นีโน่สอบได้ผู้พิพากษาสมทบ

นีโน่สอบได้ผู้พิพากษาสมทบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวว่าพิธีกรและนักแสดงหนุ่ม นีโน่-เมทนี บุรณศิริ ประสบผลสำเร็จจากการสอบเข้าเป็นผู้พิพากษาสมทบของศาลจ.ปทุมธานี แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามไปยังพิธีกรและนักแสดงหนุ่มถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่ง นีโน่ ก็ตอบด้วยความปลื้มปีติว่าเป็นเรื่องจริง จากนั้นให้รายละเอียดว่าเมื่อประมาณเดือนพ.ย.51 ที่ผ่านมา ตนสมัครสอบเป็นผู้พิพากษาสมทบของศาลจังหวัดปทุมธานี แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้พิพากษาสมทบของศาลดังกล่าวจะเป็นการคัดสรร แต่ในรุ่นของตนจะต้องเป็นการสอบคัดเลือกเข้าไป โดยมีผู้สนใจสอบคัดเลือกเป็นจำนวนมาก

นีโน่ เล่าให้ฟังต่อไปว่า ต่อมาทางศาลเปิดอบรมอยู่ 3 วัน จากนั้นก็เริ่มสอบข้อเขียน พอผ่านข้อเขียนเสร็จก็สอบสัมภาษณ์ และพอผ่านสัมภาษณ์ได้ ทางก.ต.(คณะกรรมการตุลาการ) ก็จะเป็นผู้พิจารณาโดยแต่ละด่านจะมีคณะกรรมการเป็นผู้พิจารณา ซึ่งสุดท้ายตนก็สอบได้ และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้รับตำแหน่งดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อย โดยโปรดเกล้าฯผ่านทางศาล และทางศาลได้แจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ตอนที่สอบยากมากครับ เพราะว่าจะต้องสอบหลายขั้นตอนมาก จากคณะกรรมการหลายชุด ซึ่งในตอนแรกนั้นตนก็เกือบจะไม่ผ่าน เพราะว่า กรรมการจะเห็นว่าเราเป็นคนบันเทิง กลัวจะทำให้ภาพความน่าเชื่อถือลดน้อยลง แต่ผมก็ได้ชี้แจงว่า ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเยาวชนและครอบครัว ความเป็นดาราน่าจะช่วยได้เยอะกว่า เพราะทุกคนรู้จัก ชาวบ้านจะเชื่อมั่นเราในระดับหนึ่งแล้ว เมื่อผมให้เหตุผลแบบนี้ไป สุดท้ายก็สอบได้ ดีใจมากครับเพราะว่าปีนี้สอบประมาณ 500 คน แต่จะได้ไม่กี่คน และผมเองถ้าข้อมูลไม่ผิด จะเป็นคนแรกของคนบันเทิงที่สอบได้ ซึ่งดีใจมาก เป็นเกียรติประวัติของตัวผมเอง ต่อวงศ์ตระกูล และวงการบันเทิง เพราะก่อนหน้านี้ก็มีคนบันเทิงหลายคนมาสอบแต่สอบไม่ผ่านครับ ความจริงก่อนหน้านี้ผมก็ทำงานให้กับศาลอาญาคือ เป็นผู้ประนีประนอมศาลอาญาอยู่แล้ว ทำมาได้ประมาณ 2 ปี แต่ตำแหน่งนี้คือเป็นการแต่งตั้ง ไม่ใช่ต้องสอบแบบนี้

พิธีกรและนักแสดงคนดังกล่าวต่อไปว่า สำหรับหน้าที่ของผู้พิพากษาสมทบของศาลแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว จะเป็นข้าราชการที่มีตำแหน่งเทียบเท่ากับข้าราชการซี 9 แต่ไม่มีเงินเดือน เวลาพิจารณาคดีจะขึ้นบัลลังก์พิจารณาคดีพร้อมกับผู้พิพากษาเฉพาะคดีเยาวชนและครอบครัวเท่านั้น ซึ่งเราจะร่วมพิจารณาว่า เด็กที่ถูกพิจารณาคดีสมควรที่จะต้องได้รับโทษต้องเข้าไปอยู่ในสถานพินิจฯ หรือรอลงอาญา โดยจะอยู่ในวาระ 3 ปี จากนั้นก็จะมีการพิจารณาโดยคณะกรรมการอีกครั้ง ซึ่งถ้าหากว่าเราจะทำงานต่อโดยจะดูจากผลงาน ถ้าหากว่าเราผลงานดีและเราอยากจะทำงานต่อ คณะกรรมการก็พิจารณาให้ต่อ แต่ถ้าไม่มีผลงานคณะกรรมการก็จะไม่ให้ต่อ แม้ว่าเราอยากจะต่อก็ตาม แต่พอทำงานต่อก็จะต้องมีการเข้าไปอบรมอีกครั้งเพื่อให้ทันกฎหมายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook