โจ๋ใจแตก! ท้อง-ทำแท้งเพียบ เกือบครึ่งอายุน้อยกว่า20ปี

โจ๋ใจแตก! ท้อง-ทำแท้งเพียบ เกือบครึ่งอายุน้อยกว่า20ปี

โจ๋ใจแตก! ท้อง-ทำแท้งเพียบ เกือบครึ่งอายุน้อยกว่า20ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักเรียน-นักศึกษา เมืองหมอแคน มีเพศสัมพันธ์กับแฟน พาดตั้งท้องร้อยละ 30.5 นักวิชาการสาธารณสุขเผย พบวัยรุ่นชายมีเพศสัมพันธ์กับแฟนและเพื่อนสนิทเพิ่มขึ้น โรงพยาบาลขอนแก่น ปฏิบัติการเชิงรุก จัดค่ายเพื่อให้ความรู้เพศศึกษา แก่นักเรียนพร้อมใช้สื่ออินเทอร์เน็ต ยิงตรงกลุ่มเป้าหมาย

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติในหมู่วัยรุ่นชาย-หญิง ที่มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันเหมาะสม จนเกิดตั้งท้องและกลายเป็นภาระของสังคม นางกมลา วัฒนายิ่งเจริญชัย นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ขอนแก่น เปิดเผยในการประชุมคณะกรรมการดำเนินโครงการพัฒนาเครือข่ายเพื่อลดภาวะการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ของเด็กวัยเรียนและวัยรุ่น จ.ขอนแก่น ที่ห้องประชุมเสียงแคน ศาลากลางจังหวัด ว่า นับตั้งแต่ปี 2548 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน อัตราหญิงตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ใน จ.ขอนแก่น มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปี 2548 มีหญิงตั้งครรภ์อายุต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 14.35 ในปี 2549 มีจำนวนร้อยละ 15.8 ปี 2550 มีร้อยละ 16.65 ซึ่งในปี 2551 ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 16.68 มากกว่าเป้าหมายที่กรมอนามัยกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 10

นางกมลากล่าวว่า หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่มาคลอดที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ร้อยละ 42.7 มีอาชีพรับจ้าง ร้อยละ 20.8 เป็นกลุ่มแม่บ้าน ที่น่าตกใจพบว่าร้อยละ 30.5 เป็นนักเรียน-นักศึกษา จากการศึกษาถึงพฤติกรรมทางเพศในเขตพื้นที่เสี่ยงของ จ.ขอนแก่น พบนักเรียนชายมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตอนอายุ 15 ปี ส่วนใหญ่จะมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนสนิท แฟน หรือคนรัก แทนการไปซื้อบริการจากหญิงขายบริการ จากข้อมูลปี 2548 นักเรียนชาย ม.5 ใน จ.ขอนแก่น ร้อยละ 65.4 มีเพศสัมพันธ์กับคนรัก ครึ่งหนึ่งมีการใช้ถุงยางอนามัยในการร่วมเพศ สำหรับนักเรียนหญิงชั้น ม.5 ใน จ.ขอนแก่น พบมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปี โดยสถิติการมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนสนิท หรือแฟนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการสำรวจเมื่อปี 2548 มีเพศสัมพันธ์กับแฟน ร้อยละ 87 ปี 2550 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 95 โดยไม่ใช้ถุงยางขณะร่วมเพศ

นพ.ธีระวุฒิ ขันประกอบ แพทย์ประจำโรงพยาบาลขอนแก่น เปิดเผยว่า จากสถิติของโรงพยาบาลขอนแก่นในปีงบประมาณ 2551 พบคนไข้ที่มาทำแท้งและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลขอนแก่น ร้อยละ 36 เป็นการทำแท้งโดยผิดกฎหมาย ในจำนวนนี้เป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ถึงร้อยละ 42 ทางภาครัฐมีค่าใช้จ่ายในการรักษาหญิงทำแท้งประมาณ 9 แสนบาท

"ที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลได้เน้นทำงานทั้งเชิงรับและเชิงรุก โดยเปิดคลินิกพร้อมรัก ให้คำปรึกษาก่อนแต่งงานและก่อนมีบุตร ช่วยวางแผนครอบครัวและดูแลภาวะแท้งที่ไม่ปลอดภัย ส่วนมาตรการเชิงรุก ในปีงบประมาณ 2552 จะดำเนิการจัดค่ายเยาวชน กู๊ด เลิฟ แคมป์ เพื่อให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษา พร้อมทั้งใช้สื่ออินเทอร์เน็ต เผยแพร่ข้อมูลไปยังกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น เพื่อลดภาวะการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ของเด็กวัยเรียนและวัยรุ่น" นพ.ธีระวุฒิกล่าว

นายพยัต ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าฯ ขอนแก่น กล่าวว่า ที่ผ่านมา สสจ.ขอนแก่น ได้ดำเนินการด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ในกลุ่มวัยรุ่นและวัยเรียน อาทิ การจัดค่ายอบรมแกนนำปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ การจัดตั้งกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน การให้ความรู้เกี่ยวกับทักษะชีวิตและอนามัยการเจริญพันธุ์ ทั้งนี้เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ในเด็กวัยรุ่นและวัยเรียน แต่การดำเนินการดังกล่าว ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการร่วมแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุม ทางจังหวัดจึงได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินงานโครงการพัฒนาเครือข่ายเพื่อลดภาวะการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ของเด็กวัยรุ่นขึ้น โดยมีคณะกรรมการ 2 ชุด ชุดแรก คือคณะกรรมการอำนวยการดำเนินงาน และชุดที่ 2 คณะกรรมการดำเนินงานระดับจังหวัด ซึ่งคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดมีบทบาทหน้าที่กำหนดนโยบายวางแผนการจัดการโครงการ ติดตามควบคุม กำกับการดำเนินงาน ศึกษาข้อมูลสภาพปัญหา สถานการณ์ ประมาณการและออกติดตามเยี่ยมโรงเรียนในกลุ่มเสี่ยง

"การจะดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จ เบื้องต้นเราควรรู้ว่าจำนวนเด็กวัยรุ่นและวัยเรียนมีจำนวนเท่าไหร่ กลุ่มเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน เมื่อรู้จำนวนกลุ่มเสี่ยง การสร้างเครือข่ายก็จะเกิดขึ้น อาทิ เครือข่ายโรงพยาบาลชุมชน ซึ่งจะต้องมีคลินิกให้คำปรึกษาเพื่อนใจวัยรุ่น ทั้งนี้เด็กนักเรียนในโรงเรียนขยายโอกาสในพื้นที่ห่างไกล ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะระดับชั้น ม.1-4 มีโอกาสออกจากโรงเรียนกลางคัน เพราะตั้งครรภ์ ซึ่งเด็กกลุ่มนี้ควรจะได้รับการศึกษาต่อในภาคการศึกษานอกโรงเรียน หรือ กศน.ต่อไป" นายพยัตกล่าว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook