เปิดคำสารภาพ "พูล้า" ต้องการเงินซื้อยาเสพ ปมฆ่าเลือดเย็นยายหลาน

เปิดคำสารภาพ "พูล้า" ต้องการเงินซื้อยาเสพ ปมฆ่าเลือดเย็นยายหลาน

เปิดคำสารภาพ "พูล้า" ต้องการเงินซื้อยาเสพ ปมฆ่าเลือดเย็นยายหลาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มือฆ่าปาดคอ 2 ยายหลานพระประแดง สารภาพก่อเหตุเพราะต้องการเงินไปซื้อยาเสพ ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนัก ขอขมาขึ้นอยู่กับควาสมัครใจ

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาฆ่าปาดคอสองศพยายหลานในพื้นที่พระประแดง ก่อนจะหลบหนี จนสุดท้ายตำรวจสามารถจับกุมได้ขณะเตรียมขึ้นเรือเพื่อข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

โดยจากการสอบสวนผู้ต้องหาคือ นายพูล้า (ท้าวพูล้า) อายุ 25 ปี อาชีพรับจ้างรายวัน และมีภรรยาเป็นคนไทย มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน อายุ 2 เดือน นอกจากนี้ผู้ต้องหาเคยมีประวัติการเสพยาเสพติดและลักทรัพย์มาก่อน

ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยเริ่มก่อเหตุจากการปีนรั้วบ้านของผู้ตายเข้าไปอยู่ในห้องครัว เห็นแมวมาป้วนเปี้ยนจึงได้ใช้มีดในครัวฆ่าแมวที่ห้องครัวตายเพื่อทดสอบความคมของมีด จากนั้นได้เข้าไปแอบอยู่ในห้องน้ำ จนกระทั่ง นางมะลิ เดินมาเข้าห้องน้ำเจอแล้ว จึงได้มีการต่อสู้เกิดขึ้นและใช้อาวุธมีดที่หยิบมาปาดที่คอจนเสียชีวิต

ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับน้องจิวที่นอนอยู่บนเตียงเห็นเหตุการณ์ ผู้ต้องหาจึงลงมือปาดคอเสียชีวิตคาเตียงและจะปาดคอ แต่ได้วิ่งหนีออกนอกบ้านเพื่อตะโกนขอความช่วยเหลือ ผู้ต้องหากลัวว่าจะมีคนมาเห็น จึงได้รีบหยิบเอาทรัพย์สินของผู้ตายที่วางอยู่บนเตียงคือ พระเลี่ยมทอง จำนวน 1 องค์ ต่างหูทองคำจำนวน 1 คู่ และเงินสด 5,629 บาท ก่อนเดินออกจากบ้านของผู้ตายทันที

หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างไปลงที่หน้าห้างบิ๊กซี สุขสวัสดิ์ จากนั้นได้เรียกรถแท็กซี่จากบริเวณดังกล่าวให้ไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต และทำการเปลี่ยนเสื้อกางเกงและรองเท้าที่ซื้อจากตลาดหมอชิต (ตามเสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะถูกจับกุม) ก่อนจะขึ้นรถโดยสาร บขส.จากหมอชิตไปยังจังหวัดยโสธร และเดินทางต่อไปยังจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเอาทองที่ได้ไปขาย

จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถโดยสารประจำทางไปลงที่สถานีขนส่งมุกดาหาร และจ้างรถสามล้อให้ไปส่งริมโขง บริเวณชุมชนนาโป ติดต่อเรือข้ามแม่น้ำผ่านช่องทางธรรมชาติแอบหลบหนีข้ามไปยังประเทศลาว แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมไว้ทัน

นอกจากนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ลงมือก่อเหตุเพื่อต้องการนำเงินไปซื้อยาเสพติด เบื้องต้นตำรวจจึงได้แจ้งดำเนินคดีใน 4 ข้อหา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่นให้ถึงแก่ความตาย, ชิงทรัพย์ และความผิดฐานทารุณกรรมสัตว์ และภายหลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้นตำรวจยังได้ให้นายพูล่า จำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุจริง เนื่องจากหวั่นจะเกิดการรุมประชาทัณฑ์ขึ้นได้

ทั้งนี้ สำหรับความต้องการของทางญาติผู้เสียหาย ที่ต้องการให้ตำรวจนำผู้ต้องหามาขอขมาศพนั้น ทางตำรวจระบุว่าไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหาไปกระทำเช่นนั้นได้ ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของตัวผู้ต้องหาเอง แต่ทางตำรวจพร้อมจะอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook