ผ่านกฎหมายกู้เงิน-งบปี53 ปชป.''เรียลลิตี้โชว์'' ตามติดภูมิใจไทย
ในขณะที่พรรคเพื่อไทย เจ้าของเก้าอี้ก็พยายามใช้กลเม็ดทุกรูปแบบ เพื่อเรียกร้องขอความเห็นใจจากพี่น้องชาวอีสาน โดยใช้บารมีของอดีตนายกรัฐมนตรีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาขอคะแนนสงสาร
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ นั้นไม่ได้ส่งผู้สมัครชิงเก้าอี้ส.ส.ในครั้งนี้ แต่กำลังเฝ้าจับตามองบทบาทของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลและเป็นตัวแปรสำคัญในความอยู่รอดของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีด้วย
หลังการอภิปรายผ่านร่างพระราชกฤษฎีกา และร่างพระราชบัญญัติให้กระทรวงการคลังกู้เงิน 8แสนล้านบาทและร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี2553 จำนวน 1.7 ล้านล้านบาท แล้วสถานการณ์ทางการเมืองจะเริ่มเข้าสู่ภาวะนิ่งสงบ
แต่ภารกิจของพรรคและนักการเมืองคือการลงพื้นที่เพื่อดูแลทุกข์สุขและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาและเพิ่มคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลนั้น มีความได้เปรียบพรรคการเมืองอื่นๆอยู่หลายขุม มีทั้งอำนาจที่สามารถควบคุมและสั่งการกลไกองค์กรต่างๆของรัฐได้ โดยมีงบประมาณที่สามารถจัดสรรลงพื้นที่ได้อย่างเต็มที่อีกต่างหาก
เร็วๆนี้ คนไทยอาจจะได้เห็นภาพ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่มีดีกรี ปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ลงทุนไถนา หรือลุยโคลนดำนาก็เป็นไปได้ เพราะมีเสียงจากรัฐมนตรีสำนักนายกฯนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย วางโปรแกรมให้นายกฯลงพื้นที่พบปะกับประชาชน เพื่อวัดเรตติ้งประชานิยมจากโครงการ ถนนปลอดฝุ่น โรงพยาบาล และโครงการต่างๆ ที่ได้รับงบประมาณ จากพ.ร.ก.และ พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ วงเงินรวมทั้งสิ้น 800,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการถนนปลอดฝุ่นได้รับไฟเขียวจากครม.วงเงิน 3.48 หมื่นล้านบาท ดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 จำนวน 3,200 กิโลเมตร ครอบคลุม 75 จังหวัด ใช้งบก่อสร้าง 1.48 หมื่นล้านบาท และโครงการที่ 2 ก่อสร้างเพิ่มอีก 4,000 กิโลเมตร งบประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
แรงดึงดูดจากโครงการถนนปลอดฝุ่น ที่เสมือนเป็นเค้กที่มีกลิ่นหอมหวน ส่งผลให้ ส.ส. หลายคน แสดงท่าทีอยากเข้ามาซบอกพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการมากขึ้น เพราะนอกจากโครงการถนนปลอดฝุ่น ยังมีโครงการจานด่วน ที่พรรคภูมิใจไทยใช้ยุทธศาสตร์หักดิบ ไม่ให้ไม่โหวต คือ โครงการก่อสร้างอาคารเรียนศูนย์เด็ก ซึ่งอยู่ในความดูแลของ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย วงเงิน 1,950 ล้านบาท ที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ก่อนมีการประชุมสภาเพื่อพิจารณา พ.ร.ก.เงินกู้ 400,000 ล้านบาทไม่กี่ชั่วโมง
เมื่อมองกลับไปที่พรรคประชาธิปัตย์ ความจริงแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมีแผนส่งนายกฯเอาใจรากหญ้า แต่เคยวางยุทธศาสตร์ ลงพื้นที่มาแล้ว หลังมีการสัมมนาพรรค เมื่อวันที่ 22-24 พฤษภาคม ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งนี้แกนนำพรรค กำชับให้สมาชิกพรรคเกาะติดพื้นที่ พร้อมเลือกตั้งหากมีการยุบสภา ซึ่งคาดว่าประมาณปลายปีนี้
เป็นที่นาสังเกตว่า ในการสัมมนาพรรค มีการสรุปสาระสำคัญที่จำเป็นเร่งด่วน ซึ่งถือว่าเป็นผลงานรัฐบาล 5 ข้อ เพื่อไปหาเสียง คือ การแก้ไขการว่างงาน การแก้ไขปัญหาความยากจน การแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร การจัดสรรที่ดินทำกินให้ประชาชน การแก้ไขปัญหาค่าครองชีพประชาชน โดยลดค่าใช้จ่ายประชาชนในโครงการน้ำไฟฟรี และเรียนฟรี 15 ปี
ยังไม่นับรวมกับแผนการกระจายเม็ดเงิน ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 วงเงิน 800,000 ล้านบาท
