จุรินทร์สานต่อเรียนฟรี15ปีฟุ้งประชาชน98%ชื่มชม

จุรินทร์สานต่อเรียนฟรี15ปีฟุ้งประชาชน98%ชื่มชม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
จุรินทร์ งัดผลสำรวจสนง.สถิติฯ ตีปี๊บ ประชาชนกว่า 98% ชื่มชมเรียนฟรี 15 ปี พร้อมหนุนสานต่อโครงการนี้ (16มิ.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ทำการสำรวจความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับดำเนินการโครงการ เรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพในทุกจังหวัดจำนวน 7,800 ตัวอย่าง เมื่อวันที่ 1-20 เม.ย. ที่ผ่านมา ผลการสำรวจพบว่า ประชาชนพอใจกับการดำเนินการโครงการ เรียนฟรี 98.2% และอยากให้โครงการนี้ดำเนินต่อไป 97.9% ทั้งนี้ เมื่อจำแนกความต้องการและความพอใจให้มีโครงการดังกล่าวต่อไปอีก ออกเป็น 5 ภูมิภาค ปรากฎว่า กรุงเทพมหานคร 97.2% ภาคกลาง 97.3% ภาคเหนือ 98.2% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 98.1% และภาคใต้ 98.8% นอกจากนี้ มีการสำรวจประชาชนว่าสมาชิกในครัวเรือนมีสิทธิ์เข้าร่วมและไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมนโยบาย เรียนฟรี หรือไม่นั้น พบว่า มีสมาชิกในครอบครัวที่มีสิทธิ์ 53.9% มีสิทธิ์แต่ไม่ได้ใช้สิทธิ์ 2.3% ขณะที่ ครอบครัวที่ไม่ได้รับสิทธิ์ แต่สนับสนุนให้มีโครงการนี้ต่อถึง 97.9% อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอแนะด้วยว่า อยากให้มีการขยายโครงการ เรียนฟรี นี้ออกไปในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ระดับปริญญาตรี โท และเอก บางส่วนก็บอกว่าอยากให้เพิ่มงบประมาณมากขึ้น และขยายรายการสนับสนุนมากขึ้น รวมทั้งอยากเห็นการพัฒนาบุคลากรด้านการเรียนการสอน สิ่งที่จะเห็นต่อไปในนโยบาย เรียนฟรี คือเรื่องการพัฒนาคุณภาพซึ่งหมายรวมถึงคุณภาพของครูผู้สอน ส่วนเรื่องที่จะให้ขยายการสนับสนุน ปวส.ไปถึงปริญญาเอกนั้น ต้องชี้แจงว่านโยบาย เรียนฟรี นั้นขึ้นอยู่กับงบประมาณ ซึ่งเรามีงบประมาณอยู่อย่างจำกัดแต่เพราะรัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญกับการศึกษา แม้จะอยู่ในภเศรษฐกิจถดถอย แต่รัฐบาลก็ยังทุ่มงบให้กับเรื่องพัฒนาการศึกษา ส่วนอนาคตจะเพิ่มรายการมากขึ้นกว่านี้ หรือขยายระดับการศึกษามากกว่านี้นั้นก็ต้องรอดูงบประมาณ แต่ตอนนี้ขอยืนยันแนวทางนี้ไปก่อนรมว.ศธ. กล่าว ด้าน นายรังสรรค์ มณีเล็ก ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า สพฐ.จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน สละสิทธิ์ด้วยน้ำใจ ช่วยโรงเรียนห่างไกลมีคุณภาพ ในวันที่ 21 มิ.ย. ที่โรงเรียนสตรีวิทยา 2 โดยมี นายจุรินทร์ เป็นประธาน ในวันงานจะเชิญผู้บริหารโรงเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินคุณภาพภายนอกของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) จำนวน 577 โรง นักวิชาการ และผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกองค์กรหลักเข้าร่วมงาน พร้อมเชิญโรงเรียนที่ สมศ.ประเมินให้อยู่ระดับปรับปรุงแต่สามารถพัฒนาตนเองแบบก้าวกระโดดและผ่านการประเมินในระดับดีมาก นั้นมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ว่ามีวิธีการพัฒนาเช่นไร และในช่วงบ่าย เวลา 13.05 น.จะมีการถ่ายทอดสดพิธีมอบเงินสละสิทธิ์ให้กับโรงเรียน 577 โรง โดยขณะนี้ยอดเงินสละสิทธิ์มีจำนวนทั้งสิ้น 40 ล้านบาท ซึ่งจะแบ่งจัดสรรให้กับโรงเรียนเหล่านี้โรงละ 1 แสนบาท เพื่อใช้ดำเนินการพัฒนาโรงเรียนซึ่งโรงเรียนจะต้องนำไปวางแผนในการพัฒนา ศึกษาวิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้ไม่ผ่านการประเมินและแก้ไขให้ตรงจุด

อย่างไรก็ตาม การมอบเงินสละสิทธิ์นครั้งนี้จะมีโรงเรียน 5 โรง ได้แก่ โรงเรียนวัดสามัคคีธรรม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) สุพรรณบุรี เขต 1 โรงเรียนบ้านกะตะ สพท.ภูเก็ต โรงเรียนวัดวังอิทก สพท.พิษณุโลก เขต 1 โรงเรียนบ้านหนองกุงวิทยา สพท.ขอนแก่น เขต 1 และ โรงเรียนบ้านห้วยมะไฟ สพท.ชลบุี เขต 1 จะได้รับเงินโรงละ 5 แสนบาท สาเหตุที่ได้มากเป็นพิเศษเพราะในเขตพื้นที่ดังกล่าวมีนักเรียนสละสิทธิ์จำนวน ดังนั้น รมว.ศธ. และ เลขาธิการ กพฐ. เห็นว่าน่าจะนำเงินส่วนนี้ไปพัฒนาโรงเรียนในพื้นที่นั้น ในช่วงแรก สพฐ.จะโอนเงินให้โรงเรียนก่อน 5 หมื่นบาทเพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงพัฒนาจากนั้น สพฐ.จะลงไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานแล้วจึงจะโอนที่เหลือลงไป แต่กรณี 5 โรงที่ได้รับ 5 แสนนั้นจะได้รับเป็นเช็คในวันงานเลย ที่สำคัญ 5 โรงนี้จะต้องมีแผนการดำเนินงานเช่นดียวกับโรงเรียนที่ได้รับ 1 แสนบาทแต่จะต้องเห็นผลการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การสร้างแหล่งเรียนรู้ ห้องสมุด เพื่อสะท้อนผลของการดำเนินการโครงการ เรียนฟรี นายรังสรรค์ กล่าวและว่า ในส่วนเงินสละสิทธิ์ของโรงเรียนสาธิต สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงบประมาณไม่ยินยอมให้โอนเงินมาที่ สพฐ. เพราะข้อจำกัดบางประการ จึงได้หารือกันแล้วเห็นว่า สกอ.จะเป็นผู้คัดเลือกโรงเรียนและให้มหาวิทยาลัยในพื้นที่เข้ามาดำเนินการ ซึ่งจะได้รับเงินเท่ากัน 1 แสนบาท เพราะฉะนั้นหากโรงเรียนที่ สกอ.เลือกซ้ำกับที่ สพฐ.โอนเงินไปรอบแรก 5 หมื่นบาท แล้วก็ได้ชี้แจงกับโรงเรียนให้เก็บเงินดังกล่าวไว้เพื่อสมทบกับการดำเนินโครงการ เรียนฟรี ปีต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง อภิปรายพรก.กู้เงิน(7)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook