แค่เด็กฝึกหัด?

แค่เด็กฝึกหัด?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
บรรดาภาคธุรกิจต่าง ๆ ในบ้านเรา ผมเป็นห่วง ผู้ประกอบอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว มากที่สุด ลองดูเถอะครับ ไล่ตั้งแต่ปี 51 มาจนถึงปี 52 ต้องเผชิญกับ วิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองหลายครั้งหลายหน ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของคนเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง

ความจริงการทำกิจกรรมของคนกลุ่มใดหรือใครก็ตาม สามารถแสดงออกได้ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย แต่ประเภท ปิดสนามบิน ปิดถนนหนทาง นำรถแก๊สมาจอดในแหล่งชุมชน บุกยึดสถานที่ราชการ เผาบ้านเผาเมือง มีเหตุการณ์อย่างนี้ ผมเชื่อว่านักท่องเที่ยวชาติไหน ๆ คงไม่อยากเสี่ยงเข้ามาเที่ยวในประเทศ ไทยหรอกครับ ปะเหมาะเคราะห์ร้าย เดินทางเข้ามาแล้วแล้วหาทางกลับไม่ได้ ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของบ้านเราป่นปี้แน่ ๆ

ล่าสุดพอ ความขัดแย้งทางการเมือง เริ่มลดระดับลง ก็มาถูกซ้ำเติมด้วย ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งแพร่ระบาดไปทั่วโลก ไทยก็หนีไม่พ้นกับการได้รับผลกระทบเชื้อไวรัสชนิดใหม่นี้ด้วย

ล่าสุดจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เมื่อรวมถึงวันที่ 6 ก.ค. 52 ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เพิ่มขึ้น 196 ราย เป็นนักเรียน 160 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนรายละเอียด 36 ราย รวมผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.-6 ก.ค. 52 จำนวน 2,272 ราย หายป่วยแล้ว 2,230 ราย มีผู้เยชีวิต 7 ราย ขณะนี้ยังรักษาตัวในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน 35 ราย

แสดงว่าจำนวนประชาชนผู้ติดเชื้อในบ้านเรามีจำนวนมาก พอสมควร สะท้อนให้เห็นถึงการแพร่กระจายของเชื้อโรคไปอย่างรวด เร็ว และที่น่าเสียใจคือมีจำนวนผู้เสียชีวิตถึง 7 ราย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผู้บริหารระดับสูงของ สธ. พยายามอวดอ้างว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตจากการป่วยของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ แต่ในที่สุดก็มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น

สะท้อนให้เห็นว่า รัฐวางแผนหรือไม่ได้ศึกษารายละเอียดของโรคนี้อย่างดีเพียงพอ การติดเครื่องเทอร์โมสแกน ที่ใช้ตรวจสอบความผิดปกติของประชาชนที่เดินทางเข้าออกของประชาชนก็ไร้ผล ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ การใช้มาตรการเด็ดขาด ในการสั่งปิดสถาบันการศึกษานอกเวลาหรือโรงเรียนกวดวิชาบางแห่งเป็นเวลาชั่วคราว รัฐบาลก็ไม่ยอมดำเนินการ

หรือแม้กระทั่ง การออกมาให้ข้อมูลข่าวสารในช่วงแรก ๆ ภายหลังจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดก็ยังไม่ดีเพียงพอ ทำให้บางคนประมาท และคิดว่ามีอานุภาพไม่ร้ายแรงหรือการแพร่กระจายเป็นไปอย่างรวดเร็วขณะนี้ แม้จะมีคำชี้แจงว่า คนที่เสียชีวิตเป็นเพราะร่างกายมีภูมิต้านทานที่อ่อนแอ หรือมีโรคแทรกซ้อน บางทีถ้ารัฐบาลให้คำแนะนำดีเพียงพอ บางทีจำนวนผู้ติดเชื้ออาจไม่ขยายตัวรวดเร็วอย่างนี้

เรื่องนจะเป็นบทเรียนให้กับผู้บริหารภาครัฐในอนาคต แม้ว่าช่วงที่ผ่านมา นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้องจะออกมาชี้แจงข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดภาพการปกปิดข้อมูลข่าวสาร และไม่อยากให้ซ้ำรอยเหมือนกับกรณีการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก แต่ก็ยังกำหนดมาตรการตั้งรับไม่ดีเพียงพอ

น่าเสียดายถ้าหากเราไม่เผชิญกับเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ ผมมั่นใจว่า สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง น่าจะได้รับอานิสงส์จากช่วงวันหยุดยาว แต่พอมีโรคติดต่อเกิดขึ้นใครจะเดินทางไปไหนก็คงวิตกกังวลกันมากพอสมควร ดังนั้นก่อนที่จะถึงช่วง ฤดูท่องเที่ยว ผู้เกี่ยวข้องจะต้องเร่งยุติปัญหา เพื่อดึงความเชื่อมั่นของต่างชาติให้กลับมาเร็วที่สุด

แต่เรื่องที่ทำได้โดยไม่ต้องรอ คือการอนุมัติงบประมาณให้กับจังหวัดต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเท่าเทียมกัน อย่าไปกระจุกตัวอยู่แค่บางจังหวัด โดยหวังเอาอกเอาใจผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองบางคน.

เขื่อนขันธ์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook