ผ่าศพทหาร-หมอสรุป กะโหลกร้าว

แต่ไม่ชี้-โดนฆ่า ตร.ฟันแม้วอีก คดีหมิ่นสถาบัน

ศิริราชผ่าศพพลทหาร อภินพแล้วระบุฐานกะโหลกส่วนหลังแตกร้าว เลือดไหลในเยื่อสมองจนเสียชีวิต อาจถูกของแข็งกระแทกหรือล้มไปกระแทกก็ได้ ทีมรปภ.อารักขามาร์ค เข้มงวดไปกล่าวสุนทรพจน์ที่สำนักงานยูเอ็น มีม็อบแดงไปชุมนุมเล็กน้อย ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง เทพไทให้มาร์คยืมจตุคามรามเทพปี 30 คล้องคอเสริมบารมี-ปกป้องรักษา ส่วนเทือกเปลี่ยนไปนั่งรถกันกระสุนเช่นกัน อลงกรณ์ยอมรับยูเออีไม่ได้ห้ามแม้วเข้าดูไบ แต่ห้ามใช้ดูไบเคลื่อนไหวทางการเมือง บัวแก้วระบุจักรภพยังไม่เผ่นออกนอกประเทศ ส่วนอดิศรเข้ามอบตัวแล้วคดีม็อบแดงก่อนได้ประกันตัว บี้มาร์คให้เปิดดีทีวี จาตุรนต์จวกซ้ำรัฐบาล 2 มาตรฐานเทียบคดีเสื้อแดงกับคดีกษิต กดดันรัฐบาลต้องปิดเอเอสทีวีด้วย สันติบาลประชุมสรุปแม้วให้สัมภาษณ์สื่อนอกหมิ่นสถาบัน

-ห้ามแม้วเข้าดูไบไม่ได้

เมื่อเวลา 09.15 น.วันที่ 27 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมประจำปี ESCAP สมัยที่ 65 ที่สำนักงานสหประชาชาติ ถ.ราชดำเนิน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนมากคอยรักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจากมีกระแสข่าวว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะมาชุมนุมในบริเวณดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่ามีประชาชนประมาณ 10 คนสวมเสื้อหลากสีจับกลุ่มกันอยู่บริเวณป้ายรถเมล์ แต่ไม่ได้โห่ร้อง หรือตะโกนขับไล่นายกฯ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าระวังและสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด

ที่รัฐสภา นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช. พาณิชย์ ในฐานะรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้ประสานงานกับประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวว่า ยูเออีไม่ได้ห้ามพ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ เพียงแต่ห้ามพ.ต.ท.ทักษิณใช้ประเทศของตนเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อโจมตีประเทศไทย ซึ่งยูเออีได้ทำหนังสือแจ้งต่อพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว เนื่องจากไทยและยูเออีอยู่ระหว่างการพัฒนาความสัมพันธ์การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างกัน หากพ.ต.ท. ทักษิณต้องการเข้าไปในยูเออีในฐานะนักธุรกิจก็ทำได้ เนื่องจากได้ซื้อบ้านและอสังหาริมทรัพย์ไว้ในยูเออี โดยเฉพาะในดูไบเป็นจำนวนมาก จนกว่าไทยและยูเออีจะเซ็นหนังสือสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน ขณะนี้ทางยูเออีได้ส่งร่างส่งผู้ร้ายข้ามแดนมาให้กับกระทรวงการต่างประเทศแล้ว เนื่องจากเขามีผู้ร้ายที่ต้องการตัวอยู่ในไทยเหมือนกัน

นายอลงกรณ์กล่าวว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปได้แค่ในประเทศแถวทวีปแอฟริกาและประเทศนิการากัวเท่านั้น เนื่องจากถือพาสปอร์ตทางการทูตของนิการากัวอยู่ ส่วนที่มีข่าวว่าถือพาสปอร์ตของกัมพูชาด้วยนั้นตนไม่ทราบ ต้องให้กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบ

-ไม่รู้เรื่องถือพาสปอร์ตเขมร

เวลา 09.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางโดยถือพาสปอร์ตของประเทศกัมพูชาว่า ไม่ทราบ เมื่อถามว่าวันที่ 27-28 เม.ย.นี้ คณะของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม จะไปหารือกับประเทศกัมพูชา จะฝากให้นำประเด็นขอความร่วมมือกับกัมพูชาติดตามตัวพ.ต.ท. ทักษิณไปหารือด้วยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ได้หารือในเรื่องนี้ และไม่ได้ฝากเรื่องนี้ไป

เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการเร่งรัดติดตามนำตัวพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดี นายสุเทพกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศกำลังประสานขอความร่วมมือกับประเทศต่างๆ อยู่ ซึ่งตนก็เป็นห่วงเพราะพ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ยุติความเคลื่อนไหวใดๆ ต่อข้อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะยังมีส่วนเข้ามาบงการการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ต้องติดตามดู

ผู้สื่อข่าวถามถึงกลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมเคลื่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์ โดยถือฤกษ์วันพฤษภาทมิฬนัดชุมนุมใหญ่ เพื่อปลุกกระแสอีกครั้ง นายสุเทพกล่าวว่า เราคงไม่พูดในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่พยายามให้ประชาชนทุกฝ่ายเข้าใจว่าถ้าทุกคนเคร่งครัด เคารพกฎหมาย บ้านเมืองก็เรียบร้อยได้ โดยเป็นหน้าที่ของทุกคนต้องช่วยกัน เมื่อถามถึงกลุ่มคนเสื้อแดงนำข้อมูลต่างๆ ที่เป็นการดิสเครดิตรัฐบาลออกมาโจมตีรัฐบาลมากขึ้น ภายหลังการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าใครทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามดูอยู่อย่างใกล้ชิด ทั้งเรื่องการแจกใบปลิว หรือการเคลื่อนไหวใต้ดิน ถ้าพบว่าใครทำผิด และมีหลักฐานดำเนินคดีได้ก็ดำเนินคดีไป

-เทือกนั่งรถกันกระสุน

เมื่อถามว่ากลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะใช้ยุทธวิธีชุมนุมสัญจร จะทำให้มีปัญหาควบคุมดูแลหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า นายกฯ อภิสิทธิ์บอกในที่ประชุมรัฐสภาแล้วว่า ถ้าการชุมนุมนั้นทำโดยสงบ อยู่ในกรอบของกฎหมาย เป็นสิทธิ์ที่จะชุมนุมได้ แต่หากการชุมนุมนั้นเป็นอุปสรรคต่อการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหาก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ

ผู้สื่อข่าวถามว่าหน่วยข่าวกรองได้ส่งสัญญาณใดๆ ถึงรัฐบาลหรือไม่ ให้ระมัดระวังเรื่องใดเป็นพิเศษ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มี เมื่อถามถึงข้อเสนอเรื่องการออกพ.ร.บ.ควบคุมการชุมนุมในที่สาธารณะ ซึ่งนักวิชาการให้การสนับสนุน รัฐบาลจะใช้โอกาสนี้ออกกฎหมายนี้เลยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า กฎหมายนี้มีความจำเป็น แต่ต้องหารือในฝ่ายที่รับผิดชอบร่วมกันก่อน โดยจะพยายามเร่งรัดหารือในเรื่องนี้

เมื่อถามถึงท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม นายสุเทพปฏิเสธที่จะตอบโดยทำท่าเม้มปากสนิทและส่ายหน้า จากนั้นได้เดินเลี่ยงขึ้นรถไปทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ถือเป็นวันแรกที่นายสุเทพเปลี่ยนรถยนต์ประจำตำแหน่งจากเดิมที่ใช้รถบีเอ็มฯ มาเป็นรถยี่ห้อฟอร์ด เอเวอเรสต์ ป้ายแดง ซึ่งเป็นรถกันกระสุน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรที่นั่งรถกันกระสุนเป็นวันแรก นายสุเทพหัวเราะและกล่าวว่า ไม่มีอะไร เขาให้ยืมมา

-บัวแก้วชี้ยูเออีก็จับตาทักษิณ

ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนตนพบกับรักษาการปลัดกระทรวงต่างประเทศของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งได้รับการยืนยันว่าจะไม่ให้ใครใช้ประเทศยูเออีเป็นฐานดำเนินกิจกรรมทางการเมือง แต่ดำเนินกิจกรรมธุรกิจได้ หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พ.ต.ท. ทักษิณใช้ยูเออีเป็นฐานโจมตีประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลยูเออีไม่ยินยอมและไม่มีพาสปอร์ตไทยแล้ว จึงเชื่อว่าหากอดีตนายกรัฐมนตรีเข้ายูเออีอีกในฐานะนักธุรกิจและใช้พาสปอร์ตประเทศอื่น รัฐบาลยูเออีก็จะจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะยูเออีมีความชัดเจนว่าจะไม่ให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสะดุดและตนเชื่อว่ายูเออีจะให้ความร่วมมือกับไทย ส่วนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนว่าจะต้องดำเนินการทางการทูตและตามกฎหมาย ขณะนี้ไทยกำลังพิจารณาร่างพ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับยูเออีตามพ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 โดยเร็วที่สุดเพราะยูเออีเองก็ต้องการคนของยูเออีในไทยหลายคนกลับไปดำเนินคดีที่ยูเออี อีกทั้งไทยกำลังร่างพ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับอีกหลายประเทศ

อดีตนายกรัฐมนตรีมีหมายศาล 2 เรื่อง คือ ที่ดินรัชดาฯ และหมายศาลข้อหายุยงให้เกิดการจลาจลเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการ นายพนิชกล่าว และว่า กระทรวงการต่างประเทศส่งหมายศาลที่แปลเป็นภาษาอังกฤษไปถึงสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยใน 80 กว่าแห่งทั่วโลกแล้ว

ต่อข้อถามว่ากระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการอย่างไรกับประเทศเล็กๆ ในแอฟริกาที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งบางประเทศมองเห็นประโยชน์ด้านเศรษฐกิจมากกว่าความสัมพันธ์ทางการทูต นายพนิชกล่าวว่า ประเทศเล็กๆ เช่น บางประเทศในแอฟริกาที่ไทยไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตก็จะใช้สถานเอกอัครราชทูตที่อยู่ใกล้กัน อย่างประเทศที่พูดถึงอยู่นี้ การดูแลจะใช้สถานเอกอัครราชทูตที่อังกฤษซึ่งอาจจะไกล แต่ไทยอาจจะประสานกับประเทศที่อยูในทวีปแอฟริกาซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับไลบีเรีย พร้อมทั้งชี้ว่ามีไม่กี่ประเทศในโลกที่มีลักษณะคล้ายประเทศนี้หรือประเทศที่มองในเรื่องเศรษฐกิจในเชิงสั้นมากกว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระยะยาว พร้อมยอมรับว่าถ้าพ.ต.ท. ทักษิณอยู่ในประเทศดังกล่าวในระยะยาวไทยก็อาจดำเนินการอะไรได้ไม่มากเพราะไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูต แต่ถ้าอดีตนายกรัฐมนตรีเคลื่อนไหวในประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทยก็จะให้ความร่วมมือในการตรวจสอบและติดตามการเคลื่อนไหว

-ชี้จักรภพยังกบดานในไทย

เมื่อถามว่ามีการตรวจสอบว่าพ.ต.ท.ทักษิณถือพาสปอร์ตกัมพูชาหรือไม่ นายพนิชกล่าวว่า ไม่มีข้อมูลยืนยันได้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณมีพาสปอร์ตกัมพูชาหรือไม่ และต้องตรวจสอบด้วยว่าถือพาสปอร์ตโดยใช้ชื่อจริงหรือใช้ชื่ออื่น ถ้าใช้พาสปอร์ตที่ชื่อพ.ต.ท.ทักษิณและถือสัญชาติไทยก็มีหมายศาลอยู่แล้ว แต่ถ้าใช้พาสปอร์ตประเทศอื่นก็จะต้องถูกรัฐบาลไทยดำเนินคดีเพราะยังถือสัญชาติไทยอยู่ นอกจากนี้ ทราบกันดีว่าอดีตนายกรัฐมนตรีถือพาสปอร์ตประเทศนิการากัว

ต่อข้อถามถึงนายจักรภพ เพ็ญแข ซึ่งมีกระแสข่าวว่าหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว นายพนิชกล่าวว่า นายจักรภพเป็นหนึ่งใน 13 คนแรกที่ถูกหมายจับในข้อหายั่วยุให้เกิดการจลาจล เท่าที่ทราบขณะนี้ยังไม่ได้มีการเดินทางออกนอกประเทศ เป็นเรื่องของตำรวจและอัยการจะต้องไปตามตัว เท่าที่ตรวจสอบเมื่อ 2-3 วันก่อนยังไม่ได้มีการเดินทางออกนอกประเทศโดยใช้พาสปอร์ตของนายจักรภพ แต่ถ้านายจักรภพแอบหรือเดินทางด้วยวิธีอื่นก็ต้องติดตาม เช่นเดียวกับรายอื่นที่ถูกหมายจับในข้อหายั่วยุให้เกิดการจลาจล ส่วนการที่จะยกเลิกพาสปอร์ตของนายจักรภพหรือไม่นั้นกระทรวงการต่างประเทศจะต้องได้รับแจ้งจากตำรวจหรืออัยการเสียก่อน ไม่สามารถยกเลิกโดยพลการได้ เพราะพาสปอร์ตเป็นสิทธิของคนที่มีสัญชาติไทย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานจากตำรวจ

-อดิศรเข้ามอบตัวแล้ว

เวลา 09.30 น. นายอดิศร เพียงเกษ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ท. วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผบช.น. และพ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รองผบก.น.1 ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 3 บช.น. ก่อนที่พ.ต.อ.วีรวิทย์ จะนำขึ้นไปสอบสวนที่ บก.น.1

สำหรับนายอดิศร ถูกแจ้งความดำเนินคดีในมาตรา 116 โดยกระทำการให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และมาตรา 215 ผู้ใดมั่วสุมกัน 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ ผู้ที่กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำผิดเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิดนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความผิดทั้ง 2 มาตรา มีผู้กระทำผิดที่ถูกออกหมายทั้งสิ้น 13 คน ประกอบด้วยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจักรภพ เพ็ญแข น.พ.เหวง โตจิราการ นายอดิศร เพียงเกษ นายสิริวิชญ์ พิมพ์กลาง นายพีระ พิมพ์กลาง นายณรงค์ศักดิ์ มณี นายณัฐพงศ์ อินทะนาง นายชินวัตร หาบุญพาด และชายไทยไม่ทราบชื่อ

-เทียบคดีกษิตแล้ว 2 มาตรฐาน

ต่อมา นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตส.ส.ไทยรักไทย ที่เดินทางมาให้กำลังใจนายอดิศร ทั้งนี้ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้รัฐบาลรับฟังประชาชนคนเสื้อแดง ส่วนคดีของนายอดิศร เท่าที่ดูเป็นคดีที่เกิดขึ้นทั้งก่อนและหลังการประกาศพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งต่อสู้คดีได้ เชื่อว่าไม่มีปัญหา

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การตั้งข้อหาของตำรวจน่าจะตั้งข้อหาที่ขึ้นพูดบนเวทีมากกว่าการวางแผนสั่งการใดๆ การชุมนุมที่ทำเนียบฯสงบปราศจากอาวุธกระทั่งนาทีสุดท้าย ถ้าพูดจริงๆสิ่งที่ตั้งข้อหาน้อยกว่าที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ทำเยอะ ถ้าเอาตามข้อหาวันนี้นายกษิตต้องโดนครบในเรื่องการยึดสนามบิน ยึดทำเนียบรัฐบาล และยังอยู่ในช่วงใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สิ่งนี้จะมีปัญหาตั้งข้อหาเพราะขึ้นบนเวทีเช่นเดียวกับนายอดิศร แต่นายกษิตผิดชัดเจนมากกว่านี้อีกเยอะ แต่ไม่ถูกตั้งข้อหา ยังไม่ถูกเชิญตัว เรียกตัวตามหมายจับเลย ซึ่งตอกย้ำในเรื่อง 2 มาตรฐานมากขึ้น

-ตั้งเป็นรมต.-ตร.ไม่กล้าทำคดี

คดีที่คุณอดิศรถูกดำเนินคดีไม่น่าหนักใจ คงสู้คดีกันไปและน่าจะได้รับความยุติธรรม แต่เชื่อว่าการเลือกปฏิบัติอย่างนี้ คนทั่วไปจะทราบว่าไม่ยุติธรรม เป็นการเลือกใช้กฎหมาย เพราะใช้คนละแบบ กลายเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศในการบังคับใช้กฎหมาย และเป็นปัญหาที่จะย้อนกลับไปให้ประชาชนพิสูจน์ว่ารัฐบาลไม่ได้ยุติธรรมจริงและน่าเป็นห่วง นายจาตุรนต์กล่าวและว่า หากรัฐบาลจะรักษากฎหมายอย่างเท่าเทียมทุกฝ่าย นายกฯควรดำเนินการไม่ให้ตำรวจละล้าละลัง คนที่ยึดทำเนียบฯ สนามบิน ยังตั้งเป็นรัฐมนตรี แล้วตำรวจจะกล้าทำคดีได้อย่างไร ไม่กล้าทำอะไรมาก ทำให้เคลือบแคลงสงสัย ลดการกำจัดเสื้อแดงอย่างราบคาบ ตั้งข้อหาเยอะแยะเกินไป ปิดกั้นสื่อ ปิดสถานีโทรทัศน์ ต้องรีบเลิกรัฐบาลต้องแสดงความจริงใจเพื่อแก้ปัญหาของสังคม

เมื่อถามว่าการถกปัญหาร่วมกันดีหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การถก 2 สภาเป็นเรื่องดี แต่การถกนั้นมีปัญหาอยู่บ้าง โดยการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงสลายการชุมนุม จะทำได้หรือไม่ ที่กล่าวหาว่าทำเกินกว่าเหตุ คิดว่ารัฐบาลควรตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นเองและเชิญหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้หมดความเคลือบแคลงสงสัย ใครทำผิดต้องลงโทษอย่างจริงจัง ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญเห็นว่าเป็นเรื่องดีที่ต้องหารือกันเพื่อให้ได้ขอยุติโดยเร็ว ส่วนการนิรโทษกรรม ควรไว้หลังจากการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความสามัคคี การแก้ปัญหาต่างๆในระบบได้ ควรรีบในเรื่องนี้ก่อน ไม่ใช่การเล่นแง่ หักเหลี่ยม ชิงไหวชิงพริบอย่างที่รัฐบาลถนัด

-อริสมันต์ย้ำมีคนสูญหาย

เที่ยงวันเดียวกัน นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.น.1 ว่า เดินทางมาประกันตัวเพราะตำรวจได้ถอนสัญญาประกันจึงมาอีกครั้ง ตนไม่หนักใจเพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด เรามาเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยมาชุมนุมอย่างสันติ ไม่รุนแรง ไม่มีอาวุธ แต่กลุ่มนปช. ถูกกลุ่มเสื้อน้ำเงินดักทำร้ายหลายครั้ง ระหว่างเดินทางไปที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท จ.ชลบุรี โดยนำเอกสารไปเพื่อยื่นให้ผู้นำแต่ละประเทศทราบ เมื่อทางเราถูกทำร้ายสาหัส 3 คน และบาดเจ็บกว่า 20 คนตำรวจไม่สามารถจับคนร้ายได้

เรื่องการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมนั้น ยังเคลือบแคลงสงสัย เพราะกรณีพลทหารที่เสียชีวิตที่บ้านพักพล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ต้องติดตาม เราไม่รู้ว่าใครฆ่าจริงหรือไม่ และประชาชนส่วนใหญ่หายไปไหนเพราะขณะนี้บ้านเมืองปกติ เขาน่าจะกลับมาแต่กลับหายไป นายอริสมันต์กล่าว

-พันธมิตรยื่นคำให้การเพิ่ม

เวลา 13.00 น. นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความของกลุ่มพันธมิตรฯ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.น.1 เพื่อยื่นคำให้การเพิ่มเติมของ 21 แกนนำพันธมิตรเป็นลายลักษณ์อักษร หลังจากก่อนหน้านี้ได้ติดต่อมอบตัวที่ สโมสรตำรวจ นายนิติธร กล่าวว่า วันนี้ผู้ต้องหา 21 คนมายื่นคำให้การเพิ่มเติมหลังจากยื่นครั้งแรกไปแล้ว โดยคดีเกี่ยวกับการบุกรุก กักขังหน่วงเหนี่ยวที่รัฐสภา ซึ่งเป็นประเด็นในเรื่องกฎหมาย ส่วนเหตุพฤติการณ์แห่งคดีก็ยื่นให้การต่อไป และจะยื่นหนังสือเพื่อขอทราบรายชื่อพนักงานสอบสวน เพื่อจะได้ทราบว่าระหว่างนั้นมีใคร เพื่อเป็นเหตุการณ์ที่นำมาใช้ในการแจ้งข้อหา เพื่อจะตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวนมีส่วนได้เสียในคดีนี้หรือไม่ หากมีก็ต้องร้องขอให้เปลี่ยนแปลง และทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการตั้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องทบทวนอีกครั้งหนึ่ง เพราะจากการตรวจสำนวนแล้วบางข้อกล่าวหาไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งจากนี้อีก 30 วันจะมายื่นคำให้การเพิ่มเติมอีกครั้ง เพราะเราต้องตรวจสอบเอกสารและดีวีดีที่มีการบันทึกเหตุการณ์ ซึ่งถ้อยคำนี้เป็นลายลักษณ์อักษรทั้งหมด และจะตรวจสอบตั้งแต่ระดับหัวหน้าพนักงานสอบสวนมา ซึ่งทุกคดีก็สู้ไปตามกระบวนการทั้งหมด ไม่มีการหลบหนี

เมื่อถามว่าจากนี้พันธมิตรจะมีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ นายนิติธรกล่าวว่า เราไม่ได้กำหนดอะไร ในส่วนของพันธมิตรมีแต่กิจกรรมตามต่างจังหวัดที่ดำเนินการอยู่

-อดิศรบี้มาร์คให้เปิดดีทีวี

เวลา 13.15 น.นายอดิศร กล่าวหลังได้รับการประกันตัว ว่า ได้ปฏิเสธข้อหาทั้งหมดและขอให้การในชั้นศาลโดยได้ยื่นเงินสดประกันตัวเป็นเงิน 5 แสนบาท ส่วนข้อหาก็เป็นข้อหาเดิมและเพิ่มเติมเรื่องผิดพ.ร.ก.เรื่องการขึ้นเวทีปราศรัย และไม่ได้หนักใจอะไร เพราะที่ผ่านมาก็เป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ และมองว่าการดำเนินคดีในส่วนนี้ยังเป็น 2 มาตรฐาน และวันที่ 28 เม.ย.นี้ จะไปพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อสอบถามว่าจะให้เปิดดีทีวีได้หรือไม่ แล้วทำไม เอเอสทีวีถึงเปิดได้ และหากมีการอนุญาตให้เปิดก็จะเชิญนายกรัฐมนตรีมาพูดคุยในรายการด้วย

ด้านพล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ โฆษกบช.น. กล่าวว่า ที่มาทั้ง 2 คนก็มาตามข้อหาเดิม และให้ประกันตัวเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ห้ามไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือทำการยุยงปลุกปั่นทางการเมืองอีก ซึ่งขอยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ใช้ 2 มาตรฐาน และทำตามกฎหมายทุกอย่าง พร้อมให้ความยุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยขอเชิญชวนให้ผู้ต้องหาที่เหลือและทราบว่ามีคดีต่างๆอยู่ติดต่อเข้ามอบตัวกับตำรวจด้วย

เมื่อถามถึงกรณีที่มีภาพของรถกระบะต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายยิงนายสนธิ หลุดออกมา พล.ต.ต.สุพรกล่าวว่า เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวน ซึ่งภาพที่ได้ถือเป็นหลักฐานที่ทางตำรวจจะนำไปตรวจสอบว่าใช่รถคนร้ายหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบรายละเอียดจากป้ายทะเบียนว่าเป็นของปลอมหรือไม่ ก่อนดำเนินการต่อไป

-เพื่อไทยโวยซีดีเนวิน-บุญจง

บ่ายวันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงว่า จากการประชุมร่วมสองสภา เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ได้เรียกร้องในที่ประชุมว่าอย่าดึงสถาบันมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่จากการลงพื้นที่ ขณะร่วมงานศพที่จ.เชียงใหม่ เมื่อวันเสาร์ที่ 25 เม.ย. มีกำนัน และผู้ใหญ่บ้านได้นำซีดีที่มีหัวข้อว่า หยุดก้าวล่วงพระเจ้าอยู่หัว-เนวินขอทักษิณ และมีรูปนายเนวิน ชิดชอบ และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย อยู่ที่ซีดีมามอบให้และร้องเรียนมายังตน จากการตรวจสอบพบว่าการจะแจกซีดีดังกล่าวไปยังกำนันและผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ โดยระบุชื่อที่อยู่ได้นั้น ต้องมีฐานข้อมูลที่อยู่จากกระทรวงมหาดไทย จึงกระทำได้ จึงอดคิดไม่ได้ว่าการแจกซีดีที่ว่านี้เป็นการใส่ร้ายป้ายสีกันหรือไม่

นายสุรพงษ์กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลจะทำซีดี 1 ล้านแผ่น เพื่อจ่ายแจกไปยังประชาชน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงการสลายม็อบ การกระทำของรัฐบาลจะยิ่งเพิ่มความขัดแย้งให้กับสังคม เพราะชี้แจงเพียงด้านเดียว หากรัฐบาลยังยืนยันจะทำ ฝ่ายค้านก็จะทำซีดีแจกจ่ายประชาชนบ้าง เพื่อชี้ให้เห็นว่าทหารทำร้ายประชาชนอย่างไร และจากนี้ต่อไปจะเกิดสงครามความขัดแย้งในรูปแบบใหม่คือสงครามซีดี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าซีดีดังกล่าวได้เปิดดูก่อนหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เปิดดู เท่าที่ตนดูเพียงหัวข้อบนซีดีและรูปภาพประกอบ ก็เป็นการใส่ร้ายสร้างความแตกแยก

นายสุรพงษ์ กล่าวถึงข่าวพ.ต.ท.ทักษิณ นัดเจออดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่า ตนยังไม่เคยได้ยิน แต่ตนขอภาวนาว่าขอให้เป็นเรื่องจริง เพราะถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ เข้าดูไบได้ รับรองรัฐบาลหน้าแหกแน่

-ภูมิใจไทยอ้างเพื่อปรองดอง

ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา (สมัยสามัญทั่วไป) ครั้งที่ 7 โดยนายชัย ชิดชอบ ทำหน้าที่เป็นประธาน ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ขอหารือ พร้อมนำซีดีหน้าปกมีรูปนายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช. มหาดไทย ระบุว่ามีการแจกจ่ายซีดีในพื้นที่เชียงใหม่ เนื้อหาเป็นคำขอร้องจากนายเนวิน ให้พ.ต.ท.ทักษิณหยุดก้าวล่วงสถาบัน ตนได้รับมาจากกำนัน หากปล่อยให้แจกจ่ายจะสร้างความขัดแย้งเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ ในอนาคตสงครามซีดีเกิดขึ้นแน่ ขอตั้งคำถามรัฐบาลว่าหากการประชุมร่วมรัฐสภาที่ผ่านมาเพื่อหาทางออกแต่ทำไมมีพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นได้ สภาได้รับการดูถูกจากสื่อว่ามีแต่ทะเลาะกัน ดังนั้นเราน่ามาร่วมมือกันแก้ปัญหาเพื่อให้ชาติเดินหน้าไปได้ การมีแผ่นซีดีแบบนี้ออกไปรัฐบาลต้องสืบหาสาระให้ได้ว่าซีดีแผ่นนี้มาได้อย่างไร และการดึงสถาบันมายุ่งทำให้ชาติเดินหน้าได้หรือไม่ และขอให้ประธานห้ามปรามลูกชายด้วย

นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ชี้แจงว่า ส.ส.เพื่อไทย ระบุซีดีนี้เป็นการบันทึกคำแถลงข่าวของนายเนวิน เพื่อชี้แจงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงจะมาชุมนุมที่กรุงเทพฯ ตนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เนื้อหาสาระพูดเพื่อให้เกิดความสามัคคีปรองดอง ไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคม ไม่ใช่ซีดีที่ทำขึ้นมาใหม่ ขอให้เพื่อนสมาชิกดูเนื้อหาสาระให้ละเอียดภายในซีดีอีกครั้ง

-มท.ปัดไม่เกี่ยวแจกซีดี

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกรณีกำนันผู้ใหญ่บ้านนำซีดีการแถลงข่าวของนายเนวิน เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่โรงแรมสยามซิตี ไปแจกจ่าย ว่า ยอมรับว่ามีการแจกจ่ายซีดีดังกล่าวจริง แต่ขอยืนยันไม่ได้เป็นการใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยในการแจกจ่ายซีดีดังกล่าว ที่กำนันผู้ใหญ่บ้านนำซีดีนี้ไปแจกถือเป็นเรื่องปกติ เพราะกำนันผู้ใหญ่บ้านตามปกติก็มีความสัมพันธ์กับส.ส.ในพื้นที่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จะใช้ความสนิทสนมกับกำนันและผู้ใหญ่บ้านเอาไปแจกจ่าย เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูล

ผู้สื่อข่าวถามว่าจุดประสงค์การแจกซีดีนายเนวินคืออะไร นายศุภชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมานายเนวิน มักถูกกล่าวหาซ้ำซากทั้งเรื่องการทรยศ ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ หรือเรื่องอื่นจากพรรคเพื่อไทย ดังนั้นพรรคภูมิใจไทยจึงจำเป็นต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ แต่การพูดทุกครั้งคงจะเป็นเรื่องที่เหนื่อยยาก จึงทำออกมาเป็นรูปแบบซีดี เนื้อหาก็เป็นไปตามที่นายเนวิน ได้พูดที่โรงแรมสยามซิตี เมื่อประชาชนได้ฟังแล้วอาจได้คิดและเข้าใจสิ่งที่นายเนวินทำ ตนเชื่อว่าไม่ได้มีอะไรเสียหาย

-คปช.ตั้งอนุกก.5คณะ

เวลา 10.00 น. ที่กรมประชาสัมพันธ์ มีการประชุมคณะกรรมการรวบรวมและประมวลเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 52 และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง (คปช.) ครั้งที่ 1 มีนายนัที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณทรัพย์ รองผบ.ตร. นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทย และกองทัพ เป็นต้น โดยใช้เวลาหารือเพื่อวางกรอบการทำงานเกือบ 1 ชั่วโมง

จากนั้นนายนัที แถลงว่า เนื้อหาในการประชุม ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบคำสั่ง และรายงานการประชุมของครม. ที่กระทรวงต่างๆ ได้รายงานเข้ามา ซึ่งวันนี้ได้หารือว่าหลังจากมีคำสั่งแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำอะไรบ้าง ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าควรจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 5 คณะเพื่อการทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย 1.คณะอนุกรรมการรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ศึกษา ประมวลข้อมูล โดยมอบให้นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ รองปลัดสปน.เป็นประธาน 2.คณะอนุกรรมการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ โดยให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นประธาน 3.คณะอนุกรรมการรวบรวมและประมวลข้อมูลจากส่วนราชการ ทหารตำรวจ ข้าราชการพลเรือนกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยมีนายวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

4.คณะอนุกรรมการรวบรวมและประมวลข้อมูลจากสื่อมวลชนกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบมีนางปราณี สิริวัฒน์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และ 5.คณะอนุกรรมการรวบรวมและประมวลผลกระทบทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวจากกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบ มีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทั้งนี้ในการทำงานจะมีการประชุมกันทุกวันจันทร์ เวลา 09.30 น. เพื่อหาวิธีแนวทางปฏิบัติ ซึ่งคณะกรรมการจะมีการประชุมประมาณอีก 3-4 ครั้ง เพื่อให้ได้ข้อสรุปภายในวันที่ 30 พ.ค. นี้

-ยอดม็อบเจ็บเพิ่มเป็น176ราย

นายนัที กล่าวอีกว่า รูปแบบในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ทุกคณะอนุกรรมการจะต้องรวบรวมข้อมูลให้ที่ประชุมชุดใหญ่ เพื่อเผยแพร่ทั้งในรูปแบบซีดี เอกสาร โดยจะทำให้เป็นทิศทางเดียวกัน ส่วนจะต้องมีการเชิญแกนนำคนเสื้อแดงมาให้ข้อมูลด้วยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะอนุกรรมการแต่ละชุด แต่เห็นว่าหากจะมาให้ข้อมูลก็พร้อมรับฟังเพื่อให้เกิดคามชัดเจนและไม่คลุมเครือ ในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน

ด้านนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดพม. กล่าวว่า เท่าที่สรุปตัวเลขผู้ได้รับความเสียหายตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา มีจำนวน 135 ราย และมี การแจ้งเข้ามาเพิ่มเติมอีก 41 รวมทั้งสิ้น 176 ราย ซึ่งพม.ได้จ่ายค่าชดเชยไปแล้วทั้งสิ้น 17 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิต 2 ราย จากเหตุการณ์นางเลิ้ง และบาดเจ็บ 15 คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1.5 ล้านบาท

-อิสสระอ้างมีสูญหายแค่1ราย

นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์กรณีถูกกลุ่มเสื้อแดงจ.ยโสธร ล้อมขณะเดินทางไปเปิดบ้านมั่นคง อ.คำเขื่อนแก้ว ว่า ขณะที่ตนลงไปเปิดบ้านมั่นคง มีมิตรสหายเสื้อแดงกว่า 100 คน มาล้อมและโห่พร้อมทั้งเปิดไมโครโฟนพูดแข่งกับเสียงตน แต่ไม่ได้เกิดเหตุรุนแรงอะไร มีตำรวจมาพาตนออกไปจากพื้นที่ จากการสอบถามทราบว่าคนที่มาไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่เป็นคนนอกพื้นที่ที่จัดตั้งมาจากอ.เลิงนกทา จ.ยโสธร มีแกนใหญ่เป็นส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ ก็คงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นในการลงพื้นที่ ยิ่งตอนนี้ไม่ใส่เสื้อสีแดงแต่ใส่สีอื่นๆ มาด้วย ทำให้แยกไม่ออก ถ้าเจอแบบนายกฯ ก็แย่เพราะรถตนไม่กันกระสุน นายกฯ แจ้งแล้วว่ารัฐมนตรีที่เห็นว่าไม่ปลอดภัยสามารถขอกำลังตำรวจไปดูแลเพิ่มได้แต่ตนไม่ได้ขอเพิ่ม นโยบายรัฐบาลก็พยายามหาวิธีการสร้างสรรค์ จึงไม่อยากให้ประชาชนตกเป็นเครื่องมือยั่วยุปั่นป่วนเป็นอุปสรรคการทำงานของรัฐบาล นายกฯ ก็บอกแล้วว่าจะพยายามดูแลทุกจังหวัด หากประชาชนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านจะเป็นอุปสรรค

รมว.การพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า ความคืบหน้าการทำงานของศูนย์เยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อวันที่ 8-14 เม.ย. 52 และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง จากที่มีผู้ร้องมีคนในครอบครัวสูญหาย 1 คน ได้ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อโทร.ไปหาตลอดพบว่าโทร.ติด แต่ไม่รับสาย และเมื่อรับสายแล้วก็ไม่ยอมตอบ เข้าใจว่าน่าจะกลับมาแล้วแต่อาจคิดแบบชาวบ้านว่าหายไปจะได้เงิน ซึ่งไม่ใช่เพราะหากหายสาบสูญจากการชุมนุมการจลาจล ต้องมีเวลา 3 ปี เพื่อให้ศาลสั่งว่าเป็นบุคคลสูญหายจึงจะเข้าเงื่อนไขได้รับการชดใช้ หรือหากหายแล้วไปร้องต่อศาลปกติ 7 ปี หากยังไม่พบตัวศาลจึงจะประกาศเป็นบุคคลสาบสูญ ดังนั้น หากกลับมาแล้วขอให้ปรากฏตัวดีกว่าจะได้ไม่เกิดคว