พ่อพาลูกสาว13ปี โร่ร้องปวีณา ถูกรุ่นพี่รุมตบในห้องน้ำร.ร. ยังไม่พอบังคับกราบเท้า-ถ่ายคลิปประจาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 กรกรกฎาคม นายเอ (นามสมมติ) ได้พา ด.ญ.บี (นามสมมติ) บุตรสาว อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา เข้าพบนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อร้องเรียนกรณีที่บุตรสาวถูกเพื่อนนักเรียนรุ่นพี่ตบในห้องน้ำโรงเรียน แล้วบังคับให้กราบเท้า พร้อมถ่ายคลิปประจาน ไปแจ้งความแล้วแต่คดียังไม่คืบ รวมทั้งผู้บริหารโรงเรียนก็ไม่ดำเนินการใดๆ
นายเอ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่บุตรสาวพร้อมด้วยเพื่อนร่วมห้องอีก 2 คน ไปเข้าห้องน้ำของโรงเรียน นักเรียนหญิงรุ่นพี่ชั้น ม.3 จำนวน 3 คนได้เดินสวนกับบุตรสาวที่หน้าห้องน้ำและเมื่อหลังจากเสร็จกิจในห้องน้ำแล้ว บุตรสาวและเพื่อนก็ออกมาจากห้องน้ำ ระหว่างนั้นถูกนักเรรุ่นพี่ ม.3 ทั้ง 3 คนเข้าไปพบในห้องน้ำ ก่อนที่ตรงเข้ามากระชากผมและดึงตัวบุตรสาวเข้าไปด้านในห้องน้ำ แล้วรุมตบกระชากผมอย่างรุนแรง และช่วยกันรุมทำร้ายร่างกายบุตรสาวจนได้รับบาดเจ็บ
นายเอ กล่าวต่อว่า ระหว่างถูกรุมทำร้าย บุตรสาวถามรุ่นพี่ว่า พวกพี่มาทำหนูเรื่องอะไร หนูไม่เคยไปทำอะไรให้พวกพี่เลย รุ่นพี่ตอบว่า ไม่มีอะไรแค่หมั่นไส้เฉยๆ ก่อนปล่อยตัวบุตรสาวออกมาจากห้องน้ำและได้ข่มขู่บุตรสาวว่า ห้ามนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกใคร หากไม่เชื่อจะมาทำร้ายอีก พร้อมนำทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายคลิปวิดีโอ ขณะที่บุตรสาวตนถูกรุมทำร้ายไว้ด้วย และก่อนที่รุ่นพี่จะปล่อยตัวบุตรสาวออกมาจากห้องน้ำ ได้สั่งให้บุตรสาวก้มลงกราบที่เท้าของรุ่นพี่ทั้ง 3 คน
ได้พาบุตรสาวเข้าแจ้งความที่ สภ.ระโนด จ.สงขลา โดยมี ร.ต.ท.สัญชัย ภูแหม เป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี โดยตนได้แจ้งให้กับพนักงานสอบสวนทราบด้วยว่า ขณะที่บุตรสาวถูกทำร้ายได้มีการใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกวิดีโอเอาไว้ด้วย จึงขอให้ช่วยเร่งติดตมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ก่อนที่จะถูกเผยแพร่ ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อีกทั้งก่อนหน้านี้ตนได้ไปขอพบกับผู้อำนวยการโรงเรียนถึง 2 ครั้ง เพื่อจะขอให้เรียกรุ่นพี่ที่ก่อเหตุทั้ง 3 มาลบคลิปวิดีโอดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบ จึงตัดสินใจเดินทางมาร้องทุกข์ต่อนางปวีณา เพื่อขอความช่วยเหลือ นายเอ กล่าว
ภายหลังรับแจ้งนางปวีณาได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร ผบก.ภ.จว.สงขลา เพื่อขอให้ช่วยติดตามความคืบหน้าของคดี พร้อมกันนี้ยังได้ประสานไปยัง คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อช่วยขอย้ายที่เรียนมายังโรงเรียนแห่งใหม่ พร้อมกันนี้มูลนิธิยังได้รับตัวด.ญ.บีอยู่ในความดูแล เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตต่อไป
