เปิดปูมพ่อเลี้ยงยิงลูกดับ ชาวบ้านสุดสงสาร เชื่อจำใจต้องทำ-รักษาชีวิตเมีย

ญาติเข้าให้ปากคำคดีสะเทือนใจ พ่อเลี้ยงชักปืนยิงใส่ลูก เชื่อจำใจต้องลั่นไก เพื่อรักษาชีวิตเมีย พบก้าวร้าวกับแม่มาตั้งแต่เด็กๆ เคยทำร้ายร่างกายแม่มาตลอด

จากกรณีเหตุความขัดแย้งภายในครอบครัวที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) กระทั่งกลายเป็นเหตุบานปลาย เมื่อพ่อเลี้ยงจำใจต้องชักอาวุธปืนออกยิงใส่ลูกเสียชีวิต เนื่องจากพยายามข่มขู่และทำร้ายร่างกายภรรยา กลายเป็นเหตุโศกนาฏกรรมสุดสะเทือนใจไปทั้งอำเภอ

ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าชนะ ได้เชิญ นางสาวสุภาพร แม่ของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งมียายของของผู้เสียชีวิต และลูกเขยอีกคน เดินทางมาด้วย เนื่องจาก นางสาวสุภาพร ยังมีอาการบาดเจ็บ จากการที่ถูกผู้เสียชีวิตทำร้ายร่างกาย ก่อนจะเกิดเหตุเศร้าสลดดังกล่าว

จากการสอบถามทราบว่า นายฐาปนพงษ์ อายุ 20 ปี ผู้เสียชีวิตนั้น มีผู้เป็นยายเลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุ 7 เดือน เพราะพ่อกับแม่แยกทางกัน แต่ก็อยู่ใกล้กันไม่ห่างไกลกัน แต่ปัจจุบันก็แยกครอบครัวกันไป ลูกสาวไปอยู่กับสามีใหม่ ส่วนผู้เสียชีวิตก็มีภรรยาและลูก 2 คน แต่ก็แยกกันอยู่บ้านคนละหลัง คนละครอบครัว รวมถึงผู้เป็นยาย แต่ก็อยู่ในบริเวณหมู่บ้านเดียวกัน

ทั้งนี้ นายฐาปนพงษ์ ไม่ได้ทำงานเป็นหลักแหล่ง แต่ก็มียาย แม่ และบรรดาน้าๆ คอยช่วยเหลือมาโดยตลอด ผู้เสียชีวิตให้ความเคารพนับถือคนอื่นๆ เป็นอย่างดี ผิดกับแม่ของตัวเอง ผู้เสียชีวิตมักจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวและทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง แต่เพราะด้วยความรักลูก ผู้เป็นแม่จึงไม่บอกกับใครว่าถูกลูกทำร้าย

กระทั่งช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ นางสาวสุภาพร ได้เล่าเหตุการณ์ให้กับแม่และน้องๆ ฟังว่า ผู้เสียชีวิตเข้ามาจิกศีรษะและทำร้าย ทำให้สามีใหม่ที่อยู่กันมานาน 3 ปี กลับมาจากกรีดยางพาราและกำลังจะพักผ่อน ได้ออกมาห้าม แต่ก็ไม่วายนำมีดพร้าที่ผู้เสียชีวิตนำติดตัวมาง้างจะฟันใส่พ่อเลี้ยง ทำให้จำใจต้องชักปืนออกมายิงใส่จนเสียชีวิต

ขณะที่ นายอภิชาติ อายุ 49 ปี เป็นคู่เขยของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนกับหลานชาย ค่อนข้างเคารพกัน เคยพาไปทำงานด้วย แต่ก็ทำได้ไม่เท่าไหร่ก็ถอดใจ ซึ่งก็เคยได้ยินเรื่องทะเลาะกับแม่ตัวเองหลายครั้ง แต่ก็ไม่รู้รายละเอียดลึกๆ เพราะพี่ของภรรยาตนไม่คอยเล่าให้ฟัง

จนช่วงก่อเกิดเหตุได้ฟังจากปากของนางสาวสุภาพร ที่ถูกกระทำอย่างรุนแรง ทำให้ตนมองว่าหลานมีเจตนาตั้งใจ เพราะพกมีดพร้าไปไหนมาไหนด้วย และทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้ไปหายาย แต่ไม่เจอ อีกทั้งยังมีคนบอกว่าเห็นนั่งลับมีดพร้าอยู่ ซึ่งก็ไม่รู้เอามาจากไหน ก่อนจะพกไปหาแม่ตัวเองและมีปากเสียงกันขึ้น

ขณะนี้ทั้งชาวบ้านใกล้เคียงและตนเองต่างก็รู้สึกเห็นใจผู้ก่อเหตุยิง เพราะต้องมาตัดสินใจลงมือก่อเหตุอีกครั้งเพราะสถานการณ์ที่บีบบังคับ เพราะต้องเลือกระหว่างชีวิตของเมียกับลูกเลี้ยง โดยส่วนตัวมองว่าถ้าผู้ก่อเหตุไม่อยู่ คนที่เสียชีวิตก็อาจจะกลายเป็นนางสาวสุภาพรแทนก็เป็นได้

สำหรับ นายถาวร ผู้ก่อเหตุนั้น หลังจากเกิดเหตุก็ได้หลบหนีไป พร้อมบอกกับเพื่อนบ้านและญาติของภรรยาว่า ขอไปก่อนแล้วจะกลับมามอบตัวเอง ซึ่งจากการคำบอกเล่าของญาติของผู้เสียชีวิตทราบว่า นายถาวรเคยรับโทษในคดีฆาตกรรม มาประมาณปีกว่าๆ ก่อนจะพ้นโทษออกมาคบหาอยู่กับนางสาวสุภาพร ได้ประมาณ 3 ปี และเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น