ดีแต่ยาก
นายมหาเศรษฐี
ข้อเสนอของ นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ที่อยากให้รัฐบาลรับทำประกันให้นักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นเป็นแนวคิดที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
เพราะจากเหตุความวุ่นวายของบ้านเมืองเราถึงขั้นรัฐบาลต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทำให้บริษัทประกันภัยต่างๆ ไม่ยอมรับทำประกันให้กับกรุ๊ปทัวร์ชาวต่างชาติที่จะมาเที่ยวไทยด้วยถือว่ามีความเสี่ยงสูง
เมื่อไม่มีบริษัทไหนยอมรับทำประกันให้ นักท่องเที่ยวต่างชาติก็เลยหมดโอกาสที่จะมาไทยในที่สุดเพราะบริษัททัวร์ไม่สามารถแบกรับภาระดังกล่าวแทนได้
นายชุมพลเห็นว่าถ้ารัฐบาลไทยสอดตัวเข้าไปรับทำประกันภัยให้นักท่องเที่ยวแทนแบบเดียวกับที่เคยทำเมื่ออดีตครั้งเกิดเหตุโรคซาร์ระบาดอาจจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหวนกลับมาเที่ยวไทยมากขึ้นก็เป็นได้
เป็นแนวคิดที่ดี แต่จะประสบความสำเร็จตามนั้นหรือไม่ยังเป็นที่สงสัยกันอยู่
เพราะเมื่อพิจารณาจากสาเหตุที่นักท่องเที่ยวต่างชาติพากันเมินไม่ยอมมาไทยในช่วงนี้นั้นมันเกิดจากสถานการณ์บ้านเมืองของเราที่ไม่เอื้อเอาเสียเลยเป็นหลัก
แค่ภาพกองทหารเรือนพันชูอาวุธสงครามสาดกระสุนขึ้นฟ้าพร้อมกันเพื่อขับไล่ม็อบให้พ้นไปจากถนนซึ่งเผยแพร่ไปทั่วโลกอย่างเดียว ใครที่ได้เห็นก็ต้องรู้สึกหนาวด้วยกันทั้งนั้น
ไหนจะภาพของฝูงชนคนเสื้อแดงที่เผารถเมล์ ขับรถแก๊สมาขวางถนน ยังไม่นับเหตุการณ์ลอบสังหารแกนนำกลุ่มคนเสื้อเหลืองกลางกรุงทั้งที่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินบังคับใช้อยู่ตามกระหน่ำซ้ำอีก
กับสภาพบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความขัดแย้ง ห่ากระสุนปืนและกองเลือดลักษณะนี้มันมีอะไรน่ามาเที่ยวชมนักหรือ
วัตถุประสงค์ของคนที่มาเที่ยวนั้นเขาก็หวังจะได้พบกับความสุข สนุกสนาน มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นหลัก ไม่มีใครหรอกที่อยากมาดูการประหัตประหารกัน
หรือถ้าชอบแบบนั้นสู้ไปดูที่อิรัก อิสราเอล ปากีสถาน อัฟกานิสถาน ฯลฯ ไม่ดีกว่าหรือ
ต่อให้รัฐบาลทำประกันคุ้มครองหัวละล้านบาทอย่างไรก็คงไม่สามารถสร้างแรงจูงใจชาวต่างชาติให้ต้องนำชีวิตมาเสี่ยงตายเพื่อแลกกับการได้มาเที่ยวเมืองไทยหรอก
กับแนวคิดนี้แม้โอกาสสำเร็จดูจะยากสักหน่อยแต่ก็ต้องชื่นชมกับความพยายาม เพราะยังไงก็ดีกว่าการงอมืองอเท้ายอมรับชะตากรรมโดยไม่ทำอะไร