สาวช้ำใจคลั่ง ยืนกรีดแขนตัวเองคาคอนโดฯ ตำรวจกล่อมกว่า 2 ชั่วโมง

สาวช้ำใจคลั่ง ยืนกรีดแขนตัวเองคาคอนโดฯ ตำรวจกล่อมกว่า 2 ชั่วโมง

สาวช้ำใจคลั่ง ยืนกรีดแขนตัวเองคาคอนโดฯ ตำรวจกล่อมกว่า 2 ชั่วโมง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวคลั่งทะเลาะกับแฟนหนุ่ม ชักมีดคัทเตอร์จี้ตัวเองกลางคอนโดฯ ขู่ติดต่อให้แฟนมาหาด้วย ก่อนคลั่งกรีดแขนตัวเองเหวอะ ตำรวจเจรจานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงยอมใจอ่อน

(17 ม.ค.) เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ถนนข้าวหลาม ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของหญิงสาวคนหนึ่งจากบริเวณชั้น 3 ของอาคาร จึงได้ไปตรวจสอบพบ น.ส.แต๊ก (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี กำลังมีอาการคลุ้มคลั่ง และถือมีดคัทเตอร์เอาไว้อยู่ในมือ พร้อมกับเรียกร้องให้ติดต่อกับแฟนหนุ่ม หากไม่มาจะก่อเหตุฆ่าตัวตาย

หลังจากนั้น จึงได้แจ้งให้ พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ กู้พิมายวรกูล รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแสนสุข ได้รับทราบ ก่อนจะนำกำลังมาช่วยเหลือ โดยใช้เวลาเจรจานานกว่า 2 ชั่วโมง เนื่องจาก น.ส.แต๊ก หลบไปยืนอยู่บริเวณกระจกหน้าต่างโถงทางเดิน และมีอาการคลุ้มคลั่งตลอดเวลา พร้อมทั้งเรียกร้องให้ตำรวจโทรศัพท์ติดต่อกับแฟนหนุ่มให้มาหา ไม่เช่นนั้นจะฆ่าตัวตาย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามติดต่อหาแฟนหนุ่มของ น.ส.แต๊ก แต่ทางปลายสายปิดโทรศัพท์ไว้ ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ น.ส.แต๊ก คลั่งใช้มีดคัทเตอร์ออกมากรีดที่แขนซ้ายของตัวเองหลายครั้ง ทำให้เลือดไหลลงพื้นอาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นท่าไม่ดี จึงช่วยเกลี้ยกล่อมเจรจา กระทั่งในที่สุดสามารถปลดมีดออกจากมือผู้ก่อเหตุได้สำเร็จ

หลังจากนั้นจึงได้ให้อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ปฐมพยาบาลให้เบื้องต้น พบว่ามีรอยแผลที่แขนซ้ายหลายแห่งและบาดแผลค่อนข้างลึก จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล จากการตรวจสอบภายในห้องพักของผู้ก่อเหตุ ไม่พบยาเสพติดแต่อย่างใด เชื่อว่าการที่ น.ส.แต๊ก ก่อเหตุทำร้ายตัวเองในครั้งนี้อาจจะมาจากปัญหาทางสุขภาพจิต

จากการสอบถาม นายอธิวัฒน์ พนักงานรักษาความปลอดภัยกล่าวว่า น.ส.แต๊ก มีอาการเอะอะโวยวายมาตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว เห็นท่าไม่ดีจึงได้แจ้งให้ตำรวจสถานีตำรวจมาจัดการต่อ ทั้งนี้ น.ส.แต๊กมีอาการในลักษณะอย่างนี้มาแล้ว 3 ครั้ง โดยเฉพาะช่วงที่มีปัญหาทะเลาะกับแฟน

พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ กล่าวว่า การช่วยเหลือหญิงสาวในครั้งนี้จะต้องพยายามทำให้ น.ส.แต๊ก ไว้วางใจและเข้าประชิดตัว เพื่อให้วางอาวุธลง อย่างไรก็ตามการช่วยเหลือในครั้งนี้ลุล่วงไปด้วยดี ส่วนสาเหตุจะต้องทำการสอบสวนอีกครั้งต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook