รื้อระบบจัดเก็บภาษีสรรพสามิตช่วยเอกชนวิ่งฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ

รื้อระบบจัดเก็บภาษีสรรพสามิตช่วยเอกชนวิ่งฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิตตรวจสอบว่าในรอบ 5-10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 มีภาษีรายการใดบ้างที่เคยจัดเก็บ แล้วลดหย่อนในช่วงเกิดวิกฤติ เพื่อบรรเทาภาระของผู้ประกอบการ และยังไม่กลับไปจัด เก็บตามอัตราเดิมอีก โดยจะดูความเหมาะสม ในการจัดเก็บประกอบว่าเหตุผลอะไรที่ลดภาษีประเภทนั้น ๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว และปัจจุบันจำเป็นต้องลดภาษีประเภทนั้นอยู่อีกหรือไม่

นโยบายส่วนใหญ่ที่มอบไปนั้น จะให้ในเชิงหลักการ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ ความเหมาะสม รวมถึงตั้งคณะทำงานศึกษารายละเอียดทั้งหมด ก่อนหาข้อสรุปและดำเนินการ โดยมีหลักว่าให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่มีฝ่ายใดได้หรือเสียเปรียบ และปีงบประมาณ 53 รัฐ บาลจะเพิ่มงบประมาณด้านการปราบปรามให้มากขึ้น เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้สินค้าที่เสียภาษีถูกต้องตามกฎหมาย เพราะเมื่อเก็บภาษีจากผู้ประกอบการ ต้องทำให้เขาอยู่รอด ไม่สูญเสียผลประโยชน์ด้วย ตามหลักการว่า ผู้ที่เสียภาษีให้รัฐบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมายต้องได้รับความคุ้มครองที่เป็นธรรมด้วย

ผมจะดูว่ามีส่วนไหนที่จำเป็นต้องจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มเติมบ้าง เพราะที่ผ่านมาการทำงานมีหลายมาตรฐาน บางครั้งอ้างหลักการในการจัดเก็บแล้ว แต่ก็เกิดปัญหาหลายมาตรฐานขึ้นมา อีกทั้งต้องดูการบังคับใช้กฎหมายว่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกหรือไม่ จึงน่าจะต้องสังคายนาระบบการจัดเก็บภาษีใหม่อีกครั้ง เพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ขณะนี้สินค้าแต่ละประเภท แต่ละยี่ห้อ จัดเก็บไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดความลักลั่นขึ้น และบางครั้งสินค้าที่ออกจำหน่ายคนละช่วงเวลา จะใช้หลักการจัดเก็บไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ทั้งระบบ คาดว่าเดือนเม.ย.นี้จะมีข้อสรุป

ส่วนกรณีที่เกษตรกรร้องเรียนการที่จะจัดเก็บภาษีชา กาแฟนั้น อาจเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด เพราะที่สั่งให้ศึกษาคือการจัดเก็บภาษีจากเครื่องดื่มชา กาแฟสำเร็จรูป ซึ่งยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเกษตรกร.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook