สภาฯ ผ่าน พ.ร.บ.กู้เงิน4แสนล้าน 3วาระรวด! ฝ่ายค้านวอล์กเอาท์ ไม่ร่วม กมธ.

สภาฯ ผ่าน พ.ร.บ.กู้เงิน4แสนล้าน 3วาระรวด! ฝ่ายค้านวอล์กเอาท์ ไม่ร่วม กมธ.

สภาฯ ผ่าน พ.ร.บ.กู้เงิน4แสนล้าน 3วาระรวด! ฝ่ายค้านวอล์กเอาท์ ไม่ร่วม กมธ.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ส.ส.ฝ่ายค้าน ทยอยอภิปรายคัดค้านร่างพ.ร.บ..ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ วอล์กเอาท์ ไม่ร่วมตั้งกมธ. พิจารณา เหลือ"จุมพฎ"ยังนั่งอยู่ "ชัย"สั่งปิดการอภิปรายเพื่อลงมติผ่านฉลุยรอเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 2 เพื่อพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ. ซึ่งนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เสนอหลักการของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเมื่อกลางดึกวันที่ 15 มิถุนายน ในช่วงดึก ของวันที่ 16มิถุนายน ส.ส.ฝ่ายค้าน ทยอยอภิปรายคัดค้านร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ต่างระบุว่า การกู้เงินตามกฎหมายฉบับนี้ ไม่มีแผนโครงการที่ชัดเจน ทำให้ประชาชนเป็นหนี้สิน เหมือนในอดีตที่เคยทำให้ประเทศเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟ และไม่มั่นใจการใช้เงินของรัฐบาล และไม่ขอสนับสนุน

กระทั่งเวลา 01.15 น.วันที่17 มิถุนายน นายชวน หลีกภัย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ใช้สิทธิ์ถูกพาดพิงชี้แจงว่า เรื่องการเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟ สมาชิกคงจำช่วงเวลาผิด เพราะทำข้อตกลงกับไอเอ็มเอฟเดือนสิงหาคม 2540 แต่ตนมาเป็นรัฐบาลเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2540 หมายความว่า รัฐบาลของตนมาแก้ให้ข้อตกลงให้ดีขึ้น คือ ไม่เบิกเงินต่อไป และเริ่มใช้คืนตั้งแต่ตอนนั้น เพียงแต่รัฐบาลตนยังใช้ไม่หมดเท่านั้น

จากนั้นนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ซึ่งอภิปรายเป็นคนสุดท้าย ลุกขึ้นอภิปรายคัดค้านร่างพ.ร.บ. และระบุว่า ขอให้รัฐบาลถอนร่างออกไป เพราะไม่สามารถยกมือให้ได้ และไม่สามารถร่วมตั้งกรรมาธิการวิสามัญได้ จากนั้น นำสมาชิกพรรคเพื่อไทย วอล์กเอาท์ออกจากห้องประชุม ขณะที่ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี และนายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ซึ่งที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีมติขับออก เนื่องจากไปร่วมกิจกรรมกับพรรคภูมิใจไทย ยังนั่งอยู่ในห้องประชุม

จากนั้นนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร์ สั่งปิดการอภิปรายเพื่อลงมติ โดยสั่งนับองค์ประชุมปรากฏว่า มีสมาชิกในห้อง 270 คน จากนั้นจึงสั่งลงมติ ปรากฏว่า ที่ประชุมมีติรับหลักการร่างพ.ร.บ.ด้วยคะแนน 247 ต่อ 0 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 18 เสียง

จากนั้นเป็นการตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณา ปรากฏว่า นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) เสนอว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ทุกคนมีเจตน์จำนงให้ผ่านการตรวจสอบจากสภาอย่างกว้างขวาง แต่ตอนนี้มีสมาชิกส่วนหนึ่งเดินออกจากห้องประชุม จึงน่าเสียดายเรื่องการตรวจสอบมาก ฝ่ายค้านก็ขอให้มีการถ่ยทอดสดทางโทรทัศน์ ถ้าไม่ถ่ายทอดจะไม่ร่วมประชุม รัฐบาลก็ให้ถ่ายทอดสดการประชุมแล้ว ส่วนที่สมาชิกเรียกร้องให้ทำรายละเอียดแผนงาน รัฐบาลพร้อมทำและเสนอให้สมาชิกตรวจสอบ แต่ในชั้นนี้คือรับหลักการจึงยังไม่เสนอแผน แต่ในชั้นกรรมาธิการ ทุกพรรคจะได้ร่วมกันตรวจสอบรายละเอียดที่รัฐบาลจัดทำได้ แต่เจตนารมณ์ดังกล่าวกลับไม่เกิดเพราะสมาชิกไม่ให้ความร่วมมือ จึงเสนอตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภา เพื่อพิจารณาในวาระ 2 ซึ่งที่ประชุมไม่มีใครคัดค้าน

นายขจิต ชัยนิคม ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิ์ถูกพาดพิงว่า ฝ่ายรัฐบาลจะพิจารณาก็ทำกันไป ฝ่ายค้านท้วงติงเหตุผลไปแล้ว ถามว่า ชั้นกรรมาธิการ รัฐบาลจะมาทำแผนโครงการมาอย่างไร เพราะเป็นเรื่องให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้ ตอนนี้มาอ้างว่า ถ่ายทอดโทรทัศน์แล้วฝ่ายค้านไม่ให้ความร่วมมือตั้งกรรมาธิการเพื่อแปรญัตติไปตามขั้นตอนปกติ ไม่ได้

จากนั้นเป็นการพิจารณาวาระที่ 2 ชั้นกรรมาธิการเต็มสภา พิจารณาร่างจำนวน 13 มาตรา ปรากฏว่า มีเพียงมาตรา 3 ที่นายขจิต เสนอแปรญัตติ ให้ครม.เสนอกรอบการใช้จ่ายเงินกู้ต่อรัฐสภา เพื่อพิจารณาก่อนเริ่มดำเนินการ ส่วนนายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กรรมาธิการ เสนอให้คงตามร่างเดิมคือ ให้ครม.เสนอเพื่อทราบ ทำให้ต้องมีการโหวต ปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติยืนตามร่างเดิมด้วยคะแนน 239 ต่อ 1 ไม่ลงคะแนน 16 เสียง อย่างไรก็ตาม หลังจากลงมติรายมาตราแล้ว นายขจิต พยายามขอถอนการแปรญัตติของตนเอง โดยระบุว่า เป็นการเข้าใจผิดของตน แต่นายชัย ไม่ให้ถอน เพราะที่ประชุมลงมติคำแปรญัตติไปแล้ว

จากนั้นเป็นการลงมติในวาระ 3 ปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 244 ต่อ 0 ไม่ลงคะแนน 19 เสียงและปิดการประชุม เวลา 01.45 น. รวมเวลาพิจารณา 12 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งหลังจากนี้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว จะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook