นักธุรกิจหญิงเชื้อสายจีนถูกสอบ ต้องสงสัยเป็นสายลับ-ขายการเข้าถึงทรัมป์

นักธุรกิจหญิงเชื้อสายจีนถูกสอบ ต้องสงสัยเป็นสายลับ-ขายการเข้าถึงทรัมป์

นักธุรกิจหญิงเชื้อสายจีนถูกสอบ ต้องสงสัยเป็นสายลับ-ขายการเข้าถึงทรัมป์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หยาง ลี่ นักธุรกิจหญิงและนักกิจกรรมสังคมเชื้อสายจีน ถูกมองด้วยว่าเป็นสายลับของรัฐบาลปักกิ่ง

เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ นายโรเบิร์ต คราฟท์ เจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอล นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ (New England Patriots) ถูกตำรวจตั้งข้อหาว่าซื้อประเวณีที่ร้านสปา กล้วยไม้แห่งเอเชีย เดย์ สปา (Orchids of Asia Day Spa) ในเมืองจูปีเตอร์ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา

หลังจากนั้นสตรีนักธุรกิจเชื้อสายจีนผู้หนึ่งก็ตกเป็นข่าวว่า เป็นนายหน้าช่วยให้นักธุรกิจของจีนสามารถเข้าถึงประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้โดยง่าย ซึ่งเธอได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่านี้

ก่อนหน้านี้ชื่อของ หยาง ลี่ สตรีนักธุรกิจเชื้อสายจีนผู้นี้ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เพราะเมื่อราว 20 ปีที่แล้ว หยางอพยพออกจากประเทศจีนเข้าไปแสวงหาความฝันแบบอเมริกัน ได้สัญชาติสหรัฐฯ และทำธุรกิจกับร่วมกิจกรรมทางสังคมหลายอย่าง ซึ่งก็รวมถึงการตั้งร้านสปาในเมืองเนเปิล รัฐฟลอริดา ด้วย

แต่เธอยืนยันว่าได้ขายธุรกิจนี้ไปแล้ว 7 ปี ก่อนที่จะมีข่าวเกี่ยวกับการซื้อประเวณีของนายโรเบิร์ต คราฟท์ เจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอลด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เธอกำลังตกเป็นข่าวและเป็นที่สนใจ จากภาพถ่ายเซลฟี่คู่กับประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเธอโพสต์ลงทางโซเชียลมีเดียของตน และเธอยังถูกระบุด้วยว่า เป็นนายหน้าเพื่อขายการเข้าถึงผู้นำสหรัฐฯ สำหรับนักธุรกิจชาวจีนด้วย

ในขณะที่เจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอล นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ ถูกตำรวจฟลอริดาตั้งข้อหาเมื่อต้นเดือนมีนาคมนั้น หยาง ลี่ นักธุรกิจหญิงเชื้อสายจีนคนดังกล่าวเป็นผู้บริหารของบริษัทประชาสัมพันธ์ จีวาย ยูเอส อินเวสต์เมนต์ส (GY US Investments) ที่เปิดโอกาสให้นักธุรกิจจีนสามารถเข้าพบประธานาธิบดีทรัมป์ที่โรงแรมและสนามกอล์ฟซึ่งผู้นำสหรัฐฯ เป็นเจ้าของในรัฐฟลอริดาได้

นอกจากนั้น บริษัทของเธอยังประกาศโฆษณาเรื่องบริการเพื่อช่วยธุรกิจของสหรัฐฯ ขยายภาพลักษณ์ด้านแบรนด์ของตนในตลาดประเทศจีนด้วย

หนังสือพิมพ์ Miami Herald รายงานว่า มีหลักฐานที่แสดงถึงการบริจาคเงินช่วยการหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ผ่านทางครอบครัว ธุรกิจ และผู้ร่วมงานของเธอเป็นจำนวนมาก แต่หยางก็ปฏิเสธเรื่องดังกล่าวทั้งหมด และบอกว่าเธอไม่รู้จักกับประธานาธิบดีทรัมป์เป็นการส่วนตัว แม้จะเคยมีการโพสต์รูปเซลฟี่คู่กับผู้นำสหรัฐฯ ก็ตาม

หยางบอกด้วยว่า ตนรักคนอเมริกัน ชอบประธานาธิบดีทรัมป์ และไม่คิดว่าได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย

ถึงกระนั้น รายงานของสื่อมวลชนสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความเกี่ยวพันของเธอกับรัฐบาลกรุงปักกิ่ง และชี้ว่าเธออาจเป็นสายลับของจีนได้

ขณะนี้ผู้นำพรรคเดโมแครตในสภา ซึ่งรวมถึง ส.ส.แนนซี่ พีโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ขอให้เอฟบีไอเปิดการสอบสวนคดีอาญารวมทั้งสืบสวนในทางต่อต้านจารกรรม เพื่อให้ได้คำตอบว่า หยาง ลี่ นักธุรกิจหญิงชาวจีนผู้นี้เป็นสายลับของจีนจริงหรือไม่

เกี่ยวกับเรื่องนี้ หยางโต้ว่าเธอเป็นสมาชิกของพรรครีพับลิกัน เคยทำงานเพื่อหาเงินบริจาคช่วยผู้สมัครของพรรคคนอื่น เช่น นายเจ๊บ บุช อดีตผู้ว่าการรัฐฟลอริดา รวมทั้งยังมีเชื้อสายจีน และนั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้พรรคเดโมแครตกำลังหาเรื่องตรวจสอบเธอ

ส่วนนายเอแวน เติร์ก ทนายความของหยางชี้ว่า ชื่อเสียงภาพพจน์ของลูกความของตนต้องแปดเปื้อนเสียหายไป โดยเธอเป็นเพียงผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์อีกคนหนึ่งซึ่งถูกสื่อมวลชนในสหรัฐฯ เพ่งเล็ง

นางหยาง ลี่ ยอมรับว่า ตั้งแต่มีข่าวทางลบที่นำเธอเข้าไปพัวพันกับผู้นำสหรัฐฯ เธอกินไม่ได้นอนไม่หลับและน้ำหนักตัวลดลงแล้วถึง 7 กิโลกรัม  แถมยังบอกกับข่าวโทรทัศน์เอ็นบีซีด้วยว่า เธอรู้สึกกลัวเพราะไม่แน่ใจว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook