บลจ.ชี้วิสิฐไม่น่ารู้ข้อมูลซื้อหุ้น นายกฯคิดรื้อระบบกบข.

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ถึงผลการตรวจสอบการบริหารขาดทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ว่า วันที่ 3 มิถุนายน จะเรียกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พร้อมคณะทำงานตรวจสอบ กบข.มาสรุปว่า มีประเด็นใดบ้างที่ต้องดำเนินการต่อไป ยืนยันว่าการเมืองไม่เคยแทรกแซง กบข. และไม่มีความพยายามจะเปลี่ยนตัวนายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการ กบข. แต่ในทางตรงกันข้ามเชื่อว่ามีความพยายามแทรกแซงผ่านการเมืองเพื่อให้ ป.ป.ท.หยุดการตรวจสอบ ส่วนนายวิสิฐควรแสดงความรับผิดชอบอย่างไรกับข้อมูลที่พบซื้อหุ้นดักหน้า กบข.นั้น เป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังน่าจะต้องพิจารณา

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ กล่าวว่า หากที่ประชุมวันที่ 3 มิถุนายน มีมติไปในทิศทางเดียวกันจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติชี้มูลความผิดต่อไป แต่ก็หนักใจ หากผลสอบของคณะกรรมการของกระทรวงการคลังยืนยันว่าผู้บริหารไม่มีความผิด

นายวิสิฐ ตันติสุนทร กล่าวว่า ต้องรอดูว่าคณะกรรมการ (บอร์ด) กบข.จะทำอย่างไรต่อไป ยืนยันว่าไม่ได้ขาดส่งรายงานการซื้อขายหุ้นส่วนตัวแต่อย่างใด เพียงแต่ส่งล่าช้าเท่านั้น

นางเสาวณีย์ ศรีสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย หนึ่งในผู้จัดการกองทุน กบข.กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทเป็นผู้บริหารพอร์ตการลงทุนของ กบข.มาโดยตลอด และมีสิทธิขาดในการตัดสินใจลงทุน โดยไม่ต้องแจ้งผู้บริหาร กบข.ทราบล่วงหน้าว่า จะเข้าลงทุนในหลักทรัพย์ตัวไหน

คิดว่าคุณวิสิฐหรือผู้บริหาร กบข.ไม่น่าจะทราบข้อมูลการลงทุนของผู้จัดการกองทุนล่วงหน้า แต่ถ้าทราบข้อมูลล่วงหน้าจริง ก็ยอมรับว่าผู้ที่ทราบข้อมูลสามารถหาประโยชน์จากส่วนนี้ได้ นางเสาวนีย์กล่าว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีผู้บริหาร กบข.ซื้อหุ้นตัวเดียวกับ กบข.ว่า นอกจาก กบข.แล้วที่เป็นห่วงอยู่คือ กองทุนประกันสังคมที่จะต้องปรับปรุงการบริหารจัดการด้วย จริงๆ แล้วทั้ง กบข.และประกันสังคมทิศทางคือ ต้องให้มืออาชีพเป็นคนทำ แต่บังเอิญที่ผ่านมาแม้แต่มืออาชีพก็ต้องยอมรับว่าบริหารแล้วมีความเสียหาย รัฐบาลต้องมาดูวิธีเยียวยาแก้ไข