โจรอาละวาดขโมยหม้อแปลงสถานีสูบน้ำ เดือดร้อน 100 กว่าครัวเรือน

โจรอาละวาดขโมยหม้อแปลงสถานีสูบน้ำ เดือดร้อน 100 กว่าครัวเรือน

โจรอาละวาดขโมยหม้อแปลงสถานีสูบน้ำ เดือดร้อน 100 กว่าครัวเรือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(26 มิ.ย.61) นายวิชัย จันทวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกระสัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน ฉวยโอกาสเข้าไปลักขโมยหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ของสถานีสูบน้ำหายไปถึง 3 หมู่บ้าน ตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค. และเดือน ต.ค. 2560  ที่ผ่านมา 

ประกอบด้วยสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านกระสัง, สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านสำโรง และสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านหนองปุน ก่อนที่คนร้ายจะทำการแกะเอาทองแดงที่อยู่ภายในออกไปจนหมดเพื่อนำไปขาย แล้วนำเศษชิ้นส่วนและโครงด้านนอกที่เหลือไปทิ้งในคลองน้ำ    

เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรทั้ง 3 หมู่บ้านกว่า 100 ครัวเรือน เพราะไม่สามารถใช้เครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวของเกษตรกรได้ ประกอบกับทางอบต.ก็ไม่มีงบที่จะจัดซื้อหม้อแปลงใหม่มาติดตั้งได้ต้องรอการเห็นชอบจากสภาฯ

ซึ่งหลังเกิดเหตุทางอบต.ก็ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว  แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมได้    

ซึ่งจากพฤติการณ์คาดว่าคนร้านที่ก่อเหตุลักขโมยหม้อแปลงไฟฟ้าได้ จะต้องมีความชำนาญในการปีนเสาไฟฟ้า รวมถึงต้องมีอุปกรณ์ และความรู้เกี่ยวกับด้านไฟฟ้าเป็นอย่างดี จึงจะสามารถขึ้นไปตัดสายไฟออกจากหม้อแปลงไฟฟ้า ที่สำคัญยังรู้วิธีการนำทองแดงที่อยู่ภายในหม้อแปลงออกไปขายได้อีกด้วย     

นายวิชัย จันทวงศ์ นายกอบต.กระสัง กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนตำบลกระสัง ได้รับการถ่ายโอนภารกิจโครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้า งานบำรุงรักษาคลองส่งน้ำดาดคอนกรีตทั้งสายหลัก สายรอง, งานเก็บค่ากระแสไฟฟ้า, งานประสานจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำจำนวน 3 เครื่องดังกล่าว จากกรมชลประทาน เมื่อปี 2546  

ซึ่งแต่ละปีทาง อบต.ต้องใช้งบประมาณจ่ายค่ากระแสไฟฟ้าเครื่องสูบน้ำทั้ง 3 เครื่อง เพื่อสูบน้ำจากคลองให้เกษตรกร 3 หมู่บ้านกว่า 100 ครัวเรือนใช้ทำการเกษตรเฉลี่ยปีละ 7 – 8 แสนบาท หลังจากเกิดเหตุคนร้ายมาลักขโมยหม้อแปลงเพื่อเอาทองแดงไปขาย ก็ไม่สามารถดำเนินการสูบน้ำให้เกษตรกรได้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน

ซึ่งทางอบต.เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมาก็ได้ทำเรื่องรายงานอำเภอท้องถิ่นจังหวัดได้รับทราบตามขั้นตอนแล้ว แต่เนื่องจากเป็นทรัพย์สินของทางราชการก็ต้องมีการสอบสวนตามกระบวนการ ส่วนทาง อบต.ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาฯ จึงจะสามารถนำงบไปจัดซื้อหม้อแปลงได้

พร้อมกันนี้ยังได้ทำเรื่องขอเช่าหม้อแปลงไฟจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอีกทางหนึ่งด้วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรกว่า 100 ครัวเรือน แต่ขณะนี้ยังรอการพิจารณาตอบรับจากการไฟฟ้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook