ตัดคอเสียบหัวเผาร่างที่ธารโตระบุแก้แค้น

ตัดคอเสียบหัวเผาร่างที่ธารโตระบุแก้แค้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พบศพคนงานกรีดยางพารา วัย 53 ศรีษะถูกตัดเสียบข้างขนำสวนยางเมืองธารโต ร่างถูกเผา มีจดหมายระบุเป็นการตอบโต้จากเหตุยิง 10 ศพในมัสยิด ปลัดกห.เชื่อสถานการณ์ใต้แนวโน้มดี ชวนแนะ5ส.ส.ชายแดนใต้ลงพื้นที่คลุกชาวบ้าน เมื่อเวลา 10 .00 น. วันที่ 15 มิ.ย. ศูนย์วิทยุ สภ.ธารโต จ.ยะลา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุคนร้ายฆ่า ตัดคอ ชาวบ้านเสียชีวิต บนขนำภายในสวนทุเรียน ที่บ้านหลังเกษตร ม.7 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา จึงได้แจ้ง พ.ต.ท.ประเดิมชัย ไพรสนธ์ พนักงานสอบสวน (สบ.3) สภ.ธารโต พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการ เขต 45 จ.ยะลา รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบนขนำ เจ้าหน้าที่พบศพชายไทยนอนเสียชีวิต ในสภาพที่ไม่มีศีรษะ ถูกเผา ไหม้เกรียมที่บริเวณลำตัว นอกจากนั้นยังพบว่าศพยังถูกแทงด้วยของมีคมจำนวนหลายแผล ห่างจากขนำไปทางด้านหน้า เจ้าหน้าที่พบศีรษะ ที่คนร้ายนำมาเสียบไว้ที่ปลายด้ามของเสียม ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียงเล็กน้อย ทราบชื่อคือ นายกิมเซี้ยง แซ่ตั้ง อายุ 53 ปี เดิมอยู่บ้านเลขที่ 3/2 ม.3 ต.เสนางคนิคม อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ มีอาชีพทำสวนและรับจ้างกรีดยาง ปัจจุบันพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 1 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบใบปลิวที่คนร้ายทิ้งไว้ เขียนไว้บนกระดาษ ขนาด A 4 หมึกสีน้ำเงิน มีข้อความเป็นภาษาไทย ว่า แค้นนี้ ขออุทิศให้ผู้บริสุทธิ์ ที่เจ้าหน้าที่ฆ่าในมัสยิด นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบมีดพร้า ที่มีคราบเลือดจำนวน 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายกิมเซี้ยง นอนค้างคืนในขนำที่เกิดเหตุเป็นประจำ และหายไป 2-3 วัน จนกระทั่งมีชาวบ้านพบศพดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายได้ใช้ของมีคมแทง และลากศพลงมาไว้พบขนำจากนั้นได้ ตัดคอ นำไปเสียบไว้ ก่อนที่จะจุดไฟเผาศพด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ นักวิชาการไฟใต้หวั่นโจรป่วนช็อกความรู้สึกสังคมต่อเนื่อง ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ เปิดเผยว่า สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่มีแนวโน้มผลักดันให้สถานการณ์มีความรุนแรงขึ้น โดยในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม จนกระทั่งถึงกลางเดือนมิถุนายนมีเหตุการณ์รุนแรงต่อเนื่องมาตลอด และในช่วงความถี่จากเหตุการณ์ความไม่สงบนั้นล้วนเป็นเหตุการณ์ที่ช็อคความรู้สึกประชาชนเพื่อเร่งระดับอุณหภูมิความรู้สึกในพื้นที่ให้พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆล่าสุด วันนี้เจ้าหน้าที่พบศพชาวสวนยาวอ.ธารโต จ.ยะลา ถูกคนร้ายฆ่า ตัดคอ ก่อนจุดไฟเผาร่างซ้ำเสียชีวิตอภายในสวนยาง เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านและสร้างกระแสความรุนแรงได้อีกเหตุการณ์หนึ่งในช่วง 2-3 สัปดาห์ต่อเนื่องกัน สิ่งที่ต้องระวังไม่ให้เกิดขึ้นได้อีกนั่นคือการพยายามสร้างเหตุรุนแรงชนิดที่สังคมและเจ้าหน้าที่รัฐคาดไม่ถึง เพื่อสร้างแรงสั่นสะเทือนทางความรู้สึกทั้งในพื้นที่ และในสายตาภายนอกระดับสากลผศ.ดร.ศรีสมภพ กล่าว ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มของเหตุรุนแรงจะพบว่ามีการสร้างเงื่อนไขทางความรู้สึกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอกย้ำและสร้างกระแสความสนใจจากสื่อ และสังคมในระดับสากล ดังนั้นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ก่อการในระยะนี้จึงแฝงไปด้วยนัยยะสำคัญนอกเหนือไปจากการก่อความรุนแรงทั่วไปเพียงเพื่อหวังป่วนพื้นที่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ปลัดกห.เชื่อสถานการณ์ใต้แนวโน้มดี พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ว่า ทุกคนคงเป็นปัญหาภาคใต้ ซึ่งเหตุการณ์ปัจจุบันยอมรับว่ามีแนวโน้มและสถิติการปฏิบัติที่สูงขึ้น แต่แนวโน้มเชื่อว่าจะทำให้เราสามารถกำหนดทิศทางการดูแลแก้ปัญหาได้รอบคอบยิ่งขึ้น และจะมีความชัดเจนในการดำเนินการ ทั้งนี้คิดว่าแนวทางการแก้ปัญหาที่ใช้การเมืองนำการทหาร น่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อแนวทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืนตลอดไป กมธ.ใต้ประชุมกองกำลัง3ฝ่ายหาทางดับไฟ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 มิ.ย.52 นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย พ.ท. กมล ประจวบเหมาะ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญเร่งรัดประเมินผลการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะกรรมาธิการฯ ได้ร่วมประชุมหารือเพื่อรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ โดยมีกองกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย รวมถึงเจ้าหน้าที่จากนิติวิทยาศาสตร์ เข้าร่วมประชุม ในที่ประชุมมีการบรรยายถึงสถานการณ์ความไม่สงบกรณีคนร้ายกราดยิงชาวมุสลิมที่ประกอบศาสนกิจประกอบพิธีละหมาดในมัสยิดอัลฟรุกอน บ้านไอปาแย อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ให้ที่ประชุมได้รับทราบ พร้อมทั้งรายงานความคืบหน้า จากการสอบสวนสืบสวนจากหลักฐานที่พบ และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ให้ที่ประชุมได้รับทราบด้วย ชวนแนะ5ส.ส.ชายแดนใต้ลงพื้นที่คลุกชาวบ้าน เมื่อเวลา 13.30 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้เชิญส.ส. 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หารือถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นรายวันอย่างต่อเนื่อง โดยมีนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และนพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมหารือด้วย จากนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า นายชวนได้กำชับให้ส.ส.ทุกคนลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้ทั้งชาวไทยพุทธและไทยมุสลิม เกิดความหวาดวิตกเป็นอย่างมาก และปัญหาที่เกิดขึ้นหลายอย่างเกิดจากเงื่อนไขในอดีต สามารถแก้ไขได้แต่ต้องใช้เวลา ซึ่งที่ประชุมมั่นใจนโยบายของรัฐบาล ในการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ และสร้างความยุติธรรมโดยดำเนินการอย่างเด็ดขาด กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบ ในว่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นใครอยู่ในขบวนการหรือไม่อย่างใด จะต้องเสนอผลความคืบหน้า ในการติดตามตามกระบวนการยุติธรรมให้ประชาชนได้รับทราบ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปว่าโครงสร้างของฝ่ายปกครองในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับให้สอดรับกับสภาพการปัญหา และโครงสร้างที่ได้มีการแถลงไว้ในนโยบาย ของรัฐบาลที่จะให้มีองค์กรถาวรเข้ามาดูแลปัญหาในสามจังหวัดชายแดนใต้ ก็เป็นเรื่องที่ต้องผลักดัน ทั้งนี้นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทยได้พูดคุยถึงแนวทางการทำงานของรัฐบาล ประสานงานกับข้อมูลที่ได้รับจากประชาชนผ่านส.ส.ในพื้นที่ ซึ่งจะมีการทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อสนับสนุน ส.ส.จังหวัดชายแดนใต้ต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่า กฎหมาย สำนักงานบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(สบชต.)จะสามารถเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯในการประชุมสมัยหน้าได้หรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ที่ประชุมให้ความสำคัญในการติดตามสอบถามว่ามีควมคืบหน้าถึงไหนแล้ว ซึ่งทราบว่ามีทั้งร่างของรัฐบาลและ ร่างของ ส.ส.มากกว่า 1 พรรค และเราหวังว่าในการประชุมสภาฯสมัยหน้าจะมีการพิจารณาได้ ทั้งนี้ในการพูดคุยนั้น เราเห็นว่าโครงสร้างฝ่ายปกครองทั้งหมด จะต้องมีบทบาทที่สำคัญในการแก้ไขปํญหา เพราะจะต้องอาศัยการทำความเข้าใจกับทุกคนด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ประชุมได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ว่าการปรับโครงสร้างช้า เพราะฝ่ายกองทัพไม่เห็นด้วยกับการโครงสร้างครั้งนี้ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่มี ที่พูดชัดในขณะนี้คือ สถานการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้น ขณะเดียวกันการต้องทำงานใกล้ชิดกันในพื้นที่ก็มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นในขณะนี้สิ่งที่พูดคือการแก้ไขปัญหา เรื่องความไม่สงบเฉพาะหน้าที่ ที่จำเป็นที่สุดคือต้องสื่อถึงหลักความยึดมั่น ยุติธรรม และดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับผู้มีส่วนรับผิดชอบ กับเหตุการณ์ความไม่สงบ ซึ่งถือเป็นยุทธวิธี แต่ในกรอบใหญ่ก็เป็นไปตามที่สรุปมาข้างต้น ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับโครงสร้างทางฝ่ายปกครอง คิดว่าจะเกิดขึ้นในระยะเวลาเท่าใด เพื่อที่จะเอื้อต่อการแก้ไขปัญหา นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ความจริงแล้วจะรอให้กระบวนการที่พูดถึงโครงสร้างที่ใช้กฎหมายบรรลุก่อน จึงจะดำเนินการแก้ไขปัญหา ก็ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นในขณะนี้ถ้าพูดถึงภายใต้โครงสร้างปัจจุบัน ซึ่งฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคงทำงานใกล้ชิดกับรัฐบาลอยู่แล้ว จำเป็นที่จะต้องใช้โครงสร้างปัจจุบันแก้ไขต่อสถานการณ์เฉพาะหน้าให้ได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากรอกฎหมาย สบชต.ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยเสนอแล้ว คิดว่าจะต้องมีการปรับกฎหมายส่วนอื่น เพื่อให้สอดรับกับการปรับโครงสร้างของฝ่ายปกครองด้วยหรือไม่ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องโครงสร้างไม่สำคัญเท่ากับ เรื่องของประชาชนที่มีความหวาดวิตก ว่าขณะนี้ มีขบวนการที่ประสงค์จะเห็นความขัดแย้งระหว่างชาวไทยกับชาวมุสลิม และประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องการให้เกิดสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลาย เกิดปฏิกริยาโต้ตอบในวงกว้าง เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเพื่อให้กระบวนการที่จะบิดเบือนใส่ร้าย ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นระลอกสอง ดังนั้นจุดเริ่มต้นคือรัฐบาล จะต้องแสดงให้ชัดเจนว่าจะไม่ทำอะไรที่ทวีความรุนแรง ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือดำเนินการเด็ดขาดตรงไปตรงมา กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในทุกกรณี ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพูดถึงกรณีที่ส.ส.จังหวัดชายแดนภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ มีความเป็นห่วงว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาภาคใต้ไม่ตรงจุดหรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ส.ส.ทุกคนยืนยันได้ว่าวัตถุประสงค์ในการพูดคุยวันนี้ เป็นเรื่องของความห่วงใยที่ประสบจากเหตุการณ์และได้ทำงานใกล้ชิดกับส่วนรวม ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสะท้อนสภาพปัญหา และวิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ร่วมกันกับระบบข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจของรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง ซึ่งนายชวนได้บอกกับที่ประชุมว่า ในช่วงนี้คนที่เป็น ส.ส.ตะหนักถึงความหวั่นไหวของประชาชนทุกพื้นที่ และต้องทำงานใกล้ชิดเพื่อสะท้อนข้อมูลความจริงให้รัฐบาลทราบ และในที่ประชุมวันนี้ทุกคนมีควมมั่นใจว่าแนวทางของรัฐบาลปัจจุบันสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ แต่ต้องใช้เวลา และอาศัยความร่วมมือด้วย ซึ่งเรามั่นใจว่าแนวทางที่เดินอยู่ขณะนี้ดีเพียงพอ โดยเฉพาะการรับรู้ควมเข้าใจของประชาชนในพื้นที่ เป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปทั้งหมด เราจึงมั่นใจกับแนวทางที่นายกฯวางไว้ ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ทำงานยากลำบากขึ้นหรือไม่ ในการไปทำควมเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่หลักจากเกิดหลายเหตุการณ์ในช่วงเวลานี้ โดย นายอันวา สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัญหาทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานในพื้นที่ค่อนข้างยากกว่าเดิม โดยเฉพาะอาจจะเกิดความรู้สึกหวาดระแวง และอาจจะมีส่วนหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ มีคนที่คิดอยากจะให้เกิดความแตกแยกในพื้นที่ตรงนั้น โดยอาศัยเรื่องความแตกต่างทางศาสนา หรือพยายามที่จะพัฒนาให้เป็นปัญหาเรื่องของศาสนา ซึ่งปัญหาเหล่านี้รัฐบาลเอง ก็ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่ตรงนั้น และตนก็คิดว่าสื่อมวลชนไม่ควรที่จะไปตั้งเป้า ว่าเหตุการณ์เกิดจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ถ้าข้อมูลในการสันนิฐานของสื่อโดยปราศจากข้อมูลที่แท้จริง จะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากขึ้นและทำให้ความรู้สึกในการทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่สะดวก โดยเป็นอุปสรรคยากขึ้น ต่อการทำงาน ความจริงแล้วพื้นที่แต่เดิมมีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาก่อน ระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิม เพราะเป็นชุมชนที่ทั้งสองฝ่ายอาศัยอยู่รวมกัน ครั้งหนึ่งในอดีตที่ผ่านมามีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น ชาวไทยพุทธอยากขายที่ดินแต่คนที่ยับยั้งไม่อยากให้ขาย คือ ชาวไทยมุสลิมที่บอกว่าอย่าไปขายเลย พวกเขาจะช่วยดูแลให้ แต่ในภาวะปัจจุบันเนื่องจากในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต้องย้อนไปว่าการแก้ไขปัญหาจากอดีต โดยเฉพาะรัฐบาลชุดก่อนๆทำให้เกิดการเสียชีวิตและเป็นคสามรู้สึกที่ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน จึงต้องใช่เวลาแก้ไขปัญหา โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะส.ส.ในพื้นที่กังวลหรือไม่ถ้ารัฐบาลประชาธิปัตย์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จะกระทบต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าที่อาจไม่ได้กลับสภาอีกหรือไม่ นายอันวา กล่าวว่า รัฐบาลได้ทุ่มเทและให้ความสำคัญกับปัญหานี้ในอันดับต้นๆ ซึ่งเป็นความพยายามของรัฐบาลแต่ยังมีชาวบ้านบางกลุ่มที่ยังรู้สึกอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งต้องทำความเข้าใจโดยใช้เวลา ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้วิเคราะห์กันหรือไม่ ว่าปัญหาเกิดจากอะไร เพราะบอกว่ารัฐบาลเดินมาถูกทางแต่เหตุการณ์กลับไม่คลี่คลายและรุนแรงขึ้นเลย นายอันวา กล่าวว่า เท่าที่ตนได้รับรู้ความรู้สึกของชาวบ้าน จึงทราบว่ากรณีที่มีคำพิพากษาของกรณีตากใบ ต้องยอมรับว่าชาวบ้านมีความคาดหวังกับพรคประชาธิปัตย์ และส่วนใหญ่ให้ความไว้วางใจ ซึ่งความคาดหวังนั้นแน่นอนเมื่อพรรคประชาธิปัตย์เข้ามา ย่อมต้องการให้แก้ไขโดยเร็วที่สุดในระยะเวลาอันใกล้ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด เพราะมีหลายองค์ประกอบที่ทำให้สถานการณ์ เป็นเช่นนั้น และโยงใยหลายปัจจัย จึงไม่อาจจะสรุปได้ว่า ประเด็นใดประเด็นหนึ่งจะทำให้เกิดเหตุการณ์บานปลายในระยะอันใกล้ ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนเริ่มผิดหวังการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลในเรื่องนี้แล้ว นายอันวา กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นความรู้สึกผิดหวัง ตนคิดว่า จากการลงพิ้นที่ของ นายชวน นายสุเทพ เทือกสุบรรณรอง นายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย รวมถึง ส.ส.ของพรรค และโครงการของรัฐบาลที่มีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสามารถตอบโจทย์ในความรู้สึกของประชาชนได้ แต่ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่นั้น ขณะนี้การก่อเหตุค่อนข้างรุนแรง จึงย่อมกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน ดังนั้นนโยบายระยะสั้นและระยะยาวจึงมีความสำคัญแต่ชาวบ้านพื้นที่ต้องมีความหนักแน่นด้วยไม่เช่นนั้น ก็จะตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์รายวันได้ ยืนยันว่าต่อไปส.ส.ในพื้นที่จะรวมกลุ่มหารือวิเคราะห์สถานการณ์ทุกสัปดาห์

ที่ประชุมเห็นว่าขณะนี้มีขบวนการที่ต้องการให้เห็นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนำไปสู่ความบาดหมางครั้งใหญ่ ทั้งการแจกใบปลิวและกล่าวหาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ซึ่งนายถาวรให้คำยืนยันว่า ทั้งหมดจะต้องเป็นไปตามข้อมูลที่แท้จริง ตามกระบวนการยุติธรรมโดยเคร่งครัด จนกระทั่งหลักฐานเหล่านั้นพอเพียงที่จะมีการดำเนินการต่อตามกระบวนการยุติธรรมโดยจะไม่มีการด่วนสรุปล่วงหน้า ทั้งนี้มีการพูดถึงว่าจะใช้กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ เข้ามาพิสูจน์สาเหตุอีกด้วย นายอันวา กล่าว ส่วนนายอับดุลการิม เต็งระกีนา ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต่อไปนี้ส.ส.จะตั้งคณะทำงานเฉพาะพื้นที่ขึ้นมา โดยจะร่วมมือกันวิเคราะห์สถานการณ์กันทุกสัปดาห์ ขณะที่นายนาราชา สุวิทย์ ส.ส.สงขลา กล่าวว่า ในพื้นที่ของตนครอบคลุมถึงอ.จะนะ อ.เทพา อ.สะบ้าย้อย และอ.นาทวี ซึ่งเป็น 4 อำเภออยู่ในพื้นที่สีชมพู รอยต่อพื้นที่สีแดงของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่มีความเป็นห่วง เกรงว่าสถานการณ์ความไม่สงบจะขยายลุกลามเข้าสู่ จ.สงขลา ภายหลังเหตุการณ์การยิงพี่น้องมุสลิมในมัสยิด ในจ.นราธิวาส เพราะขณะนี้เริ่มมีการปล่อยข่าวว่าเป็นฝีมือคนในหน่วยงานของรัฐ โดยหวังจะทีวความขัดแย้งระหว่างพี่น้องไทยพุทธ และ มุสลิมให้ขยายวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะเริ่มมีการเคลื่อนไหวชักจูงกลุ่มวัยรุ่น ใน 4 อำเภอดังกล่าวให้เข้าร่วมกับ กลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อการซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นส่วนใหญ่อาจถูกชักจูงหรือปล่อยข่าวให้หลงเชื่อ ด้วยการปลุกระดมให้แก้แค้น จึงมีทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิม ต่างบอกข้อมูลกับตนว่ามีกระแสข่าวลือในพื้นที่สับสนไปหมด จึงอยากฝากบอกไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองว่าให้ช่วยดูแลลูกหลาน โดยฌฉพาะที่อยู่ในวัยรุ่น ว่ามีพฤติกรรมแปลกเปลี่ยนไปจากเดิม เก็บตัว หรือหายจากบ้านไปหลายวัน ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อความสงบสุขให้กลับมายังชุมชนโดยรวม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ประวัติศาสตร์จะต้องเปลี่ยน สยอง!ฆ่าตัดหัวเสียบประจานหน้าร้านย่านลาซาล ตะวันณา มีเรื่องที่จะต้องขอพระอภัยมณีแฟนๆ ทุกท่าน และจะกราบขออภัยในความผิด ด้วยการขอกราบมายังทุกท่าน หนุ่มมะกันฆ่าตัดคอน้องสาว หนุ่มมะกันโหดฆ่าตัดหัวน้องสาววัย 5ขวบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook