แห่ร้องผญบ.ตุ๋นเงินออมทรัพย์

แห่ร้องผญบ.ตุ๋นเงินออมทรัพย์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายธารา อุษาอาคเนย์ พร้อมด้วยชาวบ้านหมู่ 1-2 ต.ประจันตคาม และหมู่ 1-13 ต.คำโตนด อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ ขอให้เข้าไปตรวจสอบกรณีชาวบ้านเข้ากลุ่มออมทรัพย์กับคณะกรรมการบริหารเงินออมทรัพย์บ้านเนินมะไฟ หมู่ 9 โดยมีผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการกองทุน โฆษณาชวนเชื่อให้ชาวบ้านร่วมออมทรัพย์ โดยระบุว่าเป็นการออมเงิน ฝากเงิน กู้เงินและถอนเงิน พร้อมให้ดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อเดือน แบบสัจจะพิเศษฝากเงิน 1,000 บาทขึ้นไป และแบบสัจจะธรรมดาฝากเงินตั้งแต่ 20 บาท ขึ้นไปดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 บาทต่อปี และจะปันผลให้ทุกเดือนม.ค.และเดือนก.ค.ของทุกปี พร้อมให้สวัสดิการอื่น ทำให้ชาวบ้านร่วมฝากเงินเข้ากองทุนทั้งสิ้น 700 คน จำนวน 2,044 บัญชี มูลค่า 36 ล้านบาท

นายธารากล่าวว่า กองทุนดังกล่าวจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2535 แต่เริ่มมีความผิดปกติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยผู้ใหญ่บ้านที่เป็น 1 ในคณะกรรมการ อ้างว่ามีธนาคารออมสินเป็นพี่เลี้ยงโครงการ โดยนำเงินกองทุนไปซื้อสมุดเงินฝากออมทรัพย์จากธนาคารออมสิน สาขาประจันตคาม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้าน และชาวบ้านบางรายนำโฉนดที่ดินไปค้ำประกันเงินกู้จากกองทุนดังกล่าวกับผู้ใหญ่บ้าน จนต่อมาผู้ใหญ่บ้านยึดโฉนดที่ดินของชาวบ้านที่เป็นสมาชิก และนำไปค้ำประกันเงินกู้หลายราย นอกจากนี้ ยังเกิดการข่มขู่ทวงหนี้ ซึ่งชาวบ้านได้รวมตัวกันร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่แต่เรื่องเงียบหาย

พ.อ.ปิยวัฒก์ กิ่งเกตุ ผอ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กล่าวว่า จากการการสอบปากคำผู้ร้องเรียนพบว่า มีชาวบ้านจำนวนมากถูกหลอกให้นำเงินไปลงทุนในรูปแบบการฝากเงินออมทรัพย์ โดยมีนายบัวเรียน ตงฉิน ผู้ใหญ่บ้าน ต.คำโตนด หมู่ 9 เป็นประธานคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ แต่ปรากฏว่าเมื่อฝากเงินแล้ว ไม่สามารถถอนเงินได้ หรือเมื่อผู้ฝากขอถอนเงิน 300,000 บาท แต่ได้เงินเพียง 100,000 บาท เชื่อว่าน่าจะมีการนำเงินไปหมุนใช้ประโยชน์อย่างอื่น โดยพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากมีการโฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนนำเงินมาฝากเหมือนกับการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงิน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook