พ่อร้องสื่อ ลูกชาย ป.1 โดนเพื่อนขาโจ๋แทงเท้าเป็นแผล แต่ครูเมินช่วย

พ่อร้องสื่อ ลูกชาย ป.1 โดนเพื่อนขาโจ๋แทงเท้าเป็นแผล แต่ครูเมินช่วย

พ่อร้องสื่อ ลูกชาย ป.1 โดนเพื่อนขาโจ๋แทงเท้าเป็นแผล แต่ครูเมินช่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ปกครองเด็กนักเรียน ป.1 ร้องสื่อ ครูไม่ช่วยเหลือสักนิด แม้แต่ทำแผลให้ หลังลูกชายโดนเพื่อนร่วมชั้นแทงเท้าเลือดอาบ เป็นแผลลึก เพราะไม่เลี้ยงขนมเหมือนทุกวัน

(24 ก.ย.) นายพร้อมพงศ์ อายุ 30 ปี ผู้ปกครองของ น้องโอม (นามสมมติ) อายุ 7 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน หลังลูกชายถูกเพื่อนนักเรียนร่วมห้อง ใช้ไม้แทงหลังเท้าบาดเจ็บเป็นแผลฉกรรจ์ เพราะลูกชายไม่มีเงินซื้อขนมเลี้ยง

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุคณะครูและผู้บริหารไม่ยอมทำแผลให้เด็ก ไม่พาไปโรงพยาบาล และไม่แจ้งเรื่องให้ผู้ปกครองได้ทราบ อีกทั้งยังไม่การออกมาชี้แจง และแสดงรับผิดชอบใดๆ ทั้งคณะครู ผู้บริหาร และผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุ จึงเข้าขอความเป็นธรรมดังกล่าว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา หลังเลิกเรียนตนได้เดินทางไปรับลูกชายตามปกติ แต่สังเกตเห็นหลังเท้าข้างขวา มีพลาสเตอร์ติดอยู่ และมีคราบเลือดอาบทั่วหลังเท้า แต่ในเบื้องต้นไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าน่าจะเป็นแผลถลอกที่เกิดจากเด็กหยอกล้อกันเท่านั้น อีกทั้งทางคณะครูก็ไม่ได้แจ้งเรื่องใดๆ

จนกระทั่งกลับมาถึงบ้าน ลูกชายบอกว่าปวดแผลและเท้าบวม จึงเปิดพลาสเตอร์ออกดูก็ต้องตกใจ เพราะพบว่าเป็นแผลลึกและยาวกว่า 2 เซนติเมตร จึงรีบนำตัวไปโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ก็ทำการล้างแผลและเย็บ 2 เข็ม แล้วบอกว่าทำไมไม่พามาตอนที่เกิดเหตุใหม่และแผลยังสดๆ ตนจึงได้แจ้งไปว่าเพิ่งทราบเรื่อง

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า หลังทำแผลเสร็จได้สอบถามลูกชายจึงทราบว่า ช่วงเวลา 12.00 น. วันที่ 22 กันยายน ขณะที่ลูกชายกำลังนั่งเก็บก้อนหินเล่นใกล้สนามเด็กเล่นกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง มีเด็กชายชั้น ป.1 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนได้นำไม้ไผ่แหลมเดินเข้ามาแทงที่บริเวณหลังเท้า

news04-1

ซึ่งจากการสอบถามลูกชายและเพื่อน ทราบว่าสาเหตุที่เด็กคนดังกล่าวนำไม้ไผ่มาแทงเท้านั้น เพราะโกรธที่ไม่ได้กินขนมจากน้องโอมเหมือนทุกวัน เพราะวันนี้ลูกชายได้เงินมาโรงเรียนเพียง 10 บาท ไม่เหมือนทุกวันที่ผ่านมา ซึ่งถูกขู่บังคับให้ซื้อขนมเลี้ยงมาโดยตลอดก็เลยอาจเป็นชนวนเหตุ

ทั้งนี้หลังจากน้องโอมโดนเพื่อนเอาไม้ไผ่แทงหลังเท้า คณะผู้บริหารและครูที่เห็นเหตุการณ์กับไม่มีการพาเด็กไปล้างแผล และทำแผลให้เด็ก มีเพียงการนำพลาสเตอร์ยามาติดแผลให้เท่านั้น ทั้งที่เป็นแผลฉกรรจ์และลึก ไม่พาไปพบหมอเพื่อทำแผลแต่อย่างใด อีกทั้งไม่มีการเเจ้งผู้ปกครองให้ทราบเรื่อง กระทั่งถึงเวลาเลิกเรียนผู้ปกครองไปรับแล้วเห็นเอง

พ่อของน้องโอม กล่าวต่อว่า เรื่องดังกล่าวหากไม่เกิดขึ้นกับลูกของตน หลายคนอาจไม่รู้ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นรู้สึกอย่างไรที่เห็นลูกเป็นแบบนี้ และที่สำคัญหลังเกิดเหตุคณะครู ผู้บริหาร และผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุกลับไม่ยอมพาเด็กไปรักษาตัว และไม่ยอมพูดคุยชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น กลับปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือว่าไม่ถูกต้อง

เพราะที่ผ่านมาทราบจากผู้ปกครองหลายคนว่าเด็กที่เกิดเหตุใช้ไม้แทงลูกชายนั้น ยังก่อเหตุกัดและนำรองเท้าหรือหมวกลูกเสือของเพื่อนๆ ไปแอบหลายครั้ง ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องควรที่จะแสดงความรับผิดชอบและร่วมกันหาวิธีแก้ไข เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก จึงร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวตนอยู่ระหว่างปรึกษาทางครอบครัว และเตรียมที่จะเข้าแจ้งความต่อไป

ขณะเดียวกัน นายประพันธ์ศักดิ์ ไชยสิงห์ ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวตนทราบเรื่องตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว แต่ยอมรับว่าที่แรกเห็นพลาสเตอร์ติดไว้เท่านั้น ไม่ได้เปิดแผลดู กระทั่งผู้ปกครองไปเปิดแผลดูแล้วไม่สบายใจ ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนได้ให้ครูประจำชั้นเชิญผู้ปกครองของเด็กทั้งสองฝ่ายมาทำความเข้าใจและขอโทษกับเรื่องดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นเรื่องการไร้เดียงสาของเด็ก แต่ก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะทั้งคนทำและคนถูกกระทำล้วนเป็นเด็กทั้งคู่ ทั้งนี้พฤติกรรมของเด็กคนนี้นั้นก่อเหตุแกล้งเพื่อนมาแล้วหลายครั้ง เหมือนเด็กเก็บกด ทราบว่าเด็กคนดังกล่าวนั้นมีปัญหาทางครอบครัว

ซึ่งทางโรงเรียนได้กำชับให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานให้มากขึ้น และกำชับครูทุกคนคอยดูแลสอดส่องเด็กนักเรียนให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก และหากมีเหตุการณ์แบบนี้ก็ให้รีบนำเด็กส่งโรงพยาบาลทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook