ดีเอสไอแฉ 4 คาร์บอมบ์ใต้ คนบงการ-ลงมือกลุ่มเดียวกัน

ดีเอสไอเผยบอมบ์ใต้ 4 คดี เป็นฝีมือกลุ่มและผู้สั่งการคนเดียวกัน ด้านรมว.การต่างประเทศ นำคณะเอกอัครราชทูตอียู เยี่ยมชมศชต. และติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ถึงการสืบสวนสอบสวนคดีคาร์บอมบ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ว่าจากการตรวจสอบข้อมูลการก่อวินาศกรรมโดยใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะทั้ง 4 ครั้ง ประกอบด้วย หน้าโรงแรมมารีนา อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อปี 2548 เหตุคาร์บอมบ์หน้าโรงแรมซีเอส จ.ปัตตานี เมื่อเดือนมีนาคม 2551 เหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณใกล้หอประชุม ในเขตพื้นที่ ที่ว่าการอำเภอสุคีริน จ.นราธิวาส ในเดือนพฤศจิกายน 2551 และเหตุระเบิดหน้าโรงแรมปาร์ควิว อ.เมือง จ.ยะลา ในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน พบว่ามีการซื้อรถยนต์เพื่อนำมาใช้ในการก่อเหตุโดยเฉพาะราคาคันละ 60,000-130,000 บาท และมีการต่อวงจรระเบิดที่สลับซับซ้อนมากขึ้น โดยหลักฐานของทั้ง 4 คดีพบความเชื่อมโยงกัน โดยผู้ที่กระทำการเป็นบุคคลกลุ่มเดียวกัน และมีผู้สั่งการคนเดียว

ขณะที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะเอกอัครราชทูต ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ข้าราชการระดับสูงกระทรวงการต่างประเทศ จำนวน 36 คน เข้าเยี่ยมชม และรับฟังบรรยายสรุปที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน เพื่อติดตามสถานการณ์และแนวทางการแก้ปัญหาการก่อความไม่สงบในพื้นที่ โดยมี พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ ผบช.ศชต. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ นอกจากนี้ นายกษิตยังเข้าร่วมหารือกับ ดร.อิสมาแอลลุฟฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา ที่วิทยาลัยอิสลามยะลา ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ก่อนที่จะเดินทางไปเยี่ยม ศชต.ด้วย

สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่นั้น เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา คนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน บุกเข้าไปยิงนายสะตอปา ตุหยง อายุ 70 ปี กระสุนเข้าตามลำตัวหลายนัด เสียชีวิตคาบ้านพัก เลขที่ 102 หมู่ 10 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา