สมาคมนักเขียนฯจัด2งานควบเปิดพิพิธภัณฑ์ ส.บุญเสนอ และ วันนักเขียน

สมาคมนักเขียนฯจัด2งานควบเปิดพิพิธภัณฑ์ ส.บุญเสนอ และ วันนักเขียน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คมชัดลึก : สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย โดยนายกสมาคม ชมัยภร แสงกระจ่าง พร้อมคณะกรรมการสมาคม จัดงานใหญ่เพื่อพี่น้องนักเขียนและประชาชนทั่วไป โดยงานแรกเป็นการฉลองวาระ ครบรอบชาตกาล 100 ปี เสาว์ บุญเสนอ และถือโอกาสเปิด พิพิธภัณฑ์บ้านนักเขียน ส.บุญเสนอ ขึ้น เพื่อให้คนที่สนใจชีวิต นักเขียน ได้ศึกษาเรียนรู้ต่อไป ตามด้วยงาน วัน นักเขียน ประจำปี 2552 ซึ่งมีกิจกรรมอภิปราย เสวนา กวี ดนตรี โดยเพื่อนน้ำหมึก สื่อมวลชน ตลอดจนมิตรรักนักอ่าน ให้ความสนใจอย่างเนืองแน่นทั้งสองงาน

โดยวันที่ 3 พฤษภาคม ตรงกับวันครบรอบชาตกาล 100 ปี เสาว์ บุญเสนอ ผู้มอบบ้านและที่ดินให้สมาคม นักเขียน ฯ ไว้เป็นที่ทำการก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต งานมีตั้งแต่ช่วงเช้า เป็นพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์ โดย ฯพณฯ องคมนตรี พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดป้ายพิพิธภัณฑ์ พร้อมเปิดใจว่า เป็นปลื้มที่สมาคม นักเขียน ฯ เรียนเชิญมาเป็นเกียรติ ทั้งนี้ ฯพณฯ องคมนตรี ยังกล่าวอีกว่า คนที่เป็น นักเขียน ควรได้รับการยกย่อง ยอมรับจากสังคม และดีใจที่มีเพื่อนเป็น นักเขียน อยู่หลายคน จากนั้นมีเสวนาในวาระเปิดตัวหนังสือ 2 เล่ม ซึ่งล้วนแต่สัมพันธ์กับ เสาว์ บุญเสนอ เล่มแรกคือ อยู่เพื่อใจดวงรัก-สาระนิยายประวัติชีวิตเสาว์ บุญเสนอ เขียนโดย ชมัยภร แสงกระจ่าง ดำเนินการโดย รักษ์มนัญญา สมเทพ ผู้เขียนบอกว่าก่อนเขียนได้ศึกษาจากเอกสารที่เกี่ยวข้องและหนังสือเล่มต่างๆ ที่เสาว์เขียนไว้ เพราะประทับใจความรักความผูกพันของ เสาว์ บุญเสนอ และ ศรีสุดา ที่ผ่านทุกข์ยากมาด้วยกัน ในขณะที่เขียน ชมัยภร บอกว่ามีหลายตอนที่เขียนไปร้องไห้ไปด้วย ส่วน สาโรจน์ มณีรัตน์ ผู้คลุกคลีกับ นักเขียน รุ่นเก่าคนนี้ และผูกพันกับบ้านหลังที่ลุงเสาว์ยกให้แก่สมาคม นักเขียน ฯ ในช่วงบั้นปลายชีวิตของท่าน บอกว่าลุงเสาว์เป็นคนแก่ที่น่ารัก มีชีวิตที่เรียบง่าย และรักภรรยามาก ถือเปนแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตสำหรับคนรุ่นหลัง ส่วนหนังสืออีกเล่มนั้นคือ นวนิยายเรื่อง สายแดง ภายใต้นามปากกา ส.บุญเสนอ เป็นนิยายเรื่องแรกและเรื่องเด่นของ เสาว์ บุญเสนอ เรื่องราวของนักบินขับไล่ ซึ่งเขียนขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียอีก มี จตุพล บุญพรัด บรรณาธิการในการพิมพ์ครั้งล่า เปิดใจจากการได้อ่านนวนิยายเรื่องนี้ ว่าเป็นนิยายที่สะท้อนถึงความเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ ให้เกียรติผู้หญิงจนต้องเทิดทูน เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดของเสาว์ และเรื่องก็อ่านได้ในยุคนี้ ไม่ล้าสมัยซะทีเดียว ส่วน สุวรรณา เกรียงไกรเพ็ชร์ ปรมาจารย์การวิจัยทางการอ่าน ฝากถึงใครที่จะอ่านเรื่องนี้ก่อนเลยว่า ควรอ่านด้วยใจรื่นรมย์ว่ามันเป็นนิยายเรื่องหนึ่ง โดยอย่าคิดว่ามันจะต้องให้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์กับเราเป็นประเด็นสำคัญเท่านั้น... กระทั่งบ่ายคล้อย แดดเริ่มล้าโรย ทุกคนที่มาในงานจึงทยอยมายังลานข้างนอก เพื่อปิดท้ายวันด้วยการอ่านบทกวีจากกลุ่มกวีรุ่นใหม่อย่าง กฤช เหลือลมัย ซาการียา อมตยา และ โมฮัมหมัด ฮารีส กาเหย็ม ภายใต้การนำของกวีรุ่นใหม่คือ เสรี ทัศนศิลป์ สำหรับงานวัน นักเขียน 5 พฤษภาคม อัดแน่นกิจกรรมตั้งแต่ภาคเช้าลากยาวย่ำค่ำ ทั้งการอภิปรายในหัวข้อ 100 ปี ศักดิ์ศรีคนวรรณกรรม : เปลื้อง ณ นคร ร. จันทพิมพะ ส. บุญเสนอ และ ยศ สันตสิริ มีวิทยากรระดับอาวุโสร่วมพูดคุย ทั้ง สุชาติ สวัสดิ์ศรี ประพนธ์ เรืองณรงค์ ชมัยภร แสงกระจ่าง และ จเลิศ เจษฎาวัลย์ ควบคุมบนเวที ซึ่งค่อนข้างจะยืดยาวไปสักหน่อย ด้วยวิทยากรแต่ละคนต่างมีเรื่องมากมายที่จะเล่า ต่อด้วยการเสวนาว่าด้วยความคิดถึง รงค์ วงษ์สวรรค์ พญาอินทรีแห่งฟากฟ้าวรรณกรรม โดย นักเขียน ชั้นหลานขึ้นเวทีพูดคุยคือ บินหลา สันกาลาคีรี ผู้บอกว่าแช่แข็งเวลาอยู่ 2 ปีกว่าจะกล้าพูดคุยกับ รงค์ ทั้งที่เจอกันหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่สวนทูนอินและที่อื่ๆ ส่วน วรพจน์ พันธุ์พงศ์ นั้นมาบอกเล่าถึงการที่ได้สัมภาษณ์ รงค์ ในช่วงท้ายชีวิต และกำลังดำเนินการพิมพ์หนังสือเล่มใหม่ของเขา ว่าด้วยบทสัมภาษณ์หลากประเด็น แต่เจ้าตัวรับรองว่าตัดทุกรายละเอียดที่เคยมีคนพูดไว้ก่อนหน้า เวทีนี้มี สุมิตรา จันทร์เงา นักเขียน สาวปากกาคม ดำเนินการพูดคุย นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก สุเทพ วงศ์คำแหง ที่สลัดเที่ยวบินช่วงบ่ายเพื่อมาร่วมนั่งรำลึกความหลังเกี่ยวกับพี่ รงค์ ของเขาเพียงแป๊บๆ ก่อนรีบบ๊ายบายไปขึ้นเครื่องเที่ยวเย็นต่อไป จากนั้นเป็นพิธีมอบรางวัล ศรีบูรพา นักเขียน ที่ได้รับรางวัลปีนี้คือ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ โดยเจ้าของรางวัลคนล่า กล่าวสุนทรกถาถึงความประทับใจต่อศรีบูรพา และต่อนวนิยายเรื่อง ข้างหลังภาพ ซึ่งตนได้เดินทางตามรอยศรีบูรพาไปกระทั่งมิตะเกะ เพื่อแกะรอยความรักระหว่างคุณหญิงกีรติและนพพรเลยทีเดียว ก่อนส่งท้ายราตรีด้วยเสียงเพลงจากเจ้าพ่อเพลงเพื่อชีวิตอย่าง แอ๊ด คาราบาว และ ไข่ มาลีฮวนนา และส่งท้ายจริงๆ ด้วยการอ่านกวีออกลีลาแนวสุดๆ จากกวีหน้าคุ้นหลายคน เรียกความครึกครื้น ลั้นลา กันถ้วนหน้ามิตรรัก นักเขียน ขอรับพี่น้องฆ

เรื่อง : เด่น นาคร

ภาพ : วันชัย ไกรศรขจิต กุลพันธ์ ศิริพิมพ์อัมพร และ เด่น นาคร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง หาดใหญ่นำร่องเปิดอนุบาล 2 ภาษา มิติใหม่อปท.-มั่นใจปั้นยช.คุณภาพ กรุณาแห่งหัวใจ สร้างได้แค่มองโลกในแง่ดี บันทึกหน้าสุดท้าย ราชาเสียงทอง ณรงค์ รอดเจริญ ชาช่าติดสถาปัตย์อินเตอร์จุฬาฯเด็กเตรียมเจ๋ง มองผ่านเลนส์คม - วันนักเขียน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook