ชีวิตตกอับ "นักมวยเงินแสน" เลิกเมีย-ลูกทิ้ง อาศัยข้าวน้ำชาวบ้านประทังชีวิต

ชีวิตตกอับ "นักมวยเงินแสน" เลิกเมีย-ลูกทิ้ง อาศัยข้าวน้ำชาวบ้านประทังชีวิต

ชีวิตตกอับ "นักมวยเงินแสน" เลิกเมีย-ลูกทิ้ง อาศัยข้าวน้ำชาวบ้านประทังชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“วิหคน้อย ส.ธนิกุล”  นักมวยเงินแสนเวทีราชดำเนิน ตกอับสุดขีด อยู่คนเดียวในเพิงพักสังกะสีริมถนน เพื่อนบ้านให้น้ำให้ข้าวกินประทังชีวิตไปวันๆ

(11 ก.ย.) ที่เพิงพักมุงด้วยสังกะสี ไม่มีน้ำใช้ ไม่มีไฟฟ้า ปลูกติดพื้นดิน ติดถนนซอยตัน ถนนทางหลวง 404 คลองน้ำเจ็ด ในเขตเทศบาลนครตรัง อ.เมือง จ.ตรัง เป็นที่ซุกหัวนอนของ นายพงษ์ กาญจนะ หรือ เหงียก วัย 58 ปี  อดีตนักมวยดัง "วิหคน้อย ส.ธนิกุล" ค้ากำปั้นชกทั้งเวทีราชดำเนิน ลุมพินี เมื่อเลิกอาชีพค้ากำปั้นกลับมาประกอบอาชีพรับจ้างในบ้านเกิดเป็นกรรมกร ปัจจุบันประทังชีวิตด้วยข้าวจากเพื่อนบ้านและร้านขายข้าวแกงที่เขานำมาให้กิน เจ็บไข้ไม่สบายก็โทรเรียก มูลนิธิกุศลสถานตรัง มาช่วยนำส่งไปโรงพยาบาล

ในวันนี้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง นำน้ำดื่มอาหารแห้งมามอบให้เพื่อเป็นการช่วยเหลือ ซึ่งนายพงษ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพชกมวยค่าย ส.ธนิกุล ของนายแคล้ว ธนิกุล ผู้กว้างขวางในกรุงเทพมหานครสมัยนั้น ชกมวยหาเลี้ยงชีพอยู่นานกว่า 10 ปี กว่า 100 ไฟล์ รุ่น 102 ปอนด์ เคยท้าชิงแชมป์มวยไทยรุ่น 102 ปอนด์ กับ “สายฝน ลูกกาบู” ที่เวทีมวยหาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา แต่ครั้งนั้นพ่ายแพ้ หลังจากอำลาชีวิตนักค้ากำปั้นบนผืนผ้าใบลงมาจากสังเวียน ก็กลับมาบ้านทำอาชีพรับจ้างเป็นกรรมกร มีครอบครัวมีลูกชาย 1 คน และเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมาก็เลิกร้างกับภรรยา อยู่คนเดียวก็กินเหล้าย้อมใจตลอดมาจนเกิดล้มป่วยบ่อยครั้ง ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ต้องมาปลูกเพิงพักริมถนน

ก่อนหน้านี้มีบ้านที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โดยปลูกบ้านรุกล้ำที่ดินคนอื่น เมื่อเขาต้องการเอาที่ดินคืนก็ต้องย้ายออกมา โดยมาสร้างเพิกพักบนทางเท้าในซอยตัน ถนนคลองน้ำเจ็ด ในเขตเทศบาลนครตรัง ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อนและญาติๆ ก็มาเยี่ยมแค่สอบถามไม่ได้ช่วยเหลืออะไร ส่วนลูกชายก็ทำงานรับจ้างในตัวเมืองตรัง มีครอบครัวแล้ว ก็ไม่ได้ให้การช่วยเหลืออะไร ในแต่ละวันชาวบ้านและแม่ค้าขายข้าวแกงก็นำแกงมาให้ตลอด

ชาวบ้านบริเวณนี้ก็บอกว่า น้าเหงียก ตั้งแต่เลิกกับเมีย ก็เอาแต่กินเหล้า มีเงินเท่าไหร่ก็เอาไปกินเหล้าจนล้มป่วย ไม่ได้ทำงานเพราะร่างกายซูบผอม ทำงานไม่ไหว ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ชาวบ้านและญาติๆ ก็ให้การช่วยเหลือเท่าที่ทำได้เพื่อประทังชีวิตรอดเท่านั้น ยังไม่พบว่ามีหน่วยงานราชการมาให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook