มันกลับมาอีกแล้ว "หมึกบลูริง" โผล่ทะเลระยอง เตือนกินแล้วตาย-ไม่มียาแก้พิษ

มันกลับมาอีกแล้ว "หมึกบลูริง" โผล่ทะเลระยอง เตือนกินแล้วตาย-ไม่มียาแก้พิษ

มันกลับมาอีกแล้ว "หมึกบลูริง" โผล่ทะเลระยอง เตือนกินแล้วตาย-ไม่มียาแก้พิษ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ชาวประมงพบ หมึกสายวงน้ำเงิน ที่มีพิษร้ายแรง โดยประมงเรือเล็กพื้นบ้านตากวน เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด จ.ระยอง จับได้ขณะออกไปเก็บหมึกสาย หรือชาวประมงเรียกหมึกกระเป๋า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (22 มี.ค.)  ซึ่งลักษณะของหมึกสายวงน้ำเงินที่พบจะมีขนาดเท่ากับฝาปลากระป๋อง และเมื่อนำปลาหมึกวงน้ำเงินขึ้นมาวางบนบก จะเห็นได้ว่า ลักษณะลำตัวจะเริ่มมีจุดสีน้ำเงินขึ้น โดยทั่วไป ซึ่งกลุ่มประมงต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงพิษร้ายแรงของปลาหมึกวงน้ำเงิน จากที่ดูในสื่อโซเชียลได้ข้อมูลว่า หมึกสายวงน้ำเงิน หรือ หมึกบลูริง (Blue-ringed octopus) มีพิษที่ผสมอยู่ในน้ำลายที่มีความร้ายแรงมาก ซึ่งร้ายแรงกว่างูเห่าถึง 20 เท่า และพิษไม่สลายไปแม้โดนความร้อน นับเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก

นายชานนท์ เดชคุ้ม อายุ 36 ปี ชาวประมงที่พบหมึกตัวดังกล่าว ได้เปิดเผยว่าเมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.00 น.ได้ออกไปเก็บกู้หมึกกระเป๋าที่กลางทะเล ห่างจากชายฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร ก็มาพบเจ้าหมึกสีน้ำเงินตัวนี้ได้เข้ามาอยู่ในขวดแก้ว ที่ตนได้วางลอบหมึก หรือชาวประมงเรียกว่า ลอบหอยกุ๊งกิ๊ง เพื่อให้หมึกสายหรือหมึกกระเป๋าเข้ามาอยู่ ก่อนจะออกไปเก็บกู้เพื่อมาจำหน่ายให้ร้านค้าอาหารทะเล

นายชานนท์ เผยอีกว่าสำหรับ หมึกสายวงน้ำเงินจะมีพิษร้ายแรง ซึ่งลักษณะของหมึกจะไม่แตกต่างกันกับหมึกกระเป๋าที่ขายกันอยู่ตามท้องตลาดสักเท่าไหร่ เพียงแต่ว่า หมึกสายวงน้ำเงินจะมีลักษณะสีน้ำตาลถ้าอยู่ในน้ำและเมื่อนำขึ้นมาบนบกก็จะเริ่มมีจุดสีน้ำเงินเหมือนป้องกันตัว จึงขอฝากเตือนภัยเพื่อนกลุ่มประมงให้ระมัดระวังหมึกวงน้ำเงินในช่วงนี้ และฝากเตือนภัยผู้ชอบบริโภคปลาหมึก หรือแม่ค้าขายอาหารทะเลให้ตรวจสอบให้ดีว่าเป็นหมึกชนิดใดก่อนนำมาขาย ส่วนหมึกสายวงน้ำเงินที่พบจะแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ประมงได้รับทราบในทันที เพื่อหาแนวทางป้องกันและให้ระมัดระวัง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยปรากฏหมึกสายวงน้ำเงินในบริเวณอ่าวระยองมาก่อน

อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2559 โลกออนไลน์แชร์ภาพหมึกสายวงน้ำเงิน วางปะปนอยู่บริเวณโซนอาหารทะเลและของสด ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ทำให้มีการตื่นตัวในเรื่องดังกล่าวอย่างมาก ผศ.ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ให้ข้อมูลว่า หมึกชนิดนี้มีพิษร้ายแรงมาก อย่ากินเด็ดขาด‬ พิษหมึกจะอยู่ในน้ำลายและตามเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ทั่วร่าง เมื่อหมึกกัดพิษจะเข้าบาดแผล รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต พิษพวกนี้เป็น TTX (tetrodotoxin) เหมือนปักเป้า ไม่สลายเมื่อโดนความร้อน

แม้หมึกสายวงน้ำเงินจะพบในไทย แต่ยังมีปริมาณไม่มากนัก โอกาสเสี่ยงมีน้อย ส่วนอาการถ้ากินเข้าไปอาจคล้ายปักเป้า ปากชา หน้าชา หายใจไม่ค่อยออก ทางแก้คือช่วยหายใจฉุกเฉินและส่งแพทย์โดยด่วน และที่สำคัญพิษ TTX ไม่มียาแก้พิษ 

>> แชร์ว่อน! หมึกพิษถึงตาย ปนอยู่แผนกอาหารทะเลห้างดัง

>> ผู้เชี่ยวชาญเตือนระวัง "หมึกบลูริง" กินแล้วตาย ไม่มียาแก้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook