หุ้นไทยพุ่ง14จุดศก.เริ่มคลี่คลายโมเบียสช่วยเชียร์

หุ้นไทยพุ่ง14จุดศก.เริ่มคลี่คลายโมเบียสช่วยเชียร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คมชัดลึก : ตลาดหุ้นไทยคึกคัก นักลงทุนคลายความกังวลปัญหาเศรษฐกิจ เฮโลซื้อหุ้นดัชนีพุ่ง 14 จุด มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท โมเบียส ให้ความหวังตลาดเกิดใหม่ฟื้นตัวปลายปีนี้ ตลาด หุ้น ไทยเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีแรงซื้อขายคึกคักตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ดัชนีปิดตัวในระดับสูงสุดของวันที่ 506.26 จุด เพิ่มขึ้น 14.57 จุด มูลค่าซื้อขายรวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 579.84 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,440 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 2,020 ล้านบาท ซึ่งดัชนีทำสถิติปรับตัวสูงสุดในรอบ 6 เดือน นับจากวันที่ 14 ตุลาคม 2551 ดัชนีอยู่ที่ระดับ 500.77 จุด นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เกียรตินาคิน กล่าวว่า ดัชนีตลาด หุ้น ไทยปรับตัวขึ้นตามทิศทางเดียวกับตลาด หุ้น ในภูมิภาค คาดว่าเป็นผลจากนักลงทุนบางส่วนคลายความกังวลจากภาวะเศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐไตรมาส 1 ปี 2552 เพิ่มขึ้น 2.2% ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีนปรับตัวขึ้นในรอบ 9 เดือน ประกอบกับดัชนีย่อยสำหรับผลผลิต, คำสั่งซื้อใหม่ และตัวเลขการจ้างงาน ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งส่งสัญญาณเชิงบวก อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขของจีนจะออกมาเติบโตดี ก็ยังไม่น่าจะทำให้ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นเร็วนัก เนื่องจากยังมีนักลงทุนบางกลุ่มไม่เชื่อว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นไปในช่วงระยะนี้ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ผลการทดสอบภาวะวิกฤติภาคการเงินของสหรัฐ ที่เลื่อนประกาศผลมาเป็นวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ และต้องติดตามการแพร่ระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ปี 2009 ด้วย ด้านมาร์ค โมเบียส ผู้จัดการกองทุนชื่อดัง และประธานบริษัท เทมเพิลตัน แอสเส็ท แมเนจเมนท์ กล่าวว่า ตลาด หุ้น กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่รวมทั้งไทย น่าจะปรับตัวขึ้นคึกคัก และตลาดเข้าสู่ภาวะกระทิงได้ในช่วงปลายปี 2552 เพราะอัตราดอกเบี้ยลดลงและสถานการณ์เงินเฟ้อคลี่คลายดีขึ้น ส่งผลดีช่วยให้ หุ้น น่าสนใจและดึงดูดใจนักลงทุนมากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ไฮไลท์ทีวี (อังคารที่ 5 พ.ค. 52) ขว้างงูให้พ้นคอ ทีวีหรรษา (อังคารที่ 5 พ.ค. 52) ยังไม่ใช้ทรัพยากรเต็มที่ เวนเกอร์ปฏิเสธเงินราชันชุดขาว2,000ล้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook