ท่องเที่ยวเอกชนจี้มาร์คยกปัญหาเป็นวาระแห่งชาติ

ท่องเที่ยวเอกชนจี้มาร์คยกปัญหาเป็นวาระแห่งชาติ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. นายทศพร เทพบุตร รองประธานกรรมาธิการท่องเที่ยวและกีฬา สภาผู้แทนราษฎร พร้อมสมาคมท่องเที่ยว ร่วมแถลงภายหลังยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานกรรมาธิการท่องเที่ยว โดยนายทศพร กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวลดลง โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีตัวเลขศึกษายืนยันว่า มีเพียงนักท่องเที่ยวจาก 2 ประเทศ เท่านั้น ที่มีตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น คือ ประเทศอิหร่าน และฮ่องกง แต่ที่เหลือลดน้อยลงกว่าช่วงเดิมของปีที่แล้วร้อยละ 20 ร้อยละ 50 จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจัง เหมือนที่นายกรัฐมนตรีเคยประกาศว่าปัญหาเรื่องการท่องเที่ยวถือเป็นวาระแห่งชาติ จึงอยากเรียกร้องถึงหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการท่องเที่ยว ไม่ว่าเป็นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เข้ามาดูแลการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

ด้านนางมัยรัตน์ พิระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้ประกาศให้การแก้ปัญหาเรื่องการท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ ออกมาแสดงความเป็นผู้นำและเรียกหน่วยงานราชการทั้งหลายมาหารือร่วมกัน ยกวางเรื่องปัญหาทางการเมือง ทั้งเรื่องว่าพรรคการเมืองใดดูแลกระทรวงใด เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อยากให้นายกฯออกมานั่งหัวต๊ะแล้วทุบโต๊ะเลยว่าจะต้องแก้ไขปัญหาอย่างไร เพราะที่ผ่านมา มีเพียงแต่คำพูด แต่ไม่มีการกระทำ การหวังพึ่งหน่วยงานระดับราชการก็ไม่มีผลการแก้ปัญหาเท่าที่ควร และหากไม่เร่งดำเนินการ ภาคเอกชนที่ทำธุรกิจการท่องเที่ยว จะต้องประสบปัญหาอย่างสูง เพราะเมื่อตัวเลขนักท่องเที่ยวลด เงินกู้ไม่ได้รับการอนุมัติ เพราะทางเอสเอ็มอีไปกำหนดว่าผู้ที่จะกู้เงินได้จะต้องมีผลกำไร แต่เมื่อนักท่องเที่ยวลดลง อีกทั้งต้องรักษาลูกจ้างเอาไว้ จะไปหากำไรจากที่ไหน

นางมัยรัตน์ กล่าวว่า ปัญหาของการท่องเที่ยวไทยที่เกิดปริมาณการลดลงของนักท่องเที่ยว สาเหตุหลักที่สุดคือเรื่องการเมือง ตั้งแต่มีการปิดทำเนียบ ปิดสนามบินเมื่อปีที่แล้ว เพราะธรรมดาของนักท่องเที่ยว ที่จะต้องมีการวางแผนไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เมื่อมีเหตุการณ์ปิดสนามบิน ในช่วงที่เป็นไฮซีซั่นก็ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงทันที พอมาในช่วงสงกรานต์ ก็เกิดเหตุวุ่นวายทางการเมืองอีก ทำให้นักท่องเที่ยวที่น้อยลงแล้ว ยิ่งน้อยลงอีก ดังนั้นความมุ่งหวังของเราคือการที่รัฐบาลรีบดำเนินการแก้ไขปัญหา เพราะหวังว่าในไตรมาสที่ 4 ของปี จะทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวกลับมาในประเทศไทยได้มากขึ้นอีก

ด้านนายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน กล่าวว่า เรื่องการเมืองมีผลต่อการท่องเที่ยวแน่นอน เพราะขณะนี้คำเตือนในเรื่องการขอให้งดเว้นการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงมีเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองยังมีอยู่ ดังนั้นรัฐบาลควรจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาทางการเมือง ร่วมไปกับการแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยว

นายศิษฎิวัชร กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่นายกฯจะเดินทางไปจีนขอฝากให้หาคำตอบว่าการป้องกันไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ 2009 เป็นอย่างไร เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประเทศจีนที่มีประชากรนับพันล้านคน นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่รัฐบาลไทยประกาศยกเว้นการจัดเก็บค่าทำวีซ่าของคนจีนที่จะมาเที่ยวประเทศไทย แต่ในระดับเจ้าหน้าที่ยังคงมีการจัดเก็บอยู่ ซึ่งสร้างความสับสนให้กับนักท่องเที่ยวมาก

นายเอนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่เร่งแก้ปัญหา ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะลดลงไปอีก เพราะในเดือนมิ.ย.นี้ เมื่อเทียบในปีเดียวกัน นักท่องเที่ยวลดลงจากแสนกว่าคนเหลือเพียง 2 หมื่นคนเท่านั้น ซึ่งในระยะสั้นแม้เป็นเพราะไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ แต่ในระยะยาวปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดจากสถานการณ์ทางการเมือง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook