วิสิฐชิงตัดหน้าก่อนก.ยุติธรรมส่งสำนวนกบข.ให้ป.ป.ช.

วิสิฐชิงตัดหน้าก่อนก.ยุติธรรมส่งสำนวนกบข.ให้ป.ป.ช.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คมชัดลึก : วิสิฐ นัดแจง ป.ป.ท. ชิงตัดหน้าก่อน ยธ.ส่งสำนวน กบข.ให้ ป.ป.ช. ธาริต เผยบอร์ด กบข.อาจพ้นผิดอาญาเหตุไม่เจตนาทำผิด ขณะที่ พีระพันธุ์ สั่งสอบเชิงลึกล้างบางคนใน กบข. ใช้ข้อมูลวงในเก็งกำไรหุ้น ด้าน กรณ์ สั่งรื้อแผนลงทุนหวังฟื้นความเชื่อมั่น เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ที่กระทรวงยุติธรรม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมสรุปผลตรวจสอบการบริหารขาดทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ( กบข. ) ร่วมกับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และทีมงานชุดเฉพาะกิจ ที่กระทรวงยุติธรรม โดยใช้เวลาในการประชุมตรวจสอบเอกสารหลักฐานทั้งหมดนานกว่า 2 ชั่วโมง นายธาริตแถลงผลการประชุมว่า รมว.ยุติธรรม ได้สั่งให้ ป.ป.ท.ตรวจสอบเชิงลึกในหลายประเด็น เช่น เรื่องการซื้อหุ้นยานภัณฑ์ ที่มีการตัดสินใจเข้าซื้อเป็นมูลค่า 200 ล้านบาท แบบไม่ปกติ โดยผู้มีอำนาจตัดสินใจซื้อไปก่อน จากนั้นจึงกลับมาลงสัตยาบัน จึงอาจมีลักษณะเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลใดบ้าง ส่วนเรื่องบอร์ด กบข. ตามกฎหมายกำหนดให้หน้าที่หรืออำนาจในการตัดสินใจลงทุนเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการที่มีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เป็นผู้ตัดสินใจลงทุน แต่บอร์ดก็ไปมอบอำนาจให้คณะอนุกรรมการจัดการลงทุนแทนในวงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาท กลายเป็นการบริหารจัดการไม่ตรงตามกฎหมาย และนายวิสิฐก็เป็นประธานในคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว ดังนั้น จึงต้องเชิญบอร์ดมาชี้แจงว่า ทำไมจึงมอบอำนาจให้อนุกรรมการ หากการดำเนินการพบว่า ไม่มีเจตนาที่จะทุจริตก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดทางอาญา เพราะการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายนั้น ไม่จำเป็นต้องมีโทษทางอาญาเสมอไป แต่ให้ดูที่เจตนา วันนี้ นายวิสิฐได้ทำหนังสือมายัง ป.ป.ท. ขอเข้าชี้แจง ดังนั้น ที่ประชุมวันนี้ จึงจะยังไม่ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. โดยจะรอให้นายวิสิฐเข้าชี้แจงในอีกหลายประเด็นที่สงสัย รวมทั้งจะมีหนังสือเชิญไปยังบอร์ด กบข. ทั้งหมด ซึ่งขอความอนุเคราะห์ให้ความร่วมมือมาชี้แจงเพื่อตอบข้อสงสัยบางประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน นายธาริตกล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า มีหลักฐานอะไรที่ระบุถึงการนำข้อมูลภายในไปใช้ในการซื้อหุ้น นายธาริตกล่าวว่า ป.ป.ท.จะประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก อย่างไรก็ตาม หากผลสอบสรุปว่ามีเจ้าหน้าที่ไม่ว่าระดับใดเข้าไปเกี่ยวข้อง จะแยกส่วนในการดำเนินการโดยพิจารณาทางวินัย หากต้นสังกัดไม่ดำเนินการ ป.ป.ท.จะส่งข้อมูลเพื่อชี้มูลความผิดไปให้ ส่วนการดำเนินคดีทางอาญา ป.ป.ท.จะส่งให้อัยการพิจารณาและหากพบว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเกี่ยวข้องมีความร่ำรวยผิดปกติจะเข้าไปตรวจสอบด้วยตาม พ.ร.บ.มาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผลดำเนินงานของ กบข. คณะกรรมการได้พิจารณาเกี่ยวกับแผนการบริหารงานซึ่งมีผลขาดทุนในช่วงปี 2551 ตรวจพบแล้วว่า ไม่มีความผิด แต่ต้องการให้ กบข. ไปหารือกับ ก.ล.ต. เกี่ยวกับการดูแลกองทุนต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ก.ล.ต.เพื่อให้เกิดธรรมาภิบาลและการลงทุนที่ดี เพราะเห็นว่า ต้องมีการปรับปรุงแผนการลงทุนใน กบข. อย่างแน่นอน ทั้งนี้ เพื่อลดปัญหาการบกพร่องและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ข้าราชการสมาชิก กบข. ส่วนที่สองเป็นเรื่องของตัวบุคคล คณะกรรมการต้องไปพิจารณาเกี่ยวกับความผิดทางวินัย และต้องรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทราบภายใน 30 วัน ถึงแม้นายวิสิฐจะลาออกจากตำแหน่งแล้ว ก็ยังต้องถูกพิจารณาผลทางวินัยด้วย ซึ่งถ้าหากมีความผิดขัดต่อกฎหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องพิจารณาความผิดดังกล่าว ส่วนพนักงาน 150 คน ที่ต้องถูกตรวจสอบไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีความผิดทางวินัยต้องขึ้นอยู่กับการตรวจสอบของคณะกรรมการ ขณะที่ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รองปลัดกระทรวงการคลัง รักษาการปลัดกระทรวงการคลัง และรักษาการประธานคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ( กบข. ) เปิดเผยว่า ภายในวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายนนี้ จะเรียกประชุมคณะกรรมการ กบข. เพื่อพิจารณาวาระการลาออกของนายวิสิฐ ส่วนประเด็นการตรวจสอบความผิดในการบริหารงานของนายวิสิฐนั้น คณะกรรมการตรวจสอบที่มีนายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นผู้ตรวจสอบใน 3 ประเด็น คือ 1.ปฏิบัติตามระเบียบ กบข. หรือไม่ 2.รักษาผลประโยชน์สมาชิกหรือไม่ และ 3.ได้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการดำเนินงานของ กบข. ให้สมาชิกทราบหรือไม่

นายวิสุทธิ์กล่าวอีกว่า นายวิสิฐกระทำผิดระเบียบ กบข. คือ ซื้อหุ้นโดยไม่ได้รายงาน และรายงานไม่ครบ ส่วนซื้อแล้วมีผลต่อการลงทุนของ กบข. หรือไม่ ต้องให้กรรมการตรวจสอบก่อน สำหรับการรักษาผลประโยชน์ของสมาชิกนั้น เห็นว่าสามารถรักษาได้ระดับหนึ่ง ส่วนการประชาสัมพันธ์ข้อมูลแก่สมาชิก ถือว่ายังมีข้อบกพร่องอยู่ เท่าที่ดู นายวิสิฐไม่ปฏิบัติตามระเบียบ กบข. และมีปัญหาเรื่องจรรยาบรรณ ส่วนจะมีคดีอาญาหรือไม่ ต้องไปดูว่าทำผิดกฎหมายอาญาหรือไม่ โดยต้องรอผลสอบชุดของปกรณ์ก่อน แต่ยืนยันว่า การลาออกของนายวิสิฐ ไม่กระทบการดำเนินงานของ กบข. นายวิสุทธิ์กล่าว ส่วนผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนนายวิสิฐนั้น รายงานข่าวระบุว่า มีตัวเต็ง 5 คน ได้แก่ 1.นางดัยนา บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต อดีตกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย 2.นายพิสิฐ ลี้อาธรรม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัท ทีทีแอนด์ที และอดีตผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ 3.นายพนิช วิกิตเศรษฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. สมัยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าฯ กทม. 4.นายธวัช อังสุวรังษี อดีตกรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวง และ 5.นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง เลขาฯปปท.เผยวิสิฐ.ลาออกยังไม่พ้นโทษอาญา คลังจ้องดึงเงินประกันสังคมแสนล้านตั้งกองทุนสาธารณูปโภคกระตุ้นศก.เฟส2 ประจำวันที่1มิ.ย. วัดใจ ป.ป.ช.-ทุจริต กบข. ป.ป.ท.ย้ำวิสิฐผิดทั้งวินัย-อาญาบอร์ดกบข.ขีดเส้นสอบใน30วัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook