พรรคร่วมรัฐบาล นัดกินมื้อค่ำ ยันเสถียรภาพรบ.ไม่มีปัญหา ไม่ได้กดดันพรรคปชป.

พรรคร่วมรัฐบาล นัดกินมื้อค่ำ ยันเสถียรภาพรบ.ไม่มีปัญหา ไม่ได้กดดันพรรคปชป.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ยกเว้นจากพรรคประชาธิปัตย์ นัดรับประทานอาหารค่ำและหารือสถานการณ์การเมืองร่วมกัน เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 22 มิถุนายน ที่ห้องอาหารจีน โรงแรมโอเรียนเต็ ล ผู้เข้าร่วมอาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ จากพรรคเพื่อแผ่นดิน นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา

นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นการนัดรับประทานอาหารตามปกติเหมือนที่เคยทำมา เป็นความพยายามที่จะหางานทำของคนที่ตกงาน ทั้งสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กับ 109 ซึ่งงานนี้ มีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นเจ้าภาพ โดยนายสุวัจน์ได้โทรศัพท์นัดหมายตั้งแต่ช่วงเช้า

จากนั้นเวลา 20.30 น. นายประดิษฐ์ เปิดเผยภายหลังการรับประทานอาหารว่า เป็นการรัประทานธรรมดา ไม่ได้เป็นการกดดันพรรคประชาธิปัตย์อะไร เพราะนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ทราบเรื่องนัดหมายครั้งนี้ แต่ไม่ได้มาร่วมด้วยเพราะเดินทางไปภารกิจต่างประเทศ

ยอมรับว่าบนโต๊ะอาหารมีการพูดคุยเรื่องการเมือง แต่ไม่ใช่เรื่องที่สื่อมวลชนคิดแน่นอน สำหรับเสถียรภาพรัฐบาลนั้นเท่าที่ประเมินกันก็ไม่มีปัญหาอะไร นายประดิษฐ์กล่าว

เวลา 21.20 น. นายบรรหาร เปิดเผยภายหลังร่วมรับประทานอาหารค่ำกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า คุยเรื่องสัพเพเหระทั่วไป รัฐบาลเน้นหนักหาเงินมากู้เศรษฐกิจ ก็มีความเป็นห่วง และอยากให้ดำเนินโครงการต่างๆให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเฉพาะในส่วนการสร้างงานสร้างรายได้ซึ่งถือเป็นประโยชน์ ยืนยันว่า การรับประทานอาหารครั้งนี้ไม่ได้เป็นการกดดันพรรคประชาธิปัตย์ เพียงแต่วันนี้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ไม่อยู่ จึงไม่ได้ชวน ถ้าอยู่ก็จะชวนตามปกติ เสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ยังดีอยู่ไม่มีปัญหา แม้ว่าจะได้รับงบฯด้านการท่องเที่ยวเพิ่มมาอีก 2,400 ล้านบาทก็ยังถือว่าน้อยอยู่ แต่รับได้ไม่มีปัญหาอะไร

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า บนโต๊ะอาหารคุยเรื่องการเมืองด้วย โดยเฉพาะกรณี ส.ส. และ ส.ว.จำนวนหนึ่งจะพ้นสถานะกรณีถือหุ้น ขณะนี้เสถียรภาพรัฐบาลไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ถ้าถูกตัดสิทธิอีก อาจทำให้เสถียรภาพรัฐบาลแย่ลง แต่ไม่ถึงขั้นไปไม่ได้ จำนวนที่มองมีประมาณ 30 คน จะทำให้รัฐบาลทำงานลำบากมากขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook