ตลาดสิ่งทอสหรัฐฯยังไม่ฟื้น ให้ส่งออกเบนหาตลาดทดแทน
แม้ว่าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับหนึ่งของื้อ ผู้ประกอบการไทยยังคงมีช่องทางที่จะรักษาระดับการส่งออก ด้วยการพัฒนาตลาดเดิม เช่น ญี่ปุ่น และอาเซียน ซึ่งถือว่าไทยมีความได้เปรียบจากเอฟทีเอ โดยเฉพาะความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย ญี่ปุ่น (JTEPA) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นมา มีผลทำให้การส่งออกในปี 2551 ขยายตัวถึงร้อยละ 23 ส่วนใหญ่เป็นเส้นด้ายและผ้าใยสังเคราะห์ นอกจากนี้ ไทยควรใช้ประโยชน์จากประเทศสมาชิกอาเซียนมากขึ้น ทั้งในด้านของการเป็นแหล่งวัตถุดิบราคาถูก และตลาดส่งออกขนาดใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมากรมการค้าต่างประเทศได้ประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้น และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงให้มากขึ้นมาp />
นางสาวชุติมา กล่าวว่า นอกเหนือจากตลาดเดิมแล้ว ผู้ประกอบการควรบุกเบิกตลาดใหม่ ๆ ที่มีความต้องการและกำลังซื้อสูง เช่น สหรัฐอมหรับเอมิรตส์และรัสเซีย โดยจะต้องรักษาและพัฒนาคุณภาพสินค้า พัฒนาเทคโนโลยีการผลิต และคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น การพัฒนาสิ่งทอเทคนิคที่มีคุณภาพพิเศษ (สิ่งทอกันไฟและสิ่งทอยานยนต์) รวมทั้งติดตามทิศทางของตลาด ความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนการส่งมอบให้ตรงเวลา