บ้านถล่มทับคนงานดับสยอง
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมาจึงได้เร่งนำอุปกรณ์ตัดถ่างและรถเครนขนาดใหญ่มาช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายใน โดยการช่วยเหลือต้องเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากตัวบ้านที่ยังเหลืออาจจะถล่มลงมาเมื่อใดก็ได้ เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำเหล็กและไม้มาค้ำยันเอาไว้ และใช้เวลากว่า 1 ช.ม. จึงจะสามารถช่วยเหลือนำร่างผู้ที่ติดอยู่ภายในบ้านออกมาได้ทราบชื่อคือนายขวิต แก้วพรหม อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ม.16 ต.จระเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
อีกรายคือนายบุญมา วิจารณ์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 ม.10 ต.จระเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาหักทั้ง 2 ข้าง สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงหมดสติ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 ก.ม.
สอบสวนนางดวงฤดี อินทรรักษ์ อายุ 44 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุให้การว่า ตนเองว่าจ้างนายพรรณ โพธิ์แก้ว ผู้รับเหมาจาก ต.จระเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ให้ทำการดีดบ้านเพื่อยกบ้านให้สูงขึ้นเนื่องจากบริเวณบ้านของตนเองนั้นประสบกับปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำ โดยนายพรรณผู้รับเหมานั้นได้นำคนงานจาก จ.บุรีรัมย์ จำนวน 13 คนมาทำงานดีดบ้าน โดยขณะที่คนงานกำลังดึงรอกเพื่อยกเสาบ้านขึ้นอยู่นั้นตัวบ้านได้เกิดการเอียงเป็นเหตุให้ตัวรอกไม่สามารถรับน้ำหนักได้จึงถล่มลงมา
โดยขณะที่บ้านกำลังจะถล่มนั้นคนงานทั้งหมดต่างพากันวิ่งหนีออกมากันหมดเหลือเพียงนายขวิตและนายบุญมา 2 คนงานที่หนีออกมาไม่ทันบ้านทั้งหลังได้ถล่มมาทับเป็นเหตุให้นายขวิต เสียชีวิตทันที ส่วนนายบุญมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตำรวจจะติดตามตัวนายพรรณ ผู้รับเหมามาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหากระทำการโดยประมาททำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บต่อไป