แม่น้ำตานองหน้า รู้ข่าวลูกสาวประเภทสองวัย 19 ปาดคอชิงทรัพย์แม่ค้ากลางตลาด

แม่สาวประเภทสองมือมีดปาดคอแม่ค้าขายขนมกลางตลาดช๊อกไม่คิดลูกจะกล้าทำ วอนมอบตัวตำรวจ ขณะที่แม่ค้าเหยื่อยังคงหวาดผวา ด้าน จนท.ตำรวจเตรียมขออนุมัติหมายจับแล้ว

หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเกิดเหตุคนร้ายพยายามชิงทรัพย์ นางสุมาลี อายุ 51 ปี เจ้าของร้านขายของในตลาดแสวงหา ตำบลแสวงหา อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง และเกิดการต่อสู้กันโดยคนร้ายพยายามใช้มีดปอกผลไม้ปาดคอนางสุมาลี จนได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะวิ่งหลบหนีออกไปเนื่องจากมีเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างเคียงวิ่งเข้ามาดูหลังจากได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ก่อนที่จะนำนางสุมาลีที่ได้รับบาดเจ็บที่ลำคอและท้ายทอยส่งโรงพยาบาลแสวงหา เบื้องต้นต้องเย็บแผลที่คอ 5 เข็มและมีแผลที่ท้ายทอย โดยคนร้ายทิ้งกระเป๋าเงิน มีดปอกผลไม้ โทรศัพท์และกุญแจรถไว้

โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายคนดังกล่าวคือนาย นายปกรณ์ อายุ 19 ปี สาวประเภทสอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปยังบ้านแต่ไม่พบ พบเพียงรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 1 กฆ 1394 สิงห์บุรี ถูกจอดทิ้งไว้ใกล้เมรุวัดแสวงหาซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดมาไว้เป็นหลักฐาน

ขณะที่นางสุมาลี ซึ่งยังอยู่ในอาการหวาดผวาเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาขณะที่ตนเองเปิดร้านขายของชำตามปกติมีคนร้ายเป็นลักษณะสาวประเภทสอง 1 คน ได้เข้ามาในร้านทำทีจะซื้อของ ขณะที่ผู้ตนเผลอคนร้ายได้ถือโอกาสใช้มีดปลอกผลไม้ที่เตรียมมาล็อกตัวเอามีดจี้ที่คอพร้อมทั้งขู่ให้เอาเงินที่อยู่ในกนระเป๋ามา แต่ตนเองต่อสู้ขัดขืน และส่งเสียงร้องให้คนช่วยจนคนร้ายวิ่งหลบหนีไป ไม่ได้ทรัพย์สิน

ขณะที่นายนภดล อายุ 34 ปีซึ่งอยู่ในเหตุการณ์บอกว่าขณะที่ตนเดินเข้ามาในตลาดเพื่อซื้อของได้ยินเสียงร้องให้ช่วยและเห็นคนร้ายวิ่งออกมาจากร้านจึงวิ่งไล่ตามไปทางด้านหน้าถนนใหญ่กับแม่ค้าที่อยู่ใกล้ๆ อีกหลายแคนแต่ไม่ทัน เบื้องต้นเห็นลักษณะคล้ายกระเทยโดยมีแม่ค้าบางคนจำได้ว่าคล้ายกับนายปกรณ์ ซึ่งเคยเดินทางมาซื้อของบริเวณนี้บ่อยๆ แต่ไม่มั่นใจ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำรูปไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นนายปกรณ์จริงๆ

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนายปกรณ์ เปิดเป็นร้านค้าเล็กๆ ในหมู่บ้านพบ นางทิพวัลย์ อายุ 46 ปี แม่ของนายปกรณ์ โดยนางทิพวัลย์บอกว่ารู้สึกเสียใจและไม่คิดว่านายปกรณ์จะก่อเหตุเช่นนี้ ก่อนหน้านี้นายปกรณ์อยู่ที่กรุงเทพเพิ่งจะกลับมาที่บ้านไม่นาน โดยมาบอกตนว่าสมัครทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง และบอกให้ตนออกรถจักรยานยนต์เพื่อขี่ไปทำงานด้วยความสงสารลูกจึงไปออกให้และให้เงินไปทำงานวันละ 100 บาท แต่หลังจากทำงานไม่นานหลานของตนบอกมาเล่าให้ฟังว่านายปกรณ์ไม่ได้ไปทำงานแต่หลอกแม่ว่าไปทำงาน เมื่อตนจับได้นายปกรณ์ก็หลบหนีออกจากบ้านไปและไม่กลับมาอีกเลย เพิ่งรู้ว่าเมื่อเช้าไปก่อเหตุที่ตลาดแสวงหา ส่วนตนอยากขอให้ลูกเข้ามอบตัวเพื่อรับผลของการกระทำ แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสวงหา เตรียมขออนุมัติหมายจับ นายปกรณ์ อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายในคดีดังกล่าวโดยคาดว่านายปกรณ์คงจะหนีไปหลบซ่อนยังบ้านเพื่อนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังส่งชุดสืบสวนออกตามล่าตัวเพื่อมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป