ภูมิใจไทยเย้ยเพื่อไทยไม่มีส.ส.คิดกลับรังเดิม
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากการเลือกตั้งซ่อมผ่านไป และพรรคแพ้การเลือกตั้งที่จ.สกลนคร ทางพรรคได้มาวิเคราะห์กัน และได้ข้อสรุปว่าสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำคือการให้ ส.ส.ของพรรคลงพื้นที่ทำงานให้ประชาชน โดยหลังวันเข้าพรรษาทางพรรคจะลุยหนักในพื้นที่ภาคอีสาน โดยผู้ใหญ่ และรัฐมนตรีของพรรคจะแบ่งความรับผิดชอบในการลงพื้นที่กันเป็นโซนอย่างจริงจัง เพื่อไปชี้ให้เห็นว่าวันนี้ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย สามารถทำงานช่วยเหลือประชาชนได้อย่างไร และประเด็นสำคัญคือเราจะต้องไปแสดงให้เห็นว่าวันนี้พรรคอาสาที่จะช่วยเหลือประชาชน ในขณะที่ทางพรรคเพื่อไทยทำเพียงไปร้องขอจากประชาชนให้ช่วยเหลือใครบางคนและนำคนกลับบ้านเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เป็นผลงานที่จะไปอ้างได้ว่าทำให้ประชาชน เพราะการนำคนกลับบ้านไม่น่าจะเป็นกระบวนการที่ชอบตามหลักกฎหมาย เราจึงต้องไปชี้แจงให้ประชาชนได้รู้กัน แต่ไม่ได้ไปสกัดกั้นการล่าชื่อประชาชนเพื่อยื่นถวายฎีกาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
หลังการเลือกตั้งซ่อมเสร็จแล้ว พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.เพิ่มมาอีก 2 คน แต่ก็มาทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งศักยภาพในการทำงานในฐานะส.ส.ฝ่ายค้าน ก็ทำได้เพียงตั้งกระทู้ในสภาฯ หรือยกมือขอพูดกับประธานสภา แต่การแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างเป็นระบบในภาวะเช่นนี้ทำได้ค่อนข้างยาก ซึ่งพรรคภูมิใจไทยที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็จะแสดงให้ประชาชนเห็นถึงความแตกต่างว่าคุณได้เรามาเป็น ส.ส.เราทำประโยชน์ให้ประชาชนได้อย่างไร เมื่อเทียบกับพรรคฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทย ซึ่งประชาชนต้องไปตรึกตรองในการเลือกตั้งครั้งใหญ่นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่พรรคพรรคเพื่อไทยโจมตีเรื่องการทรยศนั้น เราก็ต้องไปชี้แจงกับประชาชนด้วยว่า เราถูกกล่าวหา แต่เราไม่ได้ทรยศ ในเชิงการเมืองนั้นผูกพันกันในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อแยกกันก็ไม่ได้หมายความว่าเราทรยศ บุญคุณของคน ๆ หนึ่งในเชิงการเมือง ไม่ได้มีอยู่มากมายจนถึงขนาดถ้าจบกันแล้วต้องกลายเป็นทรยศ วันนี้คำว่าทรยศถือเป็นวิชามารที่ชั่วร้าย ซึ่งผู้สมัครของพรรค จ.สกลนคร ที่ถูกกล่าวหาเรื่องนี้ก็ได้ร้องเรียนต่อ กกต.แล้ว ส่วนจะต้องใช้เวลาชี้แจงเท่าไหร่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับประชาชน หากเข้าใจบางทีแค่วันเดียวก็เข้าใจแล้ว และเราต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่า เหตุผลที่เราไม่สามารถอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และต้องหักก็เพื่อรักษาบ้านเมืองไว้ ถ้ายังอยู่กับพ.ต.ท.ทักษิณ ต่อบ้านเมืองก็พัง
เมื่อถามว่า นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่นพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า หากพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ช่วยกันก็จะกอดคอตายหมด โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่มติพรรค แต่เป็นเสียงสะท้อนความรู้สึกของ ส.ส. ซึ่งในแง่ของรัฐบาลก็ควรต้องรับฟัง เพราะหากวันนี้พรรคร่วมรัฐบาลจะจับมือกันทำงานต่อไปในการต่อสู้การเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ไม่รู้ ก็ต้องมีวิธีคิดอยู่ในกรอบ และมีเป้าประสงค์ให้สอดคล้องกัน ถ้าจับมือกันแล้วก็ต้องจับมือกันให้แข็งแรง และควรต้องมีความชัดเจนเรื่องการแบ่งหน้าที่กันทำในเรื่องการเมือง
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถลงพื้นที่ภาคอีสานได้ ทางพรรคภูมิใจไทยจะทำหน้าที่แทนหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่ใช่การทำหน้าที่แทน แต่ต้องยอมรับว่า เป็นความชำนาญ ความเข้าใจปัญหาของประชาชนในพื้นที่ของแต่ละพรรคไม่เหมือนกัน เช่น ภาคใต้พรรคอื่นคงเข้าไปแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ยาก ส่วนภาคอีสาน พรรคประชาธิปัตย์ก็อาจจะเหนื่อยที่ต้องไปทำงานการเมืองที่นั่น ซึ่งในภาคอีสานต้องยอมรับกระแส พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยยังแรงอยู่ ซึ่งในบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ พรรคที่จะสามารถเข้าไปสู้ทางการเมืองได้ก็น่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย ดังนั้น จึงควรกำหนดกรอบที่จะเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน
นอกจากนี้ นายศุภชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุ มี ส.ส.ที่ย้ายไปอยู่ภูมิใจไทยจะกลับมา ว่า ตนยืนยันได้ว่า วันนี้ยังมี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยที่จะมาอยู่กับเราอยู่อีก 4 คน นอกเหนือจาก 11 คนที่ยังอยู่กันครบ ในพื้นที่ภาคกลางและอีสาน ส่วนใครบ้างยังไม่ขอเปิดเผย ตนพร้อมจะเปิดเผยทันทีหากโฆษกพรรคเพื่อไทยบอกว่า 11 คนที่จะย้ายกลับไปเป็นใคร ทั้งนี้ ที่ยังคงมีส.ส.เพื่อไทยต้องการมาอยู่พรรคภูมิใจไทยเพิ่มนั้น เพราะกลายเป็นว่าเขาต้องไปล่ารายชื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้าน แต่งบประมาณกลับไม่มีลงพื้นที่เลย.
