โพลเผยหัวอกผู้บริโภคถูกคุกคามผ่านมือถือ ปชช.สุดรำคาญชักชวนดูหมอ
เมื่อสอบถามถึงประสบการณ์ในการได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์ หรือการส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานั้น พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 69.9 ระบุเคยมีคนโทรมาหรือส่งข้อความผ่านมือถือ ให้โหลดเพลง รูปภาพต่างๆ ร้อยละ 47.1 ระบุมีคนโทรมาหรือส่งข้อความผ่านมือถือ เชิญชวนให้เล่นเกมลุ้นรางวัล ร้อยละ4.2 ระบุมีคนโทรมาหรือส่งข้อความผ่านมือถือ ชวนให้ดูหมอดูร้อยละ 33.3 ระบุมีคนโทรมาหรือส่งข้อความผ่านมือถือ ชวนให้ทำประกันชีวิตนอกจากนี้ยังพบว่า ตัวอย่างเคยได้รับประการติดต่อผ่านโทรศัพท์มือถือชวนให้ซื้อสินค้า ชวนให้ทำบัตรเครดิต และเชิญชวนให้ลงทุน
เมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างที่เคยตัดสินใจทำตามคำชักชวนดังกล่าว ถึงปัญหาที่เคยได้รับจากการซื้อสินค้าหรือบริการทางโทรศัพท์นั้น พบว่า ร้อยละ 21.1 ระบุมีเงื่อนไขหรือข้อกำหนดอื่นๆ ที่บอกเราไม่หมด รองลงมาคือร้อยละ 21.0 ระบุได้รับสินค้าหรือบริการล่าช้า ร้อยละ 18.7 ระบุต้องจ่ายเงินค่าอื่นๆ ตามมาเพิ่มอีก ร้อยละ 12.8 ระบุสินค้าหรือบริการไม่มีคุณภาพและไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่เคยแจ้งไว้ ในขณะที่ร้อยละ 7.2 ระบุถูกหลอกให้โอนเงิน แต่ไม่ส่งสินค้าหรือบริการให้ อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 60.1 ระบุว่าไม่มีปัญหาใดๆ
สำหรับเรื่องที่ทำให้รู้สึกเดือดร้อนรำคาญเมื่อถูกชักชวนผ่านทางโทรศัพท์นั้น พบว่าร้อยละ 53.4 ระบุเรื่องหมอดู ร้อยละ 53.1 เรื่องการทำประกันชีวิต ร้อยละ 52.4 การทำบัตรเครดิต ร้อยละ 51.3 การชวนให้เล่นเกมลุ้นรางวัล ร้อยละ 50.2 ให้โหลดเพลง รูปภาพต่างๆ ร้อยละ 49.8 ชวนให้ซื้อสินค้า ร้อยละ 48.7 เชิญชวนให้ลงทุนตามลำดับ
เมื่อสอบถามการรับรู้รับทราบสถานที่ร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการขายสิน/บริการผ่านโทรศัพท์นั้น พบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่คือร้อยละ 83.9 ระบุไม่ทราบว่าควรร้องเรียนที่ใด ทั้งนี้มีเพียงร้อยละ 16.1 เท่านั้นที่ระบุรับรู้รับทราบ และเมื่อสอบถามต่อไปถึงความเข้มงวดในการออกกฎระเบียบในการเสนอขายสินค้าหรือบริการทางโทรศัพท์นั้น ผลการสำรวจพบว่า ตัวอย่างมากกว่าสองในสามคือร้อยละ 71.6 ระบุจำเป็นต้องเข้มงวด ในขณะที่ร้อยละ 28.4 ระบุไม่จำเป็น สำหรับความคิดเห็นต่อหน่วยงานต่างๆ ของรัฐในการให้ความคุ้มครองดูแลผู้บริโภคเพื่อไม่ให้ถูกรบกวนจากการเสนอขายสินค้าและบริการนั้น พบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่คือร้อยละ 76.0 ระบุว่าจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครอง ในขณะที่ร้อยละ 24.0 ระบุไม่จำเป็น
ผอ.ศูนย์วิจัยเอแบคฯ ชี้ให้เห็นว่าประชาชนโดยส่วนใหญ่เคยถูกติดต่อหรือได้รับข้อความจากฝ่ายการตลาดในธุรกิจประเภทต่างๆ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ มีผู้บริโภคจำนวนมากประสบปัญหาหลังจากตัดสินใจทำตามการชักชวนของกลุ่มธุรกิจเหล่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่รู้ช่องทางที่จะร้องเรียนปัญหาที่ได้รับจากการชักชวนและตัดสินใจซื้อสินค้าบริการเหล่านั้น ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนน่าจะเข้ามาช่วยคุ้มครองดูแลปัญหาของผู้บริโภคอย่างเร่งด่วน