ครอบครัว แจ๊คสัน ขอผ่าศพหาปมตายรอบใหม่

ครอบครัวของนักร้องดัง ไมเคิล แจ็คสัน ขอผ่าศพพิสูจน์หาสาเหตุการตายเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากยังติดใจในประเด็นที่หมอฉีดยาแก้ปวดให้ก่อนตาย ขณะที่ตำรวจแอลเอเรียกสอบปากคำหมอประจำตัวแล้ว แต่แค่เป็นพยานเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด ส่วนพิธีศพก็ยังไม่ได้ประกาศ ด้านอดีตพี่เลี้ยงของลูก ๆ แฉไมเคิลติดยาแก้ปวดขนาดหนัก เคยช่วยทุบท้องสำรอกยาออกจากท้องมาแล้ว ด้านแม่ตั้งทนายความดูแลผลประโยชน์เพราะยังเป็นห่วงเรื่องพินัยกรรม สำหรับศพของนางฟ้าชาร์ลีจัดพิธีให้อังคารนี้

ความคืบหน้าการเสียชีวิตของราชาเพลงป๊อปชื่อก้องโลกชาวอเมริกัน "ไมเคิล แจ๊คสัน" ด้วยวัยเพียง 50 ปี ที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ ยูซีแอลเอ นครลอสแอนเจลิสเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สร้างความเสียใจและตกตะลึงให้กับแฟนเพลงทั่วโลกว่า จากไปก่อนวัย อันควรทั้งที่เตรียมความพร้อมว่าจะกลับมาแสดงคอนเสิร์ต 50 รอบที่ประเทศอังกฤษ จึงฟิตซ้อมร่างกายและมีแพทย์ประจำตัวคอยดูแล และให้ยาแก้ปวดจนเกินขนาด กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงถึงสาเหตุการตาย แม้การชันสูตรศพของสำนักงานชันสูตรศพเขตลอสแอนเจลิส ระบุว่าต้องใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ถึงจะสรุปผลได้เพราะต้องรอผลการตรวจอย่างละเอียดนั้น

ครอบครัวอยากให้ชันสูตรครั้งที่2

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแอนเจลิสรัฐแคลิฟอร์เนียประเทศสหรัฐ อเมริกาเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ว่า นายไบรอัน เอล เลียส พนักงานสอบสวนของสำนักงานชันสูตรศพเขตลอสแอนเจลิสเปิดเผยว่า ครอบครัวแจ๊คสันได้แจ้งให้ทางสำนักงานฯ ทราบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ต้องการให้มีการชันสูตรศพไมเคิลเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งก็ได้มีการดำเนินการไปแล้ว ณ สถานที่ปกปิดแห่งหนึ่งในนครลอสแอนเจลิส ทั้งนี้เพราะมีรายงานข่าวว่าแฟนเพลงส่วนหนึ่งแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับ สาเหตุการตายที่ ไม่ชัดเจน เนื่องจากมีรายงานว่า แพทย์ประจำตัว ดร.คอนราด เมอร์เรย์ วัย 51 ปี ซึ่งอยู่กับ ไมเคิล ขณะเกิดเหตุด้วยนั้น ได้ฉีดยาแก้ปวด ดิมีโรล ให้กับไมเคิลก่อนที่จะเกิดอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน และพยายามช่วยปั๊มหัวใจขณะที่รถพยาบาลมาถึง

ยืนยันหมอไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย

ด้าน ดร.คอนราด เมอร์เรย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องหัวใจจากรัฐเทกซัส ได้ว่าจ้างทนาย ความชื่อ นายวิลเลียม เอ็ม สแตรดลีย์ จากสำนักงานทนายความ สแตรดลีย์, เชอร์นอฟฟ์ และ อัลฟอร์ด ที่มีสำนักงานอยู่ในเมืองฮุสตัน ให้ทำหน้าที่ทนายความแก้ต่างให้กับ ดร.คอนราด เมอร์เรย์ ซึ่งได้ร่วมอยู่ในระหว่างการให้การตำรวจลอสแอนเจลิสด้วย ทางสำนักงานทนายความยืนยันว่า ดร.คอนราด เมอร์เรย์ เป็นพยานในเหตุการณ์ระหว่างการสอบสวนการเสียชีวิตของไมเคิล แจ๊คสัน และไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด นอกจากนั้น ดร.คอนราด เมอร์เรย์ ซึ่งมีสำนักงานแพทย์อยู่ที่เมืองลาสเวกัสและฮุสตัน ก็ยังคงอยู่ที่ลอสแอนเจลิสนับตั้งแต่การเสียชีวิตของไมเคิล โดยจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มี รายงานจากสื่อท้องถิ่นด้วยว่า ดร.คอนราด เมอร์ เรย์ เคยมีปัญหาด้านการเงินเฉพาะปีที่แล้ว เคยถูกศาลตัดสินปรับเป็นเงินกว่า 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 14 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับหน้าที่ให้เป็นหมอประจำตัวของไมเคิล เขาก็ได้ทำหน้าที่ดูแลอย่างดีที่สุด

สงสัยหมอฉีดยาแก้ปวดให้ไมเคิล

สาธุคุณเจ๊สซี แจ๊คสัน ซึ่งเคยทำหน้าที่ เป็นโฆษกให้กับครอบครัวของไมเคิล แจ๊คสันมาก่อน แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นญาติอะไรกับไมเคิล แจ๊คสัน ได้ให้สัมภาษณ์ข่าวเอบีซีว่า ครอบครัวของไมเคิลต่างมีคำถามมากมายที่แสดงความสงสัยเกี่ยวกับตัวของ ดร.คอนราด เมอร์เรย์ แพทย์ประจำตัวของไมเคิลว่า เขาเป็นใครมาจากไหน ทำอะไรกับไมเคิลบ้าง ฉีดยาให้ไมเคิลหรือเปล่า แล้วถ้าฉีดเป็นยาอะไร

ครอบครัวสลดแต่ยังอยู่กับทุกคน

นายโจเซฟ แจ๊คสัน พ่อของไมเคิล แจ๊คสัน ออกแถลงการณ์ผ่านทางนิตยสารพีเพิ้ลโดยกล่าวถึงการเสียชีวิตของลูกชายว่าเป็น ช่วงชีวิตหม่นหมองที่สุด เราคงคิดถึงไมเคิลตลอดไป ความเจ็บปวดนี้ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้ แต่แฟนเพลงทั้งหลายโปรดอย่าหดหู่ เพราะไมเคิลจะยังคงอยู่กับพวกเราทุกคนตลอดไป นอกจากนั้น ครอบครัวยังส่งรถบรรทุกไปอยู่ที่บ้านเช่าของไมเคิลหลังที่เกิดเหตุ เพราะเกรงว่าจะมีการเข้าไปขโมยทรัพย์สินของไมเคิล นอกจากนั้น ครอบครัวแจ๊คสัน เช่น พ่อแม่ พี่น้อง และลูก 3 คน ก็ยังอยู่ที่บ้านพักส่วนตัวในย่านเอนซิโนชานเมืองลอสแอนเจลิส มีภาพยืนยันว่า น้องสาวของไมเคิล คือ ลาโทยา แจ๊คสัน ได้นั่งรถมาที่บ้านหลังนี้ด้วย

ยังไม่กำหนดจัดพิธีศพ

สำหรับศพของไมเคิลหลังเสร็จสิ้นการชันสูตรศพเป็นครั้งที่ 2 นั้นก็ถูกนำไปที่ห้องเก็บศพซึ่งเป็นสถานที่ปกปิดแห่งหนึ่ง และยังไม่มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการจัดงานศพให้ไมเคิล แจ๊คสัน โดยทางครอบครัวยังคงปิดเงียบ ขณะที่แฟนเพลงส่วนหนึ่งอยากให้จัดพิธีศพ ณ คฤหาสน์เนเวอร์แลนด์ บ้านพักส่วนตัวกึ่งสวนสนุกของไมเคิล ใกล้กับเมืองลอสแอนเจลิส ซึ่งมีพื้นที่มากถึง 2,600 เอเคอร์ หรือประมาณ 6,500 ไร่ และมีแนวโน้มว่าจะถูกยึดเพราะปัญหาหนี้สินของไมเคิล

พี่เลี้ยงระบุติดยาแก้ปวด

น.ส.เกรซ รวาแรมบา วัย 42 ปี ชาวรวันดา เป็นอดีตพี่เลี้ยงซึ่งเคยดูแลลูก ๆ ให้กับ ไมเคิล แจ๊คสัน จนกระทั่งมาถูกไล่ออกจากงานเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว เปิดเผยว่า เคยทำหน้าที่ช่วยปั๊มหน้าท้องของไมเคิลเพื่อให้เขาสำรอกเอายาแก้ปวดจำนวน มากออกมาจากท้อง เธอทำอย่างนี้หลายครั้งแล้ว แล้วยืนยันได้ว่า ไมเคิลติดยาแก้ปวดอย่างมาก ครั้งหนึ่งเธอไม่ยอมให้ลูก ๆ เจอหน้าเขา เพราะเขากินยาแก้ปวด เธอเคยพยายามขอให้แม่ของไมเคิล คือ นางแคเธอรีน และน้องสาวคือ เจเน็ต ให้ช่วยเกลี้ยกล่อมให้ไมเคิลหาทางรักษาอาการติดยาแก้ปวด แต่ไมเคิลไม่สนใจและหาว่าเธอหักหลัง ขณะนี้เธอเป็นห่วงเกี่ยวกับอนาคตของไมเคิล และบินจากยุโรปกลับมาลอสแอนเจลิส เพื่อหาทางได้พบหน้าลูก ๆ ของไมเคิล

ผู้จัดคอนเสิร์ตระบุไมเคิลดีใจ

นายเคนนี ออร์เตกา ผู้อำนวยการจัดแสดงคอนเสิร์ตของไมเคิล เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ลอสแอนเจลิสไทมส์ว่า ไมเคิลมีท่าทีปลาบ ปลื้มใจที่จะได้กลับมาเล่นคอนเสิร์ตอีกครั้งในคืนก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาดูมีความสุขและทำงานเต็มที่สำหรับการแสดงครั้งนี้ มีอยู่ 2-3 ครั้งที่เขากับไมเคิลได้ยืนอยู่ด้วยกัน ยามที่ไมเคิลมอง จากด้านล่างขึ้นไปบนเวทีคอนเสิร์ตนั้น ฉายแววดีใจและปลาบปลื้มออกมา นอกจากนั้นยังมีนักแสดงกลและตลกอีกคนหนึ่งชื่อ เอ็ด อาลองโซ เผยถึงช่วงการซ้อมใหญ่นั้น ไมเคิลซ้อมอย่างหนัก โดยไม่ได้หยิบน้ำมาดื่มแก้กระหายเลย

สู้กันถึงชั้นศาลแย่งสิทธิดูแลลูก

แม้เรื่องราวของลูก ๆ ไมเคิลจะถูกปิดเป็นความลับมาตลอดชีวิต ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่จะต้องมีคำถามตามมาว่า ใครจะได้เป็นผู้ดูแลลูก ๆ ของเขา แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องสู้กันถึงชั้นศาล ซึ่งก็มีหลายคนที่อยู่ในข่ายที่จะได้เป็นผู้ปกครองลูก ๆ ของไมเคิล ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายตั้งข้อสังเกตว่า ใครก็ตามที่มีข้ออ้างในทางกฎหมายที่ชัดเจนที่สุด ก็จะได้สิทธิในการดูแลลูกไปเช่น นางเด็บบี้ โรว์ แม่ของลูกชาย 2 คนแรกของไมเคิล นอกจากนั้น ก็ต้องพิจารณาดูจากความปรารถนาของไมเคิลด้วยว่า อยากให้ลูกอยู่กับใคร ซึ่งประเด็นนี้ก็จะมีน้ำหนักมากเช่นกัน

แม่ตั้งทนายดูแลผลประโยชน์

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดเปิดเผยว่า นางแคเธอรีน แจ๊คสัน แม่ของไมเคิล ได้เลือกให้นายแอล.ลอนเดลล์ แมคมิลแลน หนึ่งในทนายความที่ทำหน้าที่มายาวนานให้กับไมเคิลนั้น มาทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ตามกฎหมายของครอบครัวแจ๊คสัน เพราะขณะนี้ทางครอบครัวมีความวิตกกังวลอย่างมากว่า ไมเคิลมีพินัยกรรมหรือไม่ และใครเป็นผู้ให้คำแนะนำด้านกฎหมายกับเขา ก่อนที่จะเสียชีวิต ส่วนลูก ๆ ทั้งสามคนได้แก่ ปรินซ์ ไมเคิล วัย 12 ขวบ ปารีส วัย 11 ขวบ และ ปรินซ์ ไมเคิล ที่ 2 วัย 7 ขวบ ก็อยู่ในความดูแลของนางแคเธอรีน และมีสุขภาพแข็งแรงดี สนุกสนานกับเด็กในวัยเดียวกันอย่างมีความสุข

สมบัติส่วนตัวไมเคิลขายดีมาก

เช่นเดียวกับราชาเพลงร็อกแอนด์โรล "เอลวิส เพรสลีย์" นั่นคือ สมบัติส่วนตัวขายดีมากเพราะมีคนต้องการเก็บไว้เป็นอนุสรณ์รำลึกถึงเขา โดยรายงานข่าวระบุว่า กว่า 45,000 ชิ้นแล้วที่เป็นสมบัติหรือข้าวของส่วนตัวของไมเคิลได้ถูกนำออกมาจำหน่ายผ่าน ทางเว็บไซต์ อีเบย์ ในอินเทอร์เน็ตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หรือสองวันหลังการเสียชีวิตของไมเคิล แยกเป็น แผ่นเสียงประมาณ 17,500 แผ่น และ ข้าวของอื่น ๆ อีก 17,000 ชิ้น เช่น โปสเตอร์ ตุ๊กตา ตั๋ว โปรแกรม คอนเสิร์ต นิตยสาร กระเป๋ารูปสลัก เข็มกลัด สติกเกอร์ เสื้อยืด และ เสื้อผ้าอื่น ๆ มีอยู่ชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจ เป็นถุงมือสีขาว ติดไว้ว่าเป็นบัตร เชิญไปร่วมงานปาร์ตี้ไมเคิล แจ๊คสัน ถูกประมูลขายไปในราคา 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.75 ล้านบาท)

จัดงานศพนางฟ้าชาร์ลี 30 มิ.ย.

สำหรับดาราสาวรุ่นใหญ่อีกคนหนึ่งที่เสีย ชีวิตไปก่อนหน้าไมเคิล แจ๊คสัน เพียงไม่กี่ชั่วโมง นั้นคือ ฟาร์ราห์ ฟอว์เซตต์ ด้วยวัย 62 ปี ด้วยโรคมะเร็งช่องทวารหนักนั้น จะมีพิธีศพของเธอที่โบสถ์ อาว เลดี้ ออฟ เดอะ แองเจิลส์ ในย่าน ใจกลางเมืองลอสแอนเจลิส ในวันอังคารที่ 30 มิ.ย. นี้ เวลา 16.00 น. (เวลาท้องถิ่นตรงกับ 06.00 น. เช้าวันพุธที่ 1 ก.ค. ตามเวลาในประเทศไทย).

ความสำคัญของคฤหาสน์เนเวอร์แลนด์

จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดแน่ชัดว่า จะจัดพิธีศพให้กับ "ไมเคิล แจ๊คสัน" ณ ที่ใดและเมื่อใด ซึ่งทางครอบครัวแจ๊คสันยังปิดปากเงียบ เนื่องจากยังกังขาเรื่องสาเหตุการตายอยู่ แม้แฟนเพลงส่วนหนึ่งต้องการให้ฝังศพของราชาเพลงป๊อปชื่อก้องโลกชาวอเมริกัน ผู้นี้ไว้ที่คฤหาสน์เนเวอร์แลนด์ ซึ่งเป็นทั้งบ้านพักส่วนตัวกึ่งสวนสนุกของไมเคิล แม้จะมีปัญหาเรื่องการถูกยึดเพื่อรอขายทอดตลาด เพื่อค้างชำระหนี้ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เนเวอร์แลนด์ตั้งอยู่เลขที่ 5225 ถนนฟิเกอรัว เมาเท่น เมืองลอส โอลิวอส รัฐแคลิฟอร์เนีย พื้นที่ประมาณ 6,500 ไร่ ไมเคิลซื้อมาเมื่อปี 2530 โดยตั้งชื่อให้ว่า "เนเวอร์แลนด์" ซึ่งเป็นชื่อที่ได้มาจากเกาะแห่งหนึ่งในเทพนิยายเรื่อง "ปีเตอร์ แพน" ซึ่งผู้ที่เดินทางเข้าไปในเนเวอร์แลนด์จะเป็นเด็กตลอดไป ตรงตามความคิดของไมเคิลที่อยากเป็นดินแดนในฝันของเด็ก ๆ ตลอดไป เพราะจะพบแต่ความสนุกสนานของสวนสัตว์ สวนสนุกและกิจกรรมละเล่นของเด็ก ๆ

สำหรับมูลค่าของเนเวอร์แลนด์นั้น รายการเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ทูไนท์ เคยประเมินไว้ที่ 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,200 ล้านบาท) แต่ทางสำนักงานทรัพย์สินเขตปกครองซานตา บาร์บารา ประเมินไว้ที่ 96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,360 ล้านบาท) ขณะที่นิตยสารอันทรงอิทธิพลด้านการเงินของสหรัฐ "ฟอร์บส์" บอกว่ามีมูลค่ามากกว่านั้น ซึ่งน่าจะหมายถึงมูลค่าด้านจิตใจในฐานะบ้านพักที่ไมเคิล แจ๊คสัน รักมากที่สุดและมีความสุขยามได้กลับมาที่นี่.