ชีวิตชอกช้ำ สาวจีนป่วยหนักหลังคลอดลูก ซ้ำโดนพ่อสามีไล่ไปตายนอกบ้าน

"ถ้าเธอจะตายก็ไปตายที่อื่น อย่ามาตายในบ้านฉัน!" ประโยคทิ่มแทงใจเมื่อพ่อสามีประกาศกร้าวออกมาเช่นนั้น ทันทีที่ นางหยาง (นามสมมติ) ทราบว่าตัวเองป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และเขาไม่ต้องการมีลูกสะใภ้ที่ไม่แข็งแรงมาประดับเอาไว้ในวงตระกูล

เส้นทางความรักที่เป็นยิ่งกว่านิยายน้ำเน่าของนางหยาง เริ่มต้นกับการคบหาดูใจกับสามีของเธอ พวกเขาเป็นชาวเมืองจางโจว รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมศึกษา ก่อนจะพัฒนาความสัมพันธ์เรื่อยมาถึง 5 ปีเต็ม พวกเขาตัดสินใจเข้าพิธีวิวาห์เมื่อปีที่แล้ว

ครอบครัวฝ่ายสามีของเธอก็เอ็นดูและรักลูกสะใภ้คนนี้มาก เพราะเธอเองก็รู้จักพวกเขามาตั้งแต่วัยเรียน แต่ก็เป็นธรรมเนียมของครอบครัวชาวจีน ที่มักจะคาดหวังให้มีลูกหลานเป็นผู้ชายเอาไว้สืบทอดสกุล และหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกันเพียงไม่กี่เดือน นางหยางก็ตั้งครรภ์

แต่เรื่องราวทุกอย่างกลับพลิกผันไปหมด เมื่อประกาศให้ทุกคนทราบว่าลูกคนแรกเป็นลูกสาว ข่าวนี้ทำให้พ่อสามีของเธอรู้สึกหัวเสียและเปลี่ยนแปลงกลายเป็นคนเย็นชาใส่นางหยางไปในที่สุด สามีของเธอพยายามเกลื้อกล่อมปลอบใจพ่อเสมอว่า ลูกคนต่อไปของเขาจะต้องเป็นลูกชายแน่นอน

ภาพงานวิวาห์ของนางหยางกับสามี

เหตุการณ์ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก หลังจากที่ นางหยาง คลอดลูกสาวออกมาได้เพียง 7 เดือนเศษ เธอก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนแพทย์จะวินิจฉัยพบว่าเธอมีเชื้อมะเร็งเม็ดเลือดขาว ก่อนที่น้ำหนักตัวจะลดลงไปราวๆ 20 กิโลกรัมไปอย่างรวดเร็ว

นางหยาง จำเป็นต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เธอต้องเข้ารับคีโมบำบัด แม้ร่างกายของเธอกำลังจะพ่ายแพ้ให้กับโรคร้าย แต่เธอมักจะคิดปลุกใจอยู่เสมอด้วยคำว่า "ลูกฉันยังเล็ก ฉันยังตายไม่ได้"

ปัญหาการเงินก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเธอยากลำบาก เพราะค่ารักษาที่ต้องจ่ายต่อเนื่องตลอดหลายเดือน ทำให้สภาพคล่องตามแบบมนุษย์เงินเดือนเริ่มไม่สู้ดีนัก กระทั่งพ่อสามีของเธอได้เสนอให้เธอหย่าร้างกับลูกชายของเขา แลกกับเงินค่ารักษาโรค เพราะเขาไม่ต้องมีลูกสะใภ้ขี้โรคเช่นนี้และเกรงว่าจะส่งผลทำให้หลานสุขภาพไม่แข็งแรงตามไปด้วย

นางหยางปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว ขณะที่สามีของเธอก็ไม่ชอบใจนักที่พ่อของเขามีข้อเสนอเช่นนี้ เขายืนยันว่าเขารักภรรยาและจะดูแลรักษาด้วยตัวเอง แม้ว่าจะต้องไปกู้ยืมและขอเงินจากเพื่อนมาจ่ายค่ารักษาก่อนก็ตาม แต่เขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ภรรยาได้อยู่กับเขา และดูลูกสาวเติบโตไปด้วยกันให้นานที่สุด

สามีของนางหยางยังแวะเวียนมาดูแล แม้พ่อของเขาต้องการให้หย่าร้างกัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ นางหยาง มีกำหนดเข้าผ่าตัดปลูกถ่ายไขกระดูก แม้จะเป็นการผ่าตัดที่ไม่เสี่ยงเท่าใดนัก แต่ก็มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ปัจจุบันสามีของนางหยางยังคงแวะเวียนมาดูแลภรรยาของเขาทุกวัน

นางหยางมีโอกาสพูดคุยกับลูกสาวได้แค่ผ่านทางวิดีโอคอลเท่านั้น ทุกครั้งที่เธอได้เห็นหน้าลูกสาว ก็แทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ และเป็นแรงใจสำคัญที่ทำให้เธอต้องมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปให้ได้

"คุณไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะสู้ให้เต็มที่ ถ้าวันหนึ่งฉันไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว คุณก็หาใครสักคนที่เป็นแม่เลี้ยงที่ดีให้ลูกสาวของเราได้" นางหยางกล่าวกับสามีของเธอทั้งน้ำตา เป็นประโยคที่แทนคำขอบคุณและขอโทษที่เธออาจจะไม่ใช่ภรรยาและลูกสะใภ้ที่ดีพอ