กกท.ยื่นมือช่วยอดีตแชมป์มวยจักรกริช แอลจียิมพิการ

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 23 เมษายน ที่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 5 บ้านราษฎร์ขยัน ตำบลเขาคีริส อำเภอ พรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) นำโดย นางสาวรัตนาภรณ์ จันทนพันธ์ ผู้ช่วยปฏิบัติงานกองทุนกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย พร้อม ด้วยคณะทำงาน เดินทางมาเพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ จักรกริช แอลจียิม หรือกระต่ายน้อย เกียรติมนต์เทพ ชื่อจริงนายสมศักดิ์ พลาพล (ติ๋ม) อายุ 33 ปี อดีตแชมป์เปี้ยนจูเนียร์ ฟลายเวท ของสหพันธ์มวยโลก WBF หลังต้องแขวนนวมก่อนวัยอันควรพร้อมทั้งมอบเงินให้การช่วยเหลือสนับสนุน ตามโครงการสงเคราะห์ค่ายยังชีพรายเดือนและสวัสดิการกองทุนกีฬามวย เดือนละ 5,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชีธนาคารให้ทุกเดือน ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน 2548 เป็นต้นมา

นางรำไร พลาพล มารดาของจักรกริช กล่าวว่า จักรกริช แอลจียิม มีลักษณะร่างกายเป็นอัมพฤกษ์ ทางด้านร่างกาย ครึ่งซีกทางซ้ายไม่สามารถขยับได้อย่างปกติ อีกทั้งมีการเคลื่อนไหวที่ช้ากว่าคนปกติทั่วไป พูดจายังชัดเจน แต่ขี้ลืม สาเหตุเนื่องมาจากระหว่างการฝึกซ้อมมวย ก่อนที่จะขึ้นชกป้องกันตำแหน่งได้เกิดวูบ สลบไป จากนั้นได้นำตัวส่งโรงพยาบาล โดยแพทย์ได้ระบุว่า สมองของจักรกริชมีความบอบช้ำมาก มีเลือดคั่งในสมอง ต้องทำการผ่าตัดโดยเร่งด่วน หลังจากผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสองออกก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ฟื้นขึ้นมาก็กลายเป็นบุคคลทุพพลภาพ ไม่สามารถดูแลตัวเองได้จึงต้องหยุดชกมวยไปโดยปริยาย นับได้ว่า เป็นนักมวยที่น่าสงสารมากที่สุดคนหนึ่ง ที่ต้องกลายเป็นคนพิการทั้ง ๆ ที่อายุยังน้อยอยู่ ระยะเวลาผ่านไป 13 ปี จนถึงปัจจุบัน ช่วงนาทีชีวิตที่กำลังรุ่งโรจน์มีชื่อเสียง กลับดับวูบลง ผันแปรเป็นตำนานชีวิตที่น่าจดจำไว้ในความทรงจำ

ด้าน นางสาวรัตนาภรณ์ กล่าวว่า สำหรับในส่วนของ การกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย ได้มีการจัดตั้งกองทุนนักกีฬามวย ให้กับนักกีฬามวย ที่ประสบปัญหาเรื่องสุขภาพ โดยทางกองทุนได้มีการจัดสรรงบประมาณในการดูแลนักกีฬา ซึ่งในส่วนของ นายสมศักดิ์ พลาพล หรือ จักรกริช แอลจียิม ทางสำนักได้มีการจัดสรรงบประมาณให้จำนวน 5,000 บาท ต่อเดือน โดยจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารให้ เพื่อไว้ใช้ประโยชน์ในการดูแลชีวิตประจำวัน ซึ่งก็ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 48 เป็นต้นมา สำหรับในครั้งนี้ทางสำนักกองทุนกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย ได้มอบหมายให้ออกเยี่ยมนักกีฬาตามพื้นที่ต่างๆ ที่นักกีฬาพักอาศัยอยู่