ก.คลังตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญฯ ช่วยแรงงานมีเงินออมหลังเกษียณ รับ 1,500-12,000บาท/เดือน

ก.คลังตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญฯ ช่วยแรงงานมีเงินออมหลังเกษียณ รับ 1,500-12,000บาท/เดือน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เปิดโครงสร้างกองทุนบำเหน็จบำนาญฯ กระทรวงคลังตั้งระบบออมระยะยาว ช่วยแรงงานทั้งใน-นอกระบบ มีรายได้หลังเกษียณ คาดรับ 1,500-12,000 บาท ต่อคน ประมาณการ 5 ปี เงินออมในประเทศเพิ่ม 24,516 ล้าน

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ้ง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการจัดตั้งโครงการกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) ครอบคลุมทั้งแรงงานในระบบและนอกระบบ เพื่อให้มีระบบการออมระยะยาวเพื่อการชราภาพที่เป็นระบบ โดยได้รับการดูแลรับประกันโดยภาครัฐ เพื่อเป็นช่องทางให้แรงงานเข้าถึงการออมมากขึ้น สร้างความมั่นคงในวัยชรา ทั้งนี้ แรงงานในระบบจะให้เข้า กบช.โดยบังคับ โดยจ่ายเงินสมทบนายจ้างและลูกจ้างฝ่ายละ 3% ภายใต้วงเงินช่วง 6,000-40,000 บาท ยกเว้นผู้ที่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 3% หรือไม่เกิน 40,000 บาท ส่วนแรงงานนอกระบบ ให้เข้าเป็นสมาชิกโดยสมัครใจ แต่เมื่อเข้าเป็นสมาชิกแล้วจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย โดยจ่ายเงินสมทบ 3% ของรายได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จ่ายเงินสมทบเกิน 3% สามารถเปลี่ยนมาเป็น กบช.ได้

ทั้งนี้ ข่าวแจ้งว่า สำหรับ กบช.นอกระบบ จะกำหนดแรงงานอายุ 15-60 ปี และไม่อยู่ภายใต้กฎหมายการออมเพื่อชราภาพอื่น โดยมีอัตราสมทบขั้นต่ำ 100 บาทต่อเดือน และรัฐสมทบให้อีกเดือนละ 50 บาท และแรงงานออมสมัครใจฝ่ายเดียวสามารถเพิ่มเงินสมทบได้ตั้งแต่ 100-1,000 บาทต่อเดือน และอัตราการออมจะปรับเพิ่มทุกๆ 5 ปี ตามดัชนีอัตราเงินเฟ้อหรือค่าจ้าง ซึ่งผลประโยชน์ที่จะได้รับตามจำนวนเงินในบัญชี เงินสมทบจากรัฐบาล และดอกผลจากการบริหารไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี รวมเบี้ยยังชีพอีก 500 บาท จะได้รับเมื่อครบ 60 ปี

ข่าวแจ้งอีกว่า โครงสร้างดังกล่าวแรงงานในระบบจะมีรายได้หลังเกษียณเพิ่มขึ้นเท่ากับค่าจ้างเฉลี่ยประชาชาติหรือ 8,000 บาท ได้รับบำนาญ 17.96% ของเงินเดือนงวดสุดท้ายหรือ 6,408 บาท เมื่อรวมกับกองทุนชราภาพอีก 22.25% ของเงินเดือนงวดสุดท้ายหรือ 6,375 บาท รวมเป็น 40.2% ของเงินเดือนงวดสุดท้ายหรือ 12,783 บาท ในปีที่อายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งเข้าสู่มาตรฐานที่เพียงพอ ส่วนแรงงานนอกระบบจะมีรายได้อย่างน้อย 1,500 บาทต่อเดือน หากรายใดออมเพิ่มก็จะได้รายได้หลังเกษียณเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ การออมของ กบช.เป็นการออมระยะยาว จากการประมาณการใน 5 ปี คาดว่า จะทำให้เงินออมในประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 24,516 ล้านบาท และหากลูกจ้างเอกชนเข้า กบช.พร้อมกันจะได้เงินออมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 38,913 ล้านบาท สำหรับแรงงานนอกระบบจะเพิ่มเงินออมเฉลี่ย 5 ปีแรก ปีละ 49,020 ล้านบาท รวมเฉลี่ยปีละ 73,536 ล้านบาท และ 87,933 ล้านบาท ตามลำดับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการดังกล่าวนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเดือนกรกฎาคม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook