ผอ. บังคับครูเป็นทอม กิ๊กกันนาน 10 ปี สุดท้ายถูกบีบให้ออก (คลิป)

ครูสาวน้ำตานอง แฉ "ผอ." บังคับเป็นทอม กิ๊กกันนาน 10 ปี สุดท้ายถูกบีบให้ออก

ครูสาวน้ำตานอง แฉ "ผอ." บังคับเป็นทอม กิ๊กกันนาน 10 ปี สุดท้ายถูกบีบให้ออก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ครู รร.แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติ แค้นถูก ผอ.โรงเรียนคู่กิ๊ก ที่คบกันมานาน 10 ปี เกิดไปปันใจให้ครูคนใหม่ ถูกกลั่นแกล้งเพื่อหาเรื่องเลิก โร่ร้องศูนย์ดำรงธรรมเอาผิดวินัยข้าราชการเล่นชู้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (22 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ว่าที่ ร.ต.หญิง ฌณกฐ์ปภัสสญ์ อายุ 44 ปี ครูอัตราจ้างและเจ้าหน้าที่ธุรการของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในสังกัดของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ชุมพร เขต 2 และเป็นนักกีฬายิงปืน แบบรณยุทธ ทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน เข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตนเอง และต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับข้าราชการไทยโดยเฉพาะข้าราชการครู

ว่าที่ ร.ต.หญิง ฌณกฐ์ปภัสสญ์ ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนเองเป็นครูอัตราจ้างแต่ได้รับมอบหมายมาทำหน้าที่ด้านธุรการให้กับโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งได้ทำหน้าที่นี้มานานกว่า 10 ปี และตลอดระยะ 10 กว่าปี ตนเองได้แยกกันอยู่กับสามีซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจ ด้วยเหตุสามีแอบไปมีภรรยาน้อย แต่ไม่ได้หย่าร้างต่อกัน

โดยตนเองเป็นผู้รับเลี้ยงลูกเองทั้งสองคน ส่วนสามีก็ไปมีลูกกับภรรยาคนใหม่ 3 คน จนกระทั่งวันหนึ่งตนเองได้ชอบพอกับ นายชัย (นามสมมุติ) ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งตัว ผอ.เองก็ได้แยกกันอยู่กับภรรยาเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้หย่ากันเหมือนตนเอง

ว่าที่ ร.ต.หญิง ฌณกฐ์ปภัสสญ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 9 ปี ที่อยู่กับ ผอ.ชัย แบบไม่เชิงลับมากนัก มีครูในโรงเรียนรู้แทบทุกคนว่าเราทั้งสองเป็นคบกัน แทบจะกินอยู่ด้วยกัน นอกจากคนภายนอกบางคนเท่านั้น

จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผอ.ชัย ได้ขอร้องให้ตนเองตัดผมให้สั้นเหมือนผู้ชาย โดยทาง ผอ.ชัย ให้เหตุผลว่าเพื่อจะได้ไปไหนมาไหนได้สบายใจยิ่งขึ้น เพราะต้องเดินทางไปด้วยกันบ่อย ด้วยซื่อสัตย์ในความรักจึงยอมตัดผมเหมือนผู้ชายและซื้อที่รัดหน้าอก เพื่อให้ดูเหมือนทอมที่สุด ซึ่งทาง ผอ.ชัย ก็พาตนไปเกือบทุกที่เช่นกัน ทำให้ตนเองรู้สึกรัก ผอ.ชัย มากยิ่งขึ้น

ว่าที่ ร.ต.หญิง ฌณกฐ์ปภัสสญ์ กล่าวอีกว่า เงินที่ได้จากเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาปีนับล้านบาท และเงินเดือนซึ่งไม่มากนัก ก็จะเอามาปรนเปรอซื้อทุกอย่างที่ ผอ.ชัย อยากได้ แม้กระทั่งปืน ก็ซื้อให้เพราะ ผอ.ชัย อยากจะยิงปืนเป็น มือถือรุ่นใหม่ราคาแพงเพื่อจะได้สมฐานะความเป็น ผอ.โรงเรียน ที่ภูมิฐาน

แต่แทบไม่น่าเชื่อว่าวันเวลาที่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ต้องมีทลายสลายลง เมื่อตนมารู้ว่าทาง ผอ.ชัย ได้แอบไปคบกับครูอีกโรงเรียนแห่งหนึ่ง จากโทรศัพท์มือถือของ ผอ.ชัย ที่สามารถดูข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือตนเอง มีภาพบาดตา ทำร้ายจิตใจ

ตนรับไม่ได้ จึงจับมือถาม ครั้งแรกปากแข็งแต่จนด้วยหลักฐานก็เลยพาลทะเลาะ แต่ด้วยความรักและคบกันมาหลายปี จึงต้องทนและยอมทุกอย่าง แต่แทนที่จะสำนึกกลับหนักขึ้นกว่าเดิม ยิ่งกว่านั้นยังเอาครูสาวมาเย้ยตนอีกด้วย

ว่าที่ ร.ต.หญิง ฌณกฐ์ปภัสสญ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นทาง ผอ.ชัย ก็เริ่มหาเรื่องตนเองหนักขึ้น เหมือนจะทำให้ตนเองอยู่ไม่ได้ ให้ย้ายออกไปจากโรงเรียนแห่งนี้ แม้กระทั่งไปแจ้งความว่าตนพกอาวุธปืน ขว้างโทรศัพท์ที่ตนซื้อให้ต่อหน้าเพื่อนครูด้วยกัน ต่อว่าประจานต่างๆ นานา

และล่าสุดไปฟ้องทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ชุมพร เขต 2 ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลโรงเรียนที่ตนอยู่เพื่อบีบตนเอง และทาง ผอ.เขต ก็เห็นดีเห็นงามไปด้วยแทนที่จะซักถามหรือสอบสวน กลับเรียกตนเองและ ผอ.ชัย มาทำหนังสือขึ้นมา 1 ฉบับ ลงวันที่ 23 เมษายน 62 ที่ผ่านมา โดยระบุเชิงบังคับให้ตนไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของ ผอ.ชัย อีกต่อไป

และห้ามนำข้อมูลต่างๆ ที่ไม่ดี เข้าเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตหรือโซเชียล หรือระบบอื่น รวมทั้งห้ามพูดให้บุคคลอื่นได้ฟัง ลงชื่อร่วมกันทั้งสองคน โดยมีรอง ผอ.เขต เพื่อนสนิทของ ผอ.ชัย เป็นคนทำบันทึกดังกล่าว ซึ่งตนก็ต้องยอมเซ็น ทั้งที่ไม่เต็มใจเพราะ รอง ผอ.เขต คือคนที่เซ็นสัญญาจ้างตนทำงานต่ออีก 2 วันข้างหน้า

ว่าที่ ร.ต.หญิง ฌณกฐ์ปภัสสญ์ น้ำตาไหลพรูอีกครั้งพร้อม กล่าวว่า หลังจากที่ทำหนังสือบันทึก ผอ.ชัย ก็พยายามกลั่นแกล้งตนเองอีก ไม่ยอมเลิกรา ทั้งที่ตนกำลังอยู่ในห้วงเวลาที่พยายามหักใจแล้ว จนในใจอยากจะคว้าปืนยิงทิ้งแล้วฆ่าตัวตายไปซะเลย แต่ด้วยเพราะคิดถึงลูกและลูกก็ได้ปลอบตน

ตนจึงตัดสินใจมาร้องศูนย์ดำรงธรรมเพื่อขอความเป็นธรรม และเรียกศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกผู้ชายคนที่รักมากเป็นถึงข้าราชการระดับผู้บริหาร ย่ำยีจิตใจ และไม่เป็นแบบอย่างที่ดี ประพฤติตนผิดวินัยคบชู้ ซึ่งชู้หนึ่งในนั้นก็คือตน

และรอง ผอ.เขต ที่ปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีพฤติกรรมผิดวินัย โดยตนก็พร้อมจะให้ความร่วมมือในการสอบสวน แม้ใครจะประณามตนก็ตาม ตนก็พร้อมเป็นจำเลยของสังคมแต่ขอทำให้เป็นตัวอย่างแก่ วงราชการโดยเฉพาะข้าราชการครูที่โสมมอย่างมาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook