พัทยา จ.ชลบุรี บุญยอดระบุเป็นญาติผู้ใหญ่

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังเดินทางออกจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปยังประเทศแห่งหนึ่งในทวีปยุโรปเพื่อไปเจรจากับผู้ใหญ่ที่เป็นญาติผู้ใหญ่วัย 80 ปี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยผู้ใหญ่คนนี้มีความใกล้ชิดกับปู่และย่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอดีตทูตไทยในต่างประเทศ เสรีไทยและมีความสนิทสนม กับ นายเติ้ง เสี่ยว ผิง อดีตผู้นำสูงสุดของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นการนัดกันผ่านทางคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นคนเชียงใหม่ โดยการเจรจาดังกล่าวน่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะจะเป็นการเจรจาเพื่อหาทางลงให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากเห็นว่าการเคลื่อนไหวที่ผ่านมาไม่สามารถไปต่อได้อีกแล้ว จึงเชื่อว่าโทนการปราศรัยผ่านวิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ในคืนนี้จะเปลี่ยนไปในทางที่เป็นผลดีต่อประเทศชาติมากขึ้น

เมื่อถามว่าญาติผู้ใหญ่คนดังกล่าว เป็น คนเดียวกับที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร บอกว่าจะมีผู้มีบุญบารมีมาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับคนเสื้อแดงหรือไม่ นายบุญยอด กล่าวว่า เป็นคนละคนกัน โดยข้อมูลนี้ตนได้จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ซึ่งเจ้าตัวย้ำว่า ให้จับตาดูการวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ในคืนนี้ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป

แหล่งข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ใหญ่ที่คาดว่าจะมาเป็นผู้เจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ คือ นายศักดิ์ชัย บำรุงพงษ์ อดีตเอกอัครราชทูต และเป็นญาติกับ พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ บิดาของ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ (ชินวัตร) อดีตภริยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั่นเอง พงศ์เทพ ปัดข่าวเจรจา สุเทพ

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวปฏิเสธยืนยันว่า ไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมเจรจากับนาย สุเทพ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะนายสุเทพ ไม่เคยติดต่อกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นสิ่งที่ นายสุเทพพูดจึงเป็นเพียงการหวังผลทางการเมือง เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ชี้นำให้คนเสื้อแดงยุติความเคลื่อนไหวได้ ทั้งที่ความจริงผู้ที่นายสุเทพ น่าจะไปพูดคุยคือแกนนำคนเสื้อแดงที่ปักหลักอยู่ข้างทำเนียบรัฐบาลมากกว่า กรณีที่องคมนตรีหลายคน ให้สัมภาษณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดจาพาดพิงสถาบันนั้น สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้พูดไปเป็นการพูดถึงองคมนตรีบางคนเท่านั้น ไม่ได้พาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง ซึ่งในทุกวงการต้องมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ซึ่งคนดีจะต้องกำจัดหรือไล่ให้คนไม่ดีออกไป พิจิตร ระบุ ทักษิณ จาบจ้วง

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ว่า ตนเป็นทหารอาชีพ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องปกป้อง ประเทศไทยอยู่รอดมาได้เพราะพระมหากษัตริย์ทรงปรีชาสามารถ สถานการณ์การเมืองที่เป็นแบบนี้ เพราะเราไม่ได้สร้างคน สร้างแต่วัตถุ เมื่อถามว่าเป็นห่วงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า ไม่อยากฝาก เพราะตนเป็นองคมนตรี แต่สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ล่วงล้ำพระราชอำนาจอย่างไร การทำบุญในวัดพระแก้วทำได้หรือไม่ เราเป็นคนไทยเรากราบพระแก้วมรกตได้ แต่ทำบุญในวัดพระแก้วไม่ได้ทำไม่ถูก และเมื่อพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ก็โทรศัพท์มาพูดออกผ่านทีวี ถ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โทรศัพท์มากระซิบข้างหูก็จะกลับมา พระองค์ท่านเป็นเพื่อนเล่นของเขาหรือ ทำงาน 5-6 ปีมีเงินแสนล้าน

ผู้สื่อข่าวถามว่าการกระทำดังกล่าว พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงใช่หรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า ใช่ สิ่งนี้ทำไมไม่มีใครเอาเรื่อง ถือเป็นการกระทำที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รับราชการเป็นถึงนายกรัฐมนตรี ทำอย่างนี้ได้อย่างไร ทั้งนี้ยังมีกรณีอื่นเช่น เคยได้ยินเกาะเคย์แมน ซึ่งนายราล์ฟ แอล.บอยซ์ จูเนียร์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย มาพบกับตน และประโยคแรกที่ถาม นายกรัฐมนตรีของไทย (พ.ต.ท.ทักษิณ) ไปยุ่งอะไรกับเกาะเคย์แมน ทั้งนี้ตนพอทราบมาบ้าง จึงถามกลับไปว่า เกาะนี้เป็นเกาะอะไร นายราล์ฟ กล่าวว่า เป็นเกาะที่ฟอกเงินไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และมีนายกรัฐมนตรีของชาติอื่นด้วย โดยมีนายกรัฐมนตรีของอิตาลีเป็นเจ้าของบ่อนกาสิโน เมื่อเขาสืบรู้ก็ต้องลาออก ดังนั้นเมื่อ นายราล์ฟรู้ ทำไมคนอเมริกันส่วนใหญ่ทำไมจะไม่รู้ ทั้งนี้สื่อต้องไปตรวจสอบ เขาเอาเงินไปฝากไว้ทำไม ลองคิดดูทำงานมาแค่ 5-6 ปีมีเงินฝากถึง 1 แสนล้าน ได้อย่างไร ทักษิณ จ้องล้มสถาบันหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่าหน่วยงานของรัฐย่อหย่อน ในการดำเนินการเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า ลองคิดเอาเอง เมื่อถามว่ารัฐบาลควรจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องนำมาแฉให้ประชาชนรับรู้ให้ได้ สืบมาว่ามันคืออะไร และหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือไม่ เมื่อถามว่า การต่อสู้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการจ้องล้มสถาบันกษัตริย์หรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า แน่นอน ทั้งนี้ทำไมคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบไม่ไปดำเนินการ ซึ่งการทำงานของรัฐบาลในเรื่องนี้ทำได้ช้า เมื่อถามว่าได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯพระองค์ มีความเป็นห่วงกับสถานการณ์บ้านเมืองอย่างไร พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า ก็เรื่องคนที่จะต้องสร้างให้คนรักหวง และห่วงแผ่นดิน

ปัญญาชนต้องคิดตรองและไปเชื่อเขาได้อย่างไร ผมเป็นทหารชั่วชีวิต ใช้ไปรบที่ไหนก็ไป คนเรามีแค่นี้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ร่างเอาไปไม่ได้ กระดูกก็เอาไปไม่ได้ แล้วจะโลภโมโทสันกันไปทำไม สตางค์ในปากก็ยังเอาไปไม่ได้เลย แล้วจะโลภโมโทสันไปทำไม ทั้งนี้ยอมรับว่าองคมนตรีได้มีการพูดคุยถึงสถานการณ์บ้านเมืองทุกอาทิตย์ พล.อ.พิจิตร กล่าว เมื่อถามว่าปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ พ.ต.ท. ทักษิณ คนเดียวใช่หรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า ไม่อยากพูด แต่สื่อลองไปคิดดูเอาเอง

ทางด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ. พิจิตร แนะนำว่าให้มีการตรวจสอบเรื่องการฟอกเงินที่เกาะเคย์แมนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ผม คิดว่าน่าสนใจ แต่ต้องขอไปดูหน่อย เพราะผมมีความรู้ในเรื่องพรรค์อย่างนี้น้อย แต่น่าสนใจศึกษา เมื่อถามว่า จะสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เดี๋ยวลองดู อักขราทร ปัดยุ่งเรื่องปฏิวัติ

นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น ถึงกรณีถูก พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ 19 ก.ย. 49 ว่า ไม่รู้ เพราะตนอยู่ข้างนอก เขาพาดพิงมาก็ให้ถามคนที่พาดพิง อย่ามาถามตน และขอยืนยันว่า ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติอย่างที่กล่าวหา เมื่อถามว่ามีข่าวระบุว่า ไปร่วมรับประทานอาหารที่บ้าน นายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา นั้น นายอักขราทร กล่าวว่า เราเป็นคนรู้จักกัน เรื่องกินข้าวไปกินทุกบ้านไม่มีปัญหา แต่คนที่เอ่ยชื่อมานี้ ขนาดพูดเรื่องอีหนูยังพูดกันไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรจะไปพูดเรื่องปฏิวัติ เมื่อถามต่อว่า เป็นตุลาการไปคุยกันเรื่องการเมือง เหมาะสมหรือไม่ นายอักขราทร ก็ย้อนถามกลับอย่างมีอารมณ์ว่า แล้วรู้ได้อย่างไรว่าพูดเรื่องการเมือง ที่เขาพูดกันก็ให้พูดกันไป ไปถามคนที่กล่าวหาแล้วกัน และเรื่องนี้มันก็เป็นปี ๆ แล้ว ซึ่งไม่ได้ส่งผลถึงตุลาการภิวัฒน์เลย

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ตุลาการภิวัฒน์กำลังทำให้องค์กรตุลาการเสียหายหรือไม่ และทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายในขณะนี้หรือไม่ นายอักขราทร กล่าวอย่างหนักแน่นว่า ไม่ได้เสียหาย และไม่มีอะไร ตนไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ถ้าอยากรู้เรื่องตุลาการภิวัฒน์ วันที่ 5 เม.ย. ซึ่งเป็นวันสัญญา ธรรมศักดิ์ จะมีการจัดงานที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ลองไปฟังดูว่าเขาจะพูดเรื่องตุลาการภิวัฒน์กันอย่างไร แต่ยืนยันว่าองค์กรตุลาการไม่ได้สร้างความเสียหาย หรือทำให้เสื่อมเสียแต่อย่างใด เผยยุทธศาสตร์ ทักษิณ ต่อสู้

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่าสำหรับ ยุทธศาสตร์การต่อสู้ของฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีมวลชนเสื้อแดงเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ โดยมีการยกระดับความเคลื่อนไหวให้เข้มข้นมากขึ้นนั้น เป้าหมายเพื่อเปิดทางไปสู่การเจรจาซึ่งเงื่อนไข สูงสุด คือการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ซึ่งนอกจากจะหลุดจากคดี ต่าง ๆ แล้วยังรวมถึงการได้เงินที่ถูกอายัดกว่า 7.6 หมื่นล้านคืน โดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยินยอมไม่กลับเข้าสู่การเมืองด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้ง นอกจากนี้ภายหลังที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้สะท้อนปัญหาต่อที่ประชุมที่ประชาชนในพื้นที่ขอรับการ สนับสนุนเช่น รถสำหรับเดินทางอุปกรณ์เสื้อแดง แต่งบสนับสนุนกลับกระจุกอยู่ที่ส่วนกลางนั้น ปรากฏว่าล่าสุดผู้ใหญ่ได้จัดงบประมาณเบื้องต้นให้กับ ส.ส. รายละ 2 แสนบาท เพื่อไปดำเนินการเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้เตรียมพร้อมมวลชนเขตเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 30,000 คน ล็อบบี้ เหนาะ รัฐบาลกลาง

แหล่งข่าวแจ้งว่าขณะที่ความเคลื่อนไหวของนายเนวิน ชิดชอบ ได้วางแผนแก้ลำ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเจรจาสนับสนุนให้นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เป็นนายกรัฐมนตรี และให้มีรัฐบาลกลางที่ทุกพรรคทำงานร่วมกันในระยะเวลาสั้น ๆ 3 เดือน งานแรกคือ แก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าไปจนถึงการวางกรอบแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนั้นจึงประกาศยุบสภา เพื่อลดอุณหภูมิความขัดแย้งในระยะเวลาหนึ่ง และสกัดไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ บรรลุเป้าหมายเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง ประกอบกับประเมินว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะขณะนี้ไม่สามารถควบคุมกลไกการใช้อำนาจรัฐ อย่างข้าราชการได้ โดยแหล่งข่าวรายนี้อ้างว่าถึงพรรคประชาธิปัตย์ ไม่อยากยอมก็จำเป็นต้องยินยอม เพราะหากพรรคร่วมโดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยถอนตัวรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่รอด ประเมินสัญญาณขั้นแตกหัก

แหล่งข่าวจากกลุ่มเพื่อนเนวิน แจ้งว่าจากการวิเคราะห์หากประนีประนอมไม่สำเร็จ สัญญาณยกระดับความเข้มข้นขั้นสุดท้ายของคนเสื้อแดงเพื่อนำไปสู่การแตกหัก คือการเคลื่อนขบวนไปยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ และการบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งในประเด็นดังกล่าว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และนายเนวิน ได้มีการหารือหลายครั้งที่อาคารสิริภิญโญ มีความเห็นให้กลุ่มเพื่อนเนวินที่มีนายโสภณ ซารัมย์ รมว. คมนาคม รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ โดย เตรียมพร้อมใช้กำลังทหารสกัดเต็มที่ ซึ่งได้มีการขึ้นบัญชีรายชื่อแกนนำ ที่คาดว่าจะนำมวลชนเข้าบุกยึดไว้เรียบร้อยแล้ว และในจำนวนนั้นมี ส.ส. อีสาน พรรคเพื่อไทยหลายราย กลุ่มคนขอนแก่นเคลื่อนไหว

ที่ จ.ขอนแก่น เมื่อเวลา 09.30 น. กลุ่มผู้จงรักภักดีชาวขอนแก่น นำโดย นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ผศ.นพ.วัฒนา หาญพานิชย์ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อประชาธิปไตยขอนแก่น พร้อมประชาชน 300 คน รวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจังหวัดขอนแก่น จากนั้นได้เดินไปตามถนนศรีจันทร์ เข้าสู่ถนนกลางเมือง เชิญชวนคนขอนแก่นให้ออกมาร่วมแสดงออกถึง ความจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน ต่อต้านการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนการกล่าวผ่านวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่เดินมาถนนหลังศูนย์ราชการ ได้เกิดพบกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมกันอยู่ประมาณ 50 คน จนหวิดเกิดปะทะกัน จน พ.ต.อ.ฉลอง ภาคย์ภิญโญ รอง ผบก.ภ.ขอนแก่น ต้องนำกำลังตำรวจมาแยกออกจากกัน จากนั้นกลุ่มดังกล่าวจึงเข้ายื่นหนังสือต่อ นายทรงพล จำปาพันธ์ รองผวจ.ขอนแก่น ให้ นายกฯกล้าที่จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

ที่ จ.กระบี่ เมื่อเวลา 15.00 น. กลุ่มพันธมิตรฯกระบี่สองคาบสมุทร และชมรมชาวสงขลา จ.กระบี่ 300 คน นำโดย นายอัมพร ตันบุตร ได้รวมตัวกันที่ศาลหลักเมืองกระบี่ จากนั้นจึงเดินขบวนมายังศาลากลางจังหวัด ถือป้ายมีข้อความปกป้องประธานองคมนตรี หยุด นปช.เสื้อแดง พร้อมอ่านคำแถลงการณ์ของกลุ่ม จากนั้นจึงได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อ นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผวจ.กระบี่ เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป ป๋าเปรม ถึงบ้านไร้กังวล

เมื่อเวลา 15.30 น. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เดินทางด้วยรถโฟล์กตู้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฮง 2992 กรุงเทพมหานคร มาถึงบ้านไร้กังวล เลขที่ 1885 ซอยสืบศิริ 32 อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมี พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผวจ.นครราชสีมา พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.3 พร้อมข้าราชการ รอต้อนรับ โดยมีกำลังตำรวจกว่า 200 นายคอยรักษาความปลอดภัยโดยรอบบ้านและซอยใกล้เคียง พล.อ.เปรม ได้กล่าวขอบคุณและทักทายผู้ต้อนรับประมาณ 15 นาทีจึงเข้าบ้านพักเพื่อพักผ่อน

เช่นเดียวกับที่ จ.พัทลุง คนเสื้อแดงนำโดย นายสมพงศ์ ศรียะพันธุ์ นายสงวน จันทร์อักษร ได้ตั้งเวทีปราศรัย มีคนมาร่วมฟังประมาณ 500 คน โดยมี นายสุรชัย ด่านวัฒนอนุสรณ์ (แซ่ด่าน) ร่วมด้วย กล่าวปราศรัยโจมตี พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม เลิกเกี่ยวข้องกับการเมือง ลั่นคนเสื้อแดงปิดทางเจรจา

ต่อมาเวลา 17.30 น. ที่ด้านหลังเวทีปราศรัย นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง แถลงโจมตีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ว่า สิ่งที่ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาบอกว่า วันนี้จะมีคนที่เป็นระดับญาติผู้ใหญ่ไปเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อหาทางลงให้กับกลุ่มเสื้อแดงนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะวันเดียวกันนี้ ตนได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว และยืนยันว่าจะมีการปราศรัยผ่านวิดีโอลิงก์มาเช่นเดิมในเวลา 20.00 น. เพื่อที่จะเชิญชวนให้ประชาชนทั่วประเทศเดินทางมาร่วมชุมนุมในวันที่ 8 เม.ย.นี้ให้เต็มพื้นที่ตามเป้าหมายที่วางไว้ และการที่ นายสุเทพอ้างว่าจะเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว โดยไม่ขอเจรจากับ 3 เกลอนั้นก็ไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเพียงเหลี่ยมคูทางการเมือง ออกมาให้ข่าวเพื่อหวังประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น เพราะเราได้ปิดทางการเจรจา กับนายสุเทพ และรัฐบาลมาตั้งแต่ต้นแล้ว เนื่องจากการชุมนุมครั้งนี้เป็นการยกระดับการขับไล่รัฐบาล ดังนั้นจะไม่มีการเจรจาใด ๆ ทั้งสิ้น มั่นใจเสื้อแดง 3 แสนบุกกรุง

นายจตุพร ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงบ่ายที่ผ่านมาเราได้หารือกันถึงรูปแบบการเคลื่อนไหวในวันที่ 8 เม.ย.นี้ โดยจะจัดระดมประชาชนจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะทยอยเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. ตั้งเป้าหมายไว้ที่เกิน 3 แสนคน ทั้งนี้จะนำกองทุนที่ได้รับจากการบริจาคของประชาชนเป็นค่ารถเดินทางมายังกท. เพราะเราจะไม่มีการจ้างมาอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้มีเงินที่ได้รับบริจาคมาแล้ว 5 ล้านบาท เชื่อว่ากว่าจะถึงวันที่ 8 เม.ย. น่าจะได้จำนวนมากขึ้น โดยเราจะใช้เงินกองทุนทั้งหมดเป็นค่าใช้จ่ายในวันดังกล่าว วันที่ 8 เม.ย. เราจะประกาศมาตรการที่ชัดเจน ถ้าจบได้ก็จะจบเลย แต่จะไม่มีการเคลื่อนขบวน เพราะมั่นใจว่าคนเสื้อแดงจะมากันเต็มพื้นที่ จนถึงบ้านสี่เสาเทเวศร์ ผมเชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแน่ในวันนั้น และไม่ใช่เป็นทางลงของคนเสื้อแดง แต่จะเป็นทางลงของ พล.อ. เปรม เมื่อถามว่าหากคนเสื้อแดงไม่ล้นไปถึงบ้านสี่เสาเทเวศร์จะทำอย่างไร นายจตุพร กล่าวว่า สำนวนจีนบอกว่ามิมั่นใจคงไม่ลงมือ และถ้าฝ่ายรัฐมีการใช้กำลังก็จะยิ่งทำให้เหตุการณ์บานปลายจนบ้านเมืองลุกเป็นไฟแน่นอน ทักษิณ วิดีโอลิงก์ตามนัด20น.

เมื่อเวลา 20.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวทางวิดีโอลิงก์ กับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงว่า ที่หายหน้าไป 2 วัน ไม่ได้หายไปไหน แต่เพื่อจะดูว่ามีข่าวลือ หรือมีใครพูดถึงตนอย่างไรหรือไม่ และที่มีข่าวว่าตนส่งคนไปเจรจา หรือมีการส่งใครมาเจรจา ก็เป็นการทำเพื่อชาติทั้งสิ้น ทางทหารมีการปล่อยข่าวว่า เครื่องบินของตนไปลงที่กัมพูชา ในวันที่ 2 เม.ย.ซึ่งมีข่าวว่ามีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ซึ่งตนต้องขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์นี้ เรียกร้องให้ช่วยออกมาชุมนุม

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีการปฏิวัติแล้วถึง 17 ครั้ง และในวันที่ 8 เม.ย.นี้อาจมีการปฏิวัติโดยประชาชนก็ได้ การที่ประเทศมีการเปลี่ยนนักการเมืองบ่อย ทำให้ประเทศไม่เข้มแข็งเพราะไม่สบอารมณ์อำมาตย์ เป็นการเมืองเพื่อชนชั้นกรุงเทพฯ ไม่ใช่เพื่อประชาชน ในวันนี้ตนขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ทั้งทหาร ตำรวจ และข้าราชการที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม คนที่ตกงานให้มารวมกันมาก ๆ ในถนนราชดำเนิน ไปจนถึงลานพระรูป ในต่างจังหวัดหากมาไม่ได้ก็ให้ไปรวบกันที่ศาลากลางจังหวัด ออกมากันให้มากๆ ให้มากกว่า 14 ตุลา 16 เพื่อรับประชาธิปไตยที่แท้จริง เพื่อเสรีภาพ ภารดรภาพ ตนขอเรียกร้องให้ใช้ รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ถึงแม้จะมีข้อบกพร่องก็แต่ก็แก้ไขได้ ต้องยุบสภา ยุติ ส.ส. และ ส.ว. ต้องคืนสิทธิให้พวกที่ถูกตัดสิทธิโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ และในวันที่ 8 เม.ย. ตนขอให้ตำรวจอย่าขวางประชาชน ตนขอเวลาเพียงวันที่ 8-9 และ 10 เท่านั้นก็สามารถเผด็จศึกได้แล้ว ซึ่งเวลานี้ไม่มีการเจรจาใด ๆ กันอีกแล้ว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook