คต.เดินสายรับฟังรับมือการเปิดตลาดข้าวภายใต้อาฟต้า
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศ ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกได้ประโยชน์จากการเปิดตลาดข้าวตามพันธกรณีและเกิดผลกระทบน้อยที่สุด กรมการค้าต่างประเทศได้รับมอบหมายจากกระทรวงพาณิชย์ให้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่้งภาครัฐและเอกชนในการพิจารณามาตรการรองรับเพื่อการบริหารจัดการข้าวนำเข้าและแนวทางการปฏิบัติโดยมีเป้าหมายในการรักษาคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย คุ้มครองสุขภาพอนามัยของผู้บริโภคข้าวไทย ป้องกันการระบาดของโรคและศัตรูข้าว รวมทั้งป้องกันการนำเข้าข้าวมาสวมสิทธิ์ในโครงการแทรกแซงของรัฐบาลและป้องกันการนำเข้าข้าวที่มีการตัดแต่งพันธุกรรม (GMOs) และเพื่อให้การบริหารจัดการข้าวนำเข้ามีความสมบูรณ์ โปร่งใส และสนองความต้องการของภาคประชาสังคม จึงได้จัดเวทีสาธารณะให้ทุกภาคส่วนของประเทศได้มีโอกาสร่วมแสดงความเห็นและเสนอแนะข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากการเปิดตลาดข้าวภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน(AFTA) โดยจัดรวม 6 ครั้ง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศระหว่างเดือน มิ.ย. ก.ค. เริ่มที่จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้เข้าร่วมจากพื้นที่ 10 จังหวัดภาคเหนือ ครั้งที่สองที่จังหวัดชัยนาท ผู้เข้าร่วมจากพื้นที่ 14 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน สำหรับครั้งนี้จัดที่จังหว ครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงมาจนถึงจังหวัดนราธิวาส ส่วนอีก 3 ครั้ง มีกำหนดจัดที่จังหวัดสุรินทร์ อุดรธานี และกรุงเทพฯ
นางสาวชุติมา กล่าวว่า ข้อมูล ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการเปิดเวทีสาธารณะกรมการค้าต่างประเทศจะประมวลนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณากำหนดแนวทางและมาตรการเปิดตลาดข้าวตามพันธกรณีAFTAเพื่อออกกฎ ระเบียบ ให้มีผลใช้บังคับได้ทันวันที่ 1 มกราคม 2553 ทั้งนี้ ผู้ที่มิได้เข้าร่วมการรับฟังความเห็น และผู้สนใจทั่วไปสามารถเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมได้ที่ website กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th หรือสายด่วน 1385 กรมการค้าต่างประเทศ