พาณิชย์ชี้ปีนี้คนไทยใช้สินค้าราคาถูก ปีหน้าปล่อยผีปรับขึ้น3-8%นำทัพโดยปูน-นม-เหล็ก

พาณิชย์ชี้ปีนี้คนไทยใช้สินค้าราคาถูก ปีหน้าปล่อยผีปรับขึ้น3-8%นำทัพโดยปูน-นม-เหล็ก

พาณิชย์ชี้ปีนี้คนไทยใช้สินค้าราคาถูก ปีหน้าปล่อยผีปรับขึ้น3-8%นำทัพโดยปูน-นม-เหล็ก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางผุสดี กำปั่นทอง ผู้อำนวยการสำนักจัดระบบราคาและปริมาณสินค้ากรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาสินค้าอุปโภคบริโภคช่วงครึ่งหลังของปีนี้ทุกหมวดมีราคาทรงตัว เช่น หมวดอาหารและเครื่องดื่ม วัสดุก่อสร้าง ปัจจัยการเกษตร ของใช้ประจำวัน และยานยนต์ ทำให้ผู้ประกอบการยังไม่สามารถปรับราคาได้เนื่องจากกำลังซื้อยังชะลอตัว โดยเฉพาะกลุ่มวัสดุก่อสร้างพบว่าวัตถุดิบมีแนวโน้มปรับลดลงจากการชะลอตัวของค่าก่อสร้าง ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศ

ส่วนในปี"53 ภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจะทำให้ประชาชนมีรายได้และมีความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยตามปกติ โดยเมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวคาดว่าราคาวัตถุดิบนำเข้าโดยรวมจะปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 10-15% และจะส่งผลกระทบต่อราคาจำหน่ายสินค้าหมวดนี้ให้เพิ่มขึ้นประมาณ 3-8% โดยสินค้าหมวดที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและคาดว่าจะปรับราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ นมผง เพิ่มขึ้น 5% สินค้าเหล็กเพิ่มขึ้น 4-7% ปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น 7-8% ของใช้ประจำวัน 3-4% ปุ๋ยเคมี 5% และแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 3% โดยราคาที่จะปรับขึ้นจะอยู่กับสมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ระหว่าง 34-35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ส่วนกรณีที่บริษัท สหวิริยาสตีล ออกมาประกาศว่าราคาเหล็กปีนี้จะปรับสูงขึ้น 20-30% คาดว่าราคาอาจไม่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ยอมรับว่าราคาวัตถุดิบเหล็กแท่งยาวขยับขึ้น 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จาก 440 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเป็น 450 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ถือว่าเป็นการปรับราคาเพียงเล็กน้อย ยังไม่ส่งผลต่อต้นทุนเหล็กเส้นในปัจจุบัน โดยราคาจำหน่ายปลีกเหล็กเส้นขนาด 9 มิลลิเมตร ราคาทรงตัวมาตั้งแต่เดือนมี.ค. ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 98-100 บาทต่อเส้น ซึ่งยังเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาเพดานที่กรมการค้าภายในประกาศที่ 130 บาทต่อเส้น

นายวิสุทธิ์ วิทยฐานกรณ์ กรรมการบริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด ผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองตราองุ่น เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาวัตถุดิบถั่วเหลืองในตลาดโลกขณะนี้อยู่ในช่วงตึงตัว โดยราคาวัตถุดิบถั่วเหลืองปัจจุบันอยู่ที่ 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ขณะที่ปีก่อนอยู่ที่ 700-800 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลให้กำลังซื้อหดตัว จึงไม่เหมาะที่จะปรับราคาจำหน่ายน้ำมันถั่วเหลืองในขณะนี้ โดยยังคงราคาจำหน่ายน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดขนาด 1 ลิตรอยู่ที่ 46 บาทต่อขวด ซึ่งเป็นราคาที่กรมการค้าภายในขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการตรึงราคาไว้ก่อน แม้ว่าเพดานราคาที่กำหนดจะอยู่ที่ 49.50 บาทต่อขวด

ทั้งนี้ หากราคาวัตถุดิบถั่วเหลืองตลาดโลกปรับสูงขึ้นถึง 550 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น อาจมีความจำเป็นต้องขอปรับราคาจำหน่ายน้ำมันถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นเนื่องจากไม่กำไร ส่วนแนวโน้มราคาวัตถุดิบคาดว่าจะปรับสูงขึ้นอีกเพราะผลผลิตตลาดโลกลดลงสต๊อกโลกเหลือน้อย แต่คาดว่าราคาคงไม่ปรับขึ้นไปถึง 700-800 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

สำหรับยอดขายในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 21,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่มียอดขายอยู่ที่ 20,933 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.2% และในช่วงไตรมาส 2 ของปี"53 หลังจากเปิดโรงงานใหม่ กำลังผลิตอีก 2,000 ตัน จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 4,000 ตัน จะทำให้ยอดขายในปีหน้าเพิ่มขึ้น 50% คิดเป็นมูลค่า 31,000 ล้านบาท

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook