ตัวแทนพธม.ภาคส่วนใหญ่หนุนตั้งพรรค

ตัวแทนพธม.ภาคส่วนใหญ่หนุนตั้งพรรค

ตัวแทนพธม.ภาคส่วนใหญ่หนุนตั้งพรรค
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประชุมพันธมิตรฯโหวตตั้งพรรคคึกคัก "จำลอง"ปัดผลประโยชน์ร่วมตั้งพรรคการเมือง "สนธิ"ย้ำเป็นคนมีสีลอบสังหารไม่สนใจจะจับคนร้ายได้หรือไม่ ขณะที่ตัวแทนพันธมิตรส่วนใหญ่หนุนตั้งพรรคค้านแก้ไขรัฐธรรมมนูญ สัญญาณขัดข้องระหว่างรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์


(24พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" โดยได้กล่าวขอบคุณ ส.ส. และส.ว. ที่ช่วยกันทำงานในสมัยประชุมสภาตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลสามารถผลักดันกฎหมายที่มีความสำคัญได้หลายฉบับ โดยเฉพาะกฎหมายงบประมาณกลางปี ที่นำมาสนับสนุนโครงการที่มีความสำคัญของรัฐบาลหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น โครงการเรียนฟรี 15 ปี , เบี้ยยังชีพ , โครงการ อสม. และโครงการชุมชนพอเพียง ซึ่งโครงการต่างๆ เหล่านี้สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังออกอากาศไปได้ประมาณ 5 นาที ก็ได้เกิดเหตุขัดข้องในระบบสัญญาณในการถ่ายทอดสด ทำให้ต้องพักการออกอากาศไปร่วม 50 นาที จึงสามารถออกอากาศได้ตามปกติแล้ว

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า หลังจบรายการ นายกรัฐมนตรีเรียกนายชาติชาย พุคยาภรณ์ รมช.เกษตรฯเข้าพบเพื่อหารือ และสอบถามความชัดเจนในการปรับ รวมถึงเหตุผลที่นายชาติชายประกาศว่า จะอยู่ในตำแหน่งต่อไป แม้พรรคจะมีมติให้ลาออก

ทั้งนี้มีการคาดหมายว่า นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย จะได้เข้ามานั่งเกี้าอี้รัฐมนตรีนี้แทนนายชาติชาย แต่นายศุภชัยยังปฏิเสธที่จะให้ความชัดเจน โดยระบุว่า ถือเป็นมารยาทรอให้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เป็นคนเปิดเผยจะดีกว่า โดยขณะนี้ตนเองเดินทางไปเปิดสาขาพรรคที่ จ.เชียงราย กับหัวหน้าพรรค ซึ่งก็ไม่กล้าสอบถามเรื่องนี้ แต่ยอมรับว่าในพรรคมีการพูดกัน

ประชุมพันธมิตรฯโหวตตั้งพรรคคึกคัก

การประชุมสภาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่อาคารนันทนาการ มหาวิทยาลัยรังสิตได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.เศษ ที่ผ่านมา โดยมีนายสมศักดิ์ โกศัยสุข 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ รุ่นแรก ในฐานะประธานสภาพันธมิตรฯ เป็นประธานในการประชุม ขณะที่ตัวแทนพันธมิตรฯ ทั่วประเทศ จำนวนประมาณ 3,000 คน เข้าร่วมประชุมอย่างคับคั่ง รวมทั้งมีตัวแทนสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดการประชุมแล้ว เป็นช่วงของการพูดวิเคราะห์สถานการณ์ โดย 5 แกนนำพันธมิตรฯ เริ่มจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นคนแรก โดยนายสนธิ กล่าวว่า พันธมิตรฯ เป็นของศักดิ์สิทธิ์ พรรคการเมืองนั้น ถ้าจะมีการตั้งก็จะเป็นเครื่องมือหนึ่งในการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ซึ่ง พันธมิตรฯมีเครื่องมือหลายอย่าง นอกจากพรรคการเมืองแล้ว อาจมีมูลนิธิที่ออกไปให้ความรู้กับประชาชน ทั้งนี้ 5 แกนนำพันธมิตรฯ จะเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพี่น้องพันธมิตรฯ เป็นคนเลือก ไม่ใช่ตั้งกันเองเด็ดขาด

"จำลอง"ปัดผลประโยชน์ร่วมตั้งพรรคการเมือง

ทางด้านพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การตั้งพรรคของพันธมิตรฯ ไม่ได้กลืนน้ำลายตัวเอง หรือผลประโยชน์กับพรรคการเมืองใด จากการประเมินรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่พันธมิตรฯ คาดหวังไว้เท่าใดนัก

นอกจากนี้ พล.ต.จำลอง ปฏิเสธรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่ขอฟังมติการตั้งพรรคจากประชาชนก่อน ส่วนตัวสนับสนุนการตั้งพรรคการเมืองอย่างเต็มที่

"สนธิ"ย้ำเป็นคนมีสีลอบสังหาร

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร กล่าวว่า การต่อสู้ทางการเมืองเป็นเรื่องยาวนาน และต้องอดทนอย่างสูง จึงขอพี่น้องให้พันธมิตรฯ ที่หนุนการตั้งพรรคอย่าคาดหวังภายใน 2-3 ปีว่าจะต้องประสบสำเร็จ อย่าเอาจำนวน ส.ส.มาตัดสินใจ แต่ขอให้นึกถึงญาติวีรชนหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นที่ตั้ง และต้องขอความร่มมือสมาชิกพรรคบริจาคเงินเข้าพรรคพันธมิตรฯ โดยเราจะไม่ใช้เงินเหล่านั้นมาซื้อเสียง

"ใครไม่เห็นด้วยกับการตั้งพรรค หากฉันทานุมัติเห็นด้วยต้องยอมรับประชาธิไตยทางตรง พรรคการเมืองมี 2 ประภท ที่มีรากเหง้าคือพันธมิตรฯ และพรรคที่ไม่มีพรรครากเหง้า และขอระบาย ความคับแค้นใจในรอบ 1 เดือนกว่า คาดว่าพี่น้องคงอยากทราบว่าใครเป็นลอบยิงผม แต่ขอยืนยันว่าเป็นฝีมือคนมีสี ส่วนจะจับใครได้หรือไม่นั้นไม่สำคัญเพราะได้อโหสิกรรมไปหมดสิ้นแล้ว"

นายสมเกียรติพงษ์ไพบูลย์ แกนนำ พธม. กล่าวว่าวันนี้มีผู้แทนจากต่างชาติ จากเอกอัครราชทูต เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ รวมทั้งพันธมิตร ฯ จากส่วนอื่นๆ วันนี้มาร่วมกันไว้อาลัยให้กับการเมืองเก่า ที่ทุจริตคอรัปชั่น เพื่อสถาปนาการเมืองใหม่ให้เกิดขึ้น จะไม่ทำให้แนวร่วมพันธมิตร ฯ ทั่วประเทศผิดหวังกับแกนนำ โดนแกนนทั้ง 5 คนจะไม่ทำการโดยพลการแต่จะขอฉันทามติทุกครั้ง

นายพิภพธงไชย แกนนำ พธม. การตรวจสอบอุดมการณ์เป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้าเราสามารถทำอุดมการณ์การเมืองใหม่ให้เกิดขึ้นได้ การเมืองภาคปะชาชนจะไม่มีวันหายไป เราจะเป็นพรรคการเมืองของประเทศไทย พรรคแรกที่มาจากมวลชนอย่างแท้จริง โดยขอให้ประชาชนไปสู่ชัยชนะในที่สุด

นายพิภพยังกล่าวย้ำถึงเป้าหมายของการตั้งพรรคใหม่ว่า จะต้องมี 3 ส่วนคือ 1.อุดมการณ์ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตรงกัน 2.การสนับสนุนพรรคการเมืองที่ทุจริตจะทำไม่ได้และ 3.ต้องพร้อมต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของสังคม

ผมจึงขอเชิญทุกสีทุกกลุ่มการเมืองใหม่จะละลายความเป็นสี เพื่อความเป็นธรรม ถ้าเห็นตรงกันก็เข้าร่วมได้เลย นายพิภพกล่าว

ด้านพล.ต.จำลองศรีเมือง แกนนำ พธม. กล่าวว่ายืนยันไม่ใช่เจตนาของเราแกนนำที่จะให้มีพรรคการเมือง แต่เราต้องการให้มีการเมืองใหม่ และเราแกนนำ ไม่เคยชี้นำ ว่าตั้งพรรคหรือไม่ ซึ่งการตั้งพรรคการเมืองนั้นเสียงคนไทยในอเมริกา ฯ เห็นด้วยกับการจัดตั้งพรรคแต่ก็ยังไม่ใช่ข้อสรุป ดังนั้นจึงต้องนำมาถามเป็นฉันทามติกับพี่น้อง ซึ่งข้อยุติจะได้รับทราบกันในวันพรุ่งนี้ ( 25 พ.ค.) ที่พธม. จะจัดงาน รำลึก193 วัน1 ปีการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ณสนามกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ( เริ่มงาน14.00 23.40 น. ช่วง20.30 น. นายสมศักดิ์ประธานสภา พธม.จะขอฉันทามติ) ว่าจะตั้งหรือไม่ตั้งพรรคซึ่งจะถือเป็นเสียงคนส่วนใหญ่ โดยวันพรุ่งนี้(25)จะขอฉันทามติด้วยว่าจะเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ รธน. มาตรา237 ,190 และ309

"ประสงค์"ถล่มการเมืองเก่าเลว-ชู พธม.ตั้งพรรคผสมม็อบ

หลังจากที่แกนนำ พธม. กล่าวปราศรัยบนเวทีประชุมสภาพธม. แล้วต่อมา น.ต.ประสงค์สุ่นศิริ อดีตประธานกรรมาธิการร่าง รธน. ปี2550 ได้ขึ้นกล่าวถึงการเริ่มการเมืองใหม่ว่าเราจะปล่อยให้การเมืองเดินไปเองไม่ได้ เพราะนักการเมืองในขณะนี้ไม่เข้าใจการทำงานการเมือง เข้ามาทำงานการเมืองโดยไม่เข้าใจความหมาย การเมือง คือการจัดสรรประโยชน์เพื่อสาธารณะอย่างเป็นธรรม นักการเมืองต้องเสียสละ มีหัวใจทำเพื่อประชาชน แต่เท่าที่เห็นนักการเมืองทำงานเพื่อตนเองทั้งนั้น แม้กระทั่งรัฐบาลปัจจุบัน พรรคแกนนำที่เป็นพรรคน้ำดี แต่ดูแล้วในที่สุดจะกลายเป็นพรรคน้ำเสีย การทำงานทุกวันนี้เพียงแต่ประวิงเวลาเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดเท่านั้น ซึ่งเกิดผลเสียกับประชาชนหลายอย่าง โดยเฉพาะ 4-5 เดือนที่ผ่านมาไม่เห็นอะไรเลย นอกจากความพยายามในการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญก็เปิดช่องทางให้แก้ไขได้แอยู่แล้ว แต่มีเงื่อนไขคือจะต้องไม่มีประโยชน์ทับซ้อน แต่เห็นชัดว่าการแก้รัฐธรรมนูญล้นมีกรรมการเป็นผู้เกี่ยวข้อง ไม่ได้แก้เพื่อประชาชน แต่แก้เพื่อให้ตนเองพ้นผิด

รัฐธรรมนูญสร้างขึ้นมาเพื่อคนส่วนใหญ่ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อคนส่วนน้อยเพื่อนักการเมือง หากยังดื้อดึงแก้รัฐธรรมนูญ เชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศคงไม่ยอมง่ายๆ การเมืองใหม่เกิดขึ้นไม่ได้หากนักการเมืองยังเล่นการเมืองแบบไม่รู้ความหมาย และไม่มีหัวใจความเป็นนักการเมือง เชื่อว่ามีนักการเมืองดี แต่มีน้อย และไม่มีความกล้าหาญในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำที่มีภาพลักษณ์ดี น่าเชื่อถือ แต่ไม่กล้าตัดสินใจ ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก เราต้องการนักการเมืองที่ตัดสินใจเพื่อคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ตัดสินใจเพื่อคนกลุ่มน้อยที่ช่วยประคองให้รัฐบาลอยู่ได้ไปวันๆ เท่านั้น น.ต.ประสงค์กล่าว

น.ต.ประสงค์กล่าวอีกว่า วันนี้จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ว่าการเมืองใหม่ได้เริ่มต้นแล้ว เริ่มจากพันธมิตรฯ และการสร้างการเมืองใหม่ ไม่ใช่วิธีที่ออกไปทำการเมืองบนถนนอีกต่อไป และอย่าไปสนใจว่าหากทำการเมืองในสภาจะทำการเมืองท้องถนนไม่ได้อีกต่อไป การเมืองใหม่ต้องการคนเด็ดขาด คนดี และอย่าท้อถอย เพราะการต่อสู้กับความชั่วไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำวันเดียวจบ อย่าคิดว่าพันธมิตรฯ จะมีพรรคเป็นของตนเองไม่ได้ พันธมิตรฯ ยังคงรวมกลุ่ม เป็นการเมืองภาคประชาชน แต่มีคนของเรา ที่ส่งเข้าไปต่อสู้กับการเมืองในสภา เหมือนทีมฟุตบอลที่มีทั้งกองหน้ากองหลัง ประชาชนเป็นกองหลังที่สำคัญ เพราะฉะนั้นส่งกองหน้าตามที่เห็นสมควร อย่าไปเกรงกลัว และต้องนึกไว้เสมอว่า นักการเมือง พรรคการเมืองในปัจจุบัน ย่อมขัดขวาง ทำให้ประชาชนที่ไม่เข้าใจคิดว่าพันธมิตรฯ กำลังหาอำนาจเข้าสู่ตนเอง พรรคการเมืองเป็นเพียงเครื่องมือที่จะนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงเท่านั้น เราทำตามรัฐธรรมนูญทุกอย่าง เพราะฉะนั้นอย่าท้อ ถ้าคนดีท้อแล้วบ้านเมืองจะเสียหาย

นักการเมืองที่มีทุกวันนี้มีแต่คนโกหก ส่วนในสภาก็น่าสังเวช และน่าเศร้าใจ หา ส.ส. ดีๆได้ยาก ประชุมแต่ละวันก็โกหกมดเท็จ ตามควรเชื่อฝรั่งหากโกหกครั้งหนึ่ง จมูกก็ยาวขึ้น แต่สภาเขาดินผมคิดว่าโกหกแต่ละครั้งหางก็จะงอกออกมา ต่อไปถ้าจะเลือก ส.ส. ประชาชนคงต้องไปขอดูข้างหลังว่ามีหากงอกมาหรือไม่ อดีตประธานกรรมาธิการร่างรธน. กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับบรรยากาศการประชุมสภา พธม. มีแนวร่วมพันธมิตรฯจากภาคต่างๆ เข้าร่วมอย่างคึกคัก และมีแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต. จำลองศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายพิภพ ธงไชย ปรากฎตัวพร้อมเพรียงบนเวที โดยเฉพาะนายสนธิ ที่เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยพร้อมอาวุธครบมืออย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ทางเข้าหอประชุมยังติดตั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิด และมีเจ้าหน้าที่ของ พธม. คอยตรวจค้นกระเป๋าผู้เข้าร่วมประชุมอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัยด้วย

ส่วนด้านนอกอาคารมีการออกร้านขายสินค้า ทั้งเสื้อยืด 193 วันรำลึก1 ปีแห่งการต่อสู้รวมถึงเสื้อแจ๊คเกต มือตบ และของที่ระลึกต่างๆ ขณะที่บริเวณด้านหน้าอาคารหอประชุมมีการตั้งโต๊ะลงทะเบียนที่แยกเป็นภาคต่างๆ ให้แนวร่วมพันธมิตรฯ มาลงชื่อ โดยมีการแจกสติ๊เกอร์ติดเพื่อเข้ามาภายในงาน และยังมีการแจกแบบสอบถามข้อมูลพื้นฐานทั่วไปของผู้ร่วมชุมนุม รวมทั้งสอบถามความเห็นการสร้างการเมืองใหม่ และการตั้งพรรคการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ ด้วย

แบบสอบถามมีคำถามอาทิท่านเห็นว่าควรตั้งพรรคเมื่อไร , พันธมิตรฯจะสร้างการเมืองใหม่ให้เป็นผลสำเร็จด้วยวิธีใด , ท่านคิดว่าแกนนำพันธมิตรฯควรมีบทบาทอย่างไรในอนาคต ซึ่งมีตัวเลือกให้เลือกเช่น ไม่รับตำแหน่งทางการเมือง เป็นหัวหน้าพรรค เป็นที่ปรึกษา เป็น ส.ส. หรือแล้วแต่มติของแกนนำรวมถึงความคาดหวังจากการตั้งพรรคการเมืองใหม่ และหากไม่เห็นด้วยกับการตั้งพรรค สิ่งใดที่ท่านกังวลมากที่สุด โดยมีคำตอบให้เลือก เช่น กังวลว่าจะทำให้ภาคประชาชนล้มเหลวไปด้วย กังวลว่าจะแย่งเสียงกับพรรคประชาธิปัตย์ กังวลว่าจะหลงอำนาจและเปลี่ยนจุดยืน กังวลว่าจะเปลี่ยนแปลงไม่สำเร็จ สังคมไทยยังไม่พร้อม และกังวลว่าจะทำให้ภาคประชาชนล้มเหลวไปด้วย

ตัวแทนพันธมิตรส่วนใหญ่หนุนตั้งพรรค

หลังจากแกนนำพันธมิตรฯได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองแล้ว ได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนจากภาคต่างๆแสดงความเห็นว่าจะเห็นควรตั้งพรรคการเมืองหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่เห็นควรตั้งพรรคการเมือง โดยให้เหตุผลว่าพรรคการเมืองที่มีอยู่ปัจจุบันนี้เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง และไม่เห็นด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เอแบคโพลชี้คนไทยหลับสนิทมากขึ้น เก็บออมสูงขึ้น

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน หรือศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจ แนวโน้มวิถีชีวิตและปัจจัยลดทอนความสุขคนไทย เมื่อวันที่ 24 พ.ค. กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนใน 17 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปทุมธานี เพชรบุรี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สกลนคร หนองบัวลำภู พัทลุง ระนอง สุราษฎร์ธานี จำนวน 2,481 ครัวเรือน ระหว่างวันที่ 21 - 23 พ.ค. พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.1 นอนหลับได้สนิทในช่วง 30 วันที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุการณ์จลาจลช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 39.1 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์มาอยู่ที่ร้อยละ 59.1

ทั้งนี้ เมื่อถามถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับชีวิตของประชาชนที่ถูกศึกษาในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.4 ระบุ เวลาจะซื้อสินค้าใหม่จะถามใจตัวเองก่อนว่า มีความจำเป็นต้องซื้อ หรือเป็นแค่ความอยาก ประชาชนรู้จักรักษาสิ่งของต่างๆ ให้คงอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้นาน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 82.8 ในต้นเดือนพฤษภาคม มาอยู่ที่ร้อยละ 86.3 ประชาชนที่มุ่งทำงานให้พออยู่พอกินมีเงินเก็บออมไว้ยามจำเป็นเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 76.1 มาอยู่ที่ร้อยละ 79.3 ในขณะที่ประชาชนที่มักวางแผนใช้จ่ายและหารายได้อย่างรัดกุมเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 70.9 มาอยู่ที่ร้อยละ 76

ผลสำรวจพบ 10 ปัจจัยที่ลดทอนความสุขของคนไทยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 87.1 ระบุความแตกแยกของคนในสังคม ร้อยละ 82.4 ระบุสภาวะเศรษฐกิจของคนในครอบครัว ร้อยละ 77.2 ระบุ พฤติกรรมนักการเมือง แก่งแย่งตำแหน่งรัฐมนตรี ตำแหน่งทางการเมืองกัน ร้อยละ 74.0 ระบุ สภาวะเศรษฐกิจระดับประเทศ ร้อยละ 65.7 ระบุปัญหายาเสพติด ร้อยละ 56.6 ระบุความไม่เป็นธรรมในสังคม แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ประชาชนเกินกว่าครึ่งหรือร้อยละ 54.8 กังวลว่า ส.ส.ในฝ่ายรัฐบาลจะแตกแยกกันเอง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook