ฮือฮา "พญาครุฑ" หายสาบสูญไป 19 ปี จู่ๆ ได้กลับคืนมาไว้อยู่ที่เดิม

ฮือฮา "พญาครุฑ" หายสาบสูญไป 19 ปี จู่ๆ ได้กลับคืนมาไว้อยู่ที่เดิม

ฮือฮา "พญาครุฑ" หายสาบสูญไป 19 ปี จู่ๆ ได้กลับคืนมาไว้อยู่ที่เดิม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชายปริศนาหิ้วถุงมาฝากไว้ให้นายอำเภอแม่สอด เปิดดูพบเป็น "พญาครุฑ" ที่หายไปตั้งแต่ปี 2543 แต่ในวันนี้หวนกลับคืนมาอยู่ที่เดิม เชื่อเป็นเพราะอาถรรพ์และความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์

(18 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีบุคคลนิรนามได้นำร่างพญาครุฑมาฝากคืนให้กับนายอำเภอแม่สอด เป็นพญาครุฑที่หายไร้ร่องรอยตั้งแต่ปี 2543 ตั้งแต่สมัยที่ทำการอำเภอแม่สอด หลังเก่าที่ถูกรื้อไปตั้งแต่ปี 2543 องค์พญาครุฑเป็นลักษณะกางปีก กว้างขนาด 36 นิ้ว สูง 30 นิ้ว เป็นพญาครุฑพ่าห์

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด ขณะที่ท่านกำลังทำความสะอาดและนำน้ำมันมะกอกมาขัดถูองค์พญาครุฑจนมีความสง่างามน่าเกรงขาม ครุฑ หรือ พญาครุฑ (Garuda) เป็นสัตว์กึ่งเทพ ในตำนานปรัมปราของอินเดีย ปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง

นายชัยพฤกติ์ กล่าวว่า พญาครุฑองค์นี้ เคยอยู่ที่หน้าบรรณของที่ว่าการอำเภอหลังเก่าที่เป็นอาคารไม้ และไม่ทราบว่าหายไปที่ไหน นานแล้วไม่มีคนคิดถึง วันหนึ่งก็มีคนนำมาฝากที่นักการภารโรงให้นำไปมอบกับนายอำเภอ จึงได้นำมาเก็บรักษาไว้ เพื่อให้ประชาชนมาศึกษาว่าพญาครุฑสมัยโบราณมีความศักดิ์สิทธิ์น่าเกรงขามยังไง เบื้องต้นจะทำตู้ครอบกระจกมาตั้งไว้ในจุดที่เหมาะสมหน้าห้องนายอำเภอ

นายสมาน สุทาคำ อายุ 55 ปี นักการภารโรงเปิดเผยว่า อยู่ๆ ก็มีคนสูงวัยนำถุงมาฝากผ่านไปให้นายอำเภอ เมื่อตนเปิดดูก็พบว่าเป็นพญาครุฑ จึงนำไปให้นายอำเภอ คิดว่าพญาครุฑองค์นี้มีคนหยิบฉวยไปช่วงรื้ออาคารหลังเก่า นำไปครอบครองโดยไม่ถูกต้องคงเกิดอาเพศหรือเจ็บป่วย หรือมีเหตุที่คาดไม่ถึง จึงต้องนำมาคืนยังจุดเดิมดังกล่าว

ทั้งนี้ ตามคติไทยโบราณ เชื่อว่าครุฑเป็นพญาแห่งนกที่เป็นพาหนะของพระนารายณ์เชื่อว่าปกติอยู่ที่วิมานฉิมพลี มีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ที่ได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ ก็ได้แต่เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่งเท่านั้น

เหตุนี้ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า "สุบรรณ" ซึ่งหมายถึง "ขนวิเศษ"ครุฑเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ มีอานุภาพและพละกำลังมหาศาล แข็งแรง สามารถบินได้รวดเร็ว ทั้งยังมีสติปัญญาเฉียบแหลม เฉลียวฉลาด อ่อนน้อม ถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ น่าสรรเสริญ

ด้วยฤทธานุภาพของพญาครุฑนี้เอง จึงได้มีการสร้างรูป ครุฑพ่าห์ หรือ พระครุฑพ่าห์ หมายถึง ครุฑซึ่งเป็นพาหนะ เป็นรูปครุฑกางปีก และใช้เป็นสัญลักษณ์หมายถึงพระราชบัลลังก์ และตราประจำแผ่นดินของไทย สืบต่อกันมาแต่สมัยอยุธยา ซึ่งพบโดยทั่วไป

โดยเฉพาะตราประทับบนหัวจดหมายราชการ เรียกว่า ตราครุฑ ด้วยความเชื่อว่าพระมหากษัตริย์คือ สมมุติเทพ เป็นพระนารายณ์อวตาร ผู้ทรงมีครุฑเป็นพระราชพาหนะนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ พระราชพาหนะของพระมหากษัตริย์จึงประดับธงมหาราช ซึ่งเป็นธงรูปครุฑ ขณะเดียวกัน ยังมีเรือพระราชพิธีหลายลำ ที่สลักโขนเรือเป็นรูปครุฑ เช่น เรือครุฑเหิรเห็จ ครุฑเตร็จไตรจักร และเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook