เสื้อแดงไล่กษิต ระดมปิด''บัวแก้ว'' กทม.ห้ามจัดแซยิดแม้ว

เสื้อแดงไล่กษิต ระดมปิด''บัวแก้ว'' กทม.ห้ามจัดแซยิดแม้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สุขุมพันธุ์ ตอกหน้าเสื้อแดง ไม่ให้ใช้สนามหลวงจัดแซยิดให้ ทักษิณ ลั่นขอมาก็ไม่ให้ ฝ่าย เสื้อแดง นัดรวมพลัง 9 ก.ค. เผาหุ่น กษิต หน้ากระทรวงต่างประเทศ ไล่พ้นเก้าอี้รมต. ปชป.ทำเป็นหลิ่วตาอ่าน 9 กฎหเหล็ก อุ้ม กษิต นั่งเก้าอี้ต่อไป เทพไท ชี้คดียังไม่ถึงที่สุด จึงไม่ต้องบังคับใช้จวก เพื่อไทย หวังขยายแผลใหญ่ลามประชุมรมต.อาเซียนที่ภูเก็ต สุริยะใส เชื่อนายตร.ใหญ่บงการตั้งข้อหา สัก ตอกเล่นเกินไป เชื่อบรรเทาข้อกล่าวหาได้ ส่วน ปู่สุข อธิบายยากทำไมยึดสนามบิน เผยวันนี้ต่างชาติยังไม่ พร้อมพงษ์ เผยปชป.ขยิบตาพธม.ยึดสนามบิน บัวแก้ว ยืนยันได้รับรายงาน ทักษิณ เข้ามาเลย์จริง นพดล แจงทันควันพักเติมน้ำมันเจ็ท 1 วัน ก่อนเดินสายยาว 4 ประเทศ เผย ทักษิณ ไม่ห้ามล่าชื่อช่วย สดศรี ชักห่วงพรรคการเมืองใหม่สะดุดจากคดียึดสนามบิน

ปชป.อุ้มกษิตเมิน9กฎเหล็ก

เมื่อวันที่ 7 ก.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศประกาศไม่ลาออกจากตำแหน่ง หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีบุกยึดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า พรรคขอสนับสนุนการตัดสินใจของนายกษิต เพราะทั้งหมดยังอยู่ในมาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์ การที่พรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้ปฏิบัติตามกฎเหล็ก 9 ข้อของนายกรัฐมนตรีนั้น ตนเห็นว่ากฎเหล็กดังกล่าวต้องเป็นเรื่องที่มีผลทางกฎหมายแล้ว แต่เรื่องของนายกษิต ยังไม่มีผลทางกฎหมาย จึงไม่จำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบในตอนนี้

นายเทพไท กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีและผู้ว่าฯกทม. มาแล้วหลายกรณี จึงอยากให้พรรคเพื่อไทยกลับไปดูคนในพรรคของตัวเองโดยเฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่าแสดงความรับผิดชอบอะไรบ้าง จะเห็นได้ว่าทั้งหมดไม่เคยมีนักการเมืองคนไหนในขั้วพรรคเพื่อไทยที่แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองเลย เว้นแต่ถูกคนอื่นขับไล่ หรือมีผลทางกฎหมายเท่านั้น

ชี้เพื่อไทยจ้องขยายแผล

นายเทพไท ยังระบุว่า เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่ละความพยายามที่จะเคลื่อนไหวเรื่องนี้ต่อไป และเชื่อว่าจะต้องนำประเด็นนี้ไปเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จะต่อต้าน รมว.การต่างประเทศ และอาจลุกลามไปถึงการเคลื่อนไหวขัดขวางการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่ภูเก็ต วันที่ 16-17 ต.ค.นี้ ขอเรียกร้องว่าประเทศเสียหายเพราะการกระทำของคนกลุ่มเหล่านี้ในการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่พัทยามาแล้ว จึงไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า กฎเหล็กของนายกฯระบุรัฐมนตรีต้องมีความรับผิดชอบสูงกว่าคนธรรมดา นายเทพไท กล่าวว่า ทางกฎหมายถ้าเป็นบุคคลทั่วไปจะต้องให้ศาลตัดสินก่อน แต่ในกฎข้อที่ 9 ไม่จำเป็นต้องให้ศาลตัดสิน เพียงแต่เรื่องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนแล้ว พรรคก็จะพิจารณาให้เป็นไปตามกฎเหล็ก 9 ข้อ ยืนยันว่ากฎเหล็กของนายกฯจะไม่ใช่กฎกระดาษอย่างแน่นอน เมื่อถามว่านายกษิต บอกว่าเมื่อออกหมายจับแล้วจะลาออก นายเทพไท กล่าวว่า คดีนี้ยังไม่มีหมายจับ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจออกแค่หมายเรียก ซึ่งการที่ตนพูดอย่างนี้ไม่ทราบว่าจะเป็นศรีธนญชัยไปหน่อยหรือไม่ ทั้งนี้ทุกอย่างอยู่ที่ข้อเท็จจริง

อ.โต้งป้องไม่มี รมต.พธม.

นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกนายกษิต ในข้อหาผู้ก่อการร้ายจากคดีบุกรุกสนามบินสุวรรณภูมิว่า ถือว่าไม่ยุติธรรม การที่ตำรวจจะมากล่าวหาว่านาย กษิตเป็นผู้ก่อการร้าย ทั้งที่นายกษิตเป็นเพียงแขกรับเชิญบนเวทีพันธมิตรฯ ไม่มีพฤติกรรมรุนแรงและไม่ใช่แกนนำพันธมิตรฯ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยุติธรรมที่จะมากล่าวหาว่านายกษิตและแกนนำพันธมิตรฯ เป็นกบฏ เพราะถ้าดูพฤติกรรมจะเห็นว่าไม่ได้ไปไล่กระทืบเจ้าหน้าที่เหมือนบางเหตุการณ์ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวถามว่านายกษิตต้องลาออกหรือไม่ เพราะถือว่าเข้าหลักกฎ 9 ข้อของนายกฯ นายไกรศักดิ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะเรื่องเกิดก่อนที่นายกษิตจะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี อีกทั้งการเคลื่อนไหวของนายกษิตเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่าถ้าศาลตัดสินว่านายกษิตมีความผิด จะมีผลต่อการดำรงตำแหน่ง ซึ่งตำแหน่งนี้ยังเป็นโควตาของพันธมิตรฯหรือไม่ นายไกรศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีโควตาพันธมิตรฯ และนายกษิตก็ไม่ใช่คนของพันธมิตรฯ

บักใสแฉฝีมือนายตร.ใหญ่

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ระบุว่า นายกฯจะต้องมีคำอธิบายได้หากตัดสินใจปลด นายกษิต ทั้งนี้เนื่องจากตนเองเห็นว่า กรณีนายกษิตยังไม่เข้ากฎเหล็กด้านจริยธรรม 9 ข้อ ของนายกฯ เพราะถือเป็นเพียงขั้นต้นของกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ในวันที่ 9 ก.ค. จะมีการประชุมทีมทนายความ ที่บ้านพระอาทิตย์ เพื่อฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งข้อหาเกินกว่าเหตุ

นายสุริยะใส ยังเชื่อมั่นว่า การตั้งข้อหานายกษิตครั้งนี้ ต้องเป็นฝีมือนายตำรวจใหญ่บางคน ที่ทำไปเพื่อหวังรับใช้นาย เพื่อหวังแลกกับตำแหน่งช่วงฤดูกาลโยกย้ายนายตำรวจประจำ ปีนี้อย่างแน่นอน เพราะเท่าที่ทราบ นายกษิตไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้ที่จะถูกออกหมายเรียก

สักเชื่อบรรเทาข้อกล่าวหาได้

นายสัก กอแสงเรือง อดีต ส.ว. กล่าว ถึงกรณีเจ้าพนักงานออกหมายเรียกนายกษิต ในคดีบุกยึดสนามบินว่า ที่ผ่านมาเคยมีการตั้งข้อหาเกินสมควร อย่างกรณีพันธมิตรฯ บุกล้อมทำเนียบรัฐบาล ก็เคยได้รับการวินิจฉัยบรรเทา ข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่าพนักงานตั้งข้อหาเกินจริง ทั้งนี้ ในกรณีของนายกษิตไม่แน่ใจว่าเข้าข่ายเดียวกันหรือไม่ เพราะไม่ทราบรายละเอียดของข้อกล่าวหา แต่ส่วนตัวมองว่า กรณีนี้น่าจะห่างไกลจากการเป็นผู้ก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อยู่ที่พยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนว่ามีมากน้อยเพียงใด

เมื่อถามว่ากรณีของนายกษิต ไม่ว่าจะมีผลเป็นอย่างไรจะเป็นบรรทัดฐานให้กับแกนนำพันธมิตรฯหรือไม่ นายสัก กล่าวว่า กรณีของ นายกษิตจะไม่เป็นบรรทัดฐานของเรื่องใด เพราะแต่ละเรื่องมีข้อเท็จจริงแตกต่างกัน ผู้ถูกกล่าวหา แต่ละคนมีกรรมต่างกัน ไม่ได้ทำเหมือนกันทั้งหมด เมื่อถามว่าในชั้นนี้นายกษิต ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายสัก กล่าวว่า กฎหมายไม่มีระบุว่านายกษิตต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ที่ผ่านมามีนายกรัฐมนตรีหลายคนถูกตั้งข้อกล่าวหาก็ไม่ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น เมื่อกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ นายกษิตก็ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

กษิตเยาะตร.ทำคดีได้กี่น้ำ

ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 19.15 น. นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ประเทศนิวซีแลนด์ ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีพันธมิตรฯบุกยึดสนามบินที่ถึงกับตั้งข้อหาก่อการร้ายว่า ตนเห็นใจคณะนายตำรวจที่ต้องมาทำคดีนี้ อยากให้ช่วยไปถามให้หน่อยว่าพวกท่านมีความมั่นใจในการทำคดีนี้อย่างไร เพราะตนเห็นว่าเป็นการตั้งข้อหาเกินความเป็นจริง ส่วนทางพรรคประชาธิปัตย์เสนอทีมกฎหมายให้มาช่วย ต้องขอขอบคุณแต่ตนเชื่อมั่นในทนายความของตนอยู่แล้วว่าสามารถรับสถานการณ์ได้

นายกษิต ยังกล่าวในช่วงท้ายว่า ตอนนี้มีกลุ่มมีก๊วนผู้อยู่เหนือกฎหมายทำตัวเป็นอั้งยี่การเมือง คอยบ่อนทำลายประเทศ ชอบออกมาประท้วงมาสร้างความรุนแรง นักท่องเที่ยวไม่กล้าเข้ามาก็เพราะพวกนี้ ถือว่าเป็นปัญหาสังคมไม่ใช่ปัญหารัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมานายกฯก็พยายามสมานฉันท์และก็ยังไม่ได้ว่าอะไรพวกนี้

พท.ฉะปชป.รู้เห็นเป็นใจพธม.

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษก พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการที่โฆษกประจำตวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออกมาปกป้องนายกษิตว่าไม่ต้องลาออกและยังไม่ผิดกฎเหล็ก 9 ข้อของนายอภิสิทธิ์ ว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ปกป้อง นายกษิต และยังไม่มีการปรับออกจากตำแหน่งโดยยังสนับสนุนให้นายกษิต ปฏิบัติหน้าที่ในการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ภูเก็ต ก็เป็นการชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์รู้เห็นการปิดสนามบินสุวรรณภูมิของกลุ่มพันธมิตรฯและเห็นดีเห็นงามไปด้วยจนเอาคนที่ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย รับผิดชอบการประชุมสุดยอดอาเซียน ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยมีผู้ก่อการร้ายนั่งประชุมกับผู้นำอาเซียนด้วย

นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวว่า หากพรรคประชาธิปัตย์เห็นแก่หน้าตาภาพลักษณ์ของประเทศไทยและคนไทย ไม่น่าจะอุ้มนายกษิต ไว้ต่อไป ซึ่งในวันที่ 9 ก.ค. ตนจะแถลงถึงคำให้สัมภาษณ์ของนายกษิต ที่เคยพูดไว้ว่าถ้าตำรวจมีหมายจับตนไม่ว่ากรณีใด ๆ พร้อมจะลาออกทันที มายืนยันต่อสาธารณชน ว่าคนที่พูดว่าการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่มีอะไร มีอาหารดี ดนตรีเพราะ คนอย่างนี้ได้ถูกตั้งข้อหาเป็นผู้ก่อการร้าย จะยังมีหน้ามาปฏิบัติหน้าที่เป็นถึงรัฐมนตรีต่างประเทศซึ่งเป็นหน้าเป็นตาของประเทศอีกหรือไม่

เสื้อแดงนัดเผาหุ่นไล่กษิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ส่งโทรสารประกาศนัดรวมพล โดยมีข้อความว่า ประกาศ กลุ่มเสื้อแดง นัดชุมนุม ขับไล่ เผาหุ่น นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ข้อหาก่อการร้ายยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันพฤหัสบดีที่ 9 ก.ค. เวลา 11.00 น. ที่หน้ากระทรวงการต่างประเทศ

ต่างชาติยังกังขายึดสนามบิน

นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิ สภา กล่าวว่า จากการเดินทางเยือนประเทศ ต่าง ๆ อย่างเป็นทางการ เช่น โรมาเนีย และโปแลนด์ ชาวต่างชาติได้สอบถามและแสดงความเป็นห่วงทั้งสถานการณ์ทางการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะเรื่องการปิดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และให้ความมั่นใจว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก ซึ่งต่างชาติเข้าใจเรื่องปัญหาทางการเมือง แต่ไม่เข้าใจเพียงเรื่องการปิดสนามบินเท่านั้น

ประธานวุฒิสภา ยังประเมินการทำงาน ของรัฐบาลในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาว่า ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เพราะรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกับปัญหาทางการเมืองที่รัฐบาลต้องทำให้การเมืองนิ่ง ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกมาก ดังนั้นรัฐบาลจะต้องประคับประคองสถานการณ์ให้ผ่านพ้นไปให้ได้

บัวแก้วยันแม้วเข้ามาเลย์

นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วย รมว. การต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับการยืนยันข้อมูลจากทางการประเทศ มาเลเซียว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางเข้าประเทศ จริง โดยใช้หนังสือเดินทางของประเทศมอนเตเนโกร และพักค้างคืนที่ประเทศมาเลเซียเป็นเวลา 1 คืน ก่อนเดินทางต่อไปที่ประเทศอื่น อย่างไรก็ตาม สำนักงานอัยการสูงสุดได้ส่งหมายจับไปยังประเทศมาเลเซียและออสเตรเลีย เพื่อขอให้จับตัว พ.ต.ท.ทักษิณทันทีที่พบ เนื่องจาก ทั้งสองประเทศมีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย

นายพนิช กล่าวว่า ส่วนสาเหตุที่ต้อง ส่งหมายจับไปที่ประเทศออสเตรเลียแทนที่จะเป็นประเทศฟิจินั้น เพราะไทยไม่มีสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศฟิจิ จึงต้องประสานผ่านประเทศ ออสเตรเลียอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้หลังจากอัยการสูงสุดได้ส่งหมายจับไปแล้ว ถ้าทั้งสองประเทศเจอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สามารถจับตัวได้ทันที โดยที่กระทรวงการต่างประเทศไม่จำเป็นต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปประสาน เพราะมีคนประจำอยู่ในแต่ละประเทศอยู่แล้ว

เผยแวะจอดเจ๊ตเติมน้ำมัน

ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.การต่างประเทศและอดีตที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการให้ข่าวของ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ประเทศมาเลเซียนั้นว่า ความจริงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณต้องการเดินทางไปประเทศฟิจิ แต่ต้องแวะเติมน้ำมันเครื่องบินโดย สารขนาดเล็กที่ประเทศมาเลเซียเท่านั้น และพักค้างคืนเพียง 1 คืน ก่อนจะเดินทางไปประเทศฟิจิ อีกทั้งไม่มีการส่งคนมาจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างแน่นอน ผู้ใหญ่ในประเทศมาเลเซียก็ขำในการให้ข่าวของ รมช.มหาดไทย เพราะการจับกุมนั้นต้องมีหมายจับไปที่ประเทศนั้นเสียก่อน

นายนพดล กล่าวอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปประเทศฟิจิและจะเดินทางต่อไปอีก 4 ประเทศ แต่ขอไม่เปิดเผยว่าเป็นประเทศใดบ้าง โดยมีประมุขและผู้นำหลายประเทศต้องการเลี้ยงอาหารทั้งเช้าและกลางวัน หาก พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปประเทศใดจะต้องมีการแจ้งให้ประเทศนั้นทราบเสียก่อน เมื่อเดินทางไปประเทศใดประเทศนั้นก็จะให้การต้อนรับอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ต่างประเทศเข้าใจว่าคดีของ พ.ต.ท. ทักษิณ ล้วนแต่เป็นคดีทางการเมือง

ทักษิณไม่ห้ามเสื้อแดงล่าชื่อ

นายสุทิน คลังแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน เปิดเผยภายหลังเดินทางกลับจากการเยี่ยมเยียน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนพร้อมนายนิสิต สินธุไพร อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนพร้อมทีมหาเสียงเลือกตั้งซ่อม จ.สกลนคร และ จ.ศรีสะเกษ ประมาณ 10 กว่าคนได้เดินทางไป ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ มีสุขภาพที่แข็งแรงและยังมีความกระตือรือร้นทางความคิดอยู่เหมือนเดิม โดยเป็นห่วงวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศไทยที่คาดว่าภายใน 3-5 เดือนนี้จะเป็นช่วงที่เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจมาก รัฐบาลตอนนี้ก็ทำได้ แค่เพียงการรักษาทางจิต ได้แต่บอกว่าเศรษฐกิจได้ถึงจุดที่ต่ำสุดแล้ว และจากนี้ไปจะดีขึ้น ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่อย่างนั้นเพราะประเทศไทยจะมีปัญหาหนักที่สุด

นายสุทิน กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดถึงกรณีที่คนเสื้อแดงมีมติถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้ว่า เป็นเรื่องที่ประชาชนดำเนินการเองโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้คัดค้านหรือให้การสนับสนุน แต่ปล่อยให้ดำเนินการตามกระบวนการที่เคยมีประเพณีปฏิบัติอยู่แล้ว ดังนั้นอย่าไปวิตกกังวลให้มาก พ.ต.ท.ทักษิณยังบอกกับพวกตนว่าเป็นห่วงการที่รัฐบาลไล่ล่าท่าน เพราะจะเป็นการลดเครดิตประเทศไทย ซึ่งไม่ว่าจะอย่างไรท่านก็มั่นใจว่าไม่สามารถตามจับกุมท่านได้ ดังนั้นจึงไม่อยากให้รัฐบาลมาเสียเวลาในเรื่องนี้

คุณชายลั่นห้ามใช้สนามหลวง

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะขออนุญาตใช้พื้นที่สนามหลวงเพื่อจัดงานแซยิดให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ว่าต้องชี้แจงมาตรฐานให้ทราบเนื่องจากกทม. มีระเบียบฯว่าด้วยการใช้สนามหลวง พ.ศ. 2543 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2550 กำหนดให้ ใช้สนามหลวงเพื่องาน 1.รัฐพิธี 2.ราชพิธี 3.ประเพณีสำคัญต่าง ๆ 4.งานของรัฐบาล และ 5.งานของ กทม. นอกเหนือจากนี้อำนาจการอนุญาตเป็นของผู้ว่าฯกทม.

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ตนไม่เคยมีอคติกับกลุ่มการเมืองใด มีการอำนวยความสะดวกในการชุมนุมให้ทุกกลุ่ม แม้ที่ผ่านมาจะถูกเผาทำลายทรัพย์สินแต่ตนก็ถือว่าเป็นการให้ บริการตามหน้าที่ของ กทม. แต่การจะมาจัดงานที่สนามหลวงนั้นตนคิดว่าไม่เหมาะสม และที่ผ่านมา กทม. ไม่เคยให้ใช้พื้นที่สนามหลวงจัดงานส่วนบุคคล เพียงอนุญาตให้ใช้ในการปราศรัยเลือกตั้งเท่านั้น เนื่องจากหากอนุญาตให้ใช้งานส่วนบุคคลก็จะมีขอมาเรื่อย ๆ ไม่รู้จบ อย่างไรก็ดีเข้าใจว่างานแซยิดครั้งนี้เป็นงานใหญ่และจัดหน้าฝน จึงอยากให้ไปใช่สถานที่ในร่มขนาด ใหญ่ดีกว่า ทั้งนี้ ขอย้ำว่าไม่ต้องทำเรื่องขอมา เพราะถึงขอมาตนก็จะไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่อย่างแน่นอน

พท.ยอมรับช่วยเสื้อแดงล่าชื่อ

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปรา การ พรรคเพื่อไทย กล่าวยอมรับว่า ส.ส.พรรค เพื่อไทยไม่สามารถหลีกเลี่ยงการรวบรวมรายชื่อประชาชน เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯได้ เนื่องจากประชาชนในเขตเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยต่างเรียกร้องมายัง ส.ส. ในพื้นที่ช่วยเป็นกลไกส่งแบบฟอร์มไปยังแกนนำคนเสื้อแดงก่อนที่จะได้ดำเนินการในขั้นต่อไป ทั้งนี้สำหรับเขตเลือกตั้งตนนั้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 50,000 รายชื่อ เพราะ ประชาชนมีความตื่นตัวในเรื่องนี้มาก

ที่โรงแรมลีการ์เดน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกว่า 300 คน ได้มาชุมนุมหน้าโรงแรม เพื่อกดดันนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่เดินทางมาร่วมสัมมนา ความจริง วิกฤติประชาธิปไตย จัดโดยกลุ่มทนายความเพื่อประชาธิปไตยสงขลาและเครือข่ายประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (2549) ภาคใต้ พร้อมกับได้แสดงพลังคัดค้านการล่ารายชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ดี ทาง กลุ่มฯไม่ถึงกับปิดล้อมโรงแรม ส่วนนายจาตุรนต์ก็เลี่ยงไปเข้าโรงแรมทางด้านข้างแทน

สดศรีห่วงพรรคการเมืองใหม่

นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ และนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการฯ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกในคดีก่อการร้ายในกรณีบุกยึดสนามบินว่า กรณีดังกล่าวพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ยื่นฟ้องต่อศาล อีกทั้งเรื่องนี้ยังคงอยู่ในชั้นสอบสวน ประกอบกับตามกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ว่า ผู้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการ พรรคการเมือง จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เมื่อถูกดำเนินคดี แต่ถ้าคดีถึงชั้นศาลที่ผ่านมาพบ ว่าที่ประชุมใหญ่ของพรรคจะมีการเรียกประชุมใหญ่ เพื่อเปลี่ยนหัวหน้าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรคที่ถูกดำเนินคดี เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ในส่วนของพรรคการเมืองใหม่ตนคิดว่าเมื่อถึงเวลานั้นก็คงหาบุคคลเข้ามาทำหน้าที่แทนได้

นางสดศรี กล่าวต่อว่า แต่เมื่อดูตามมาตรา 11 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ประกอบ รัฐธรรมนูญมาตรา 102 (4) และ (5) บัญญัติถึงการสิ้นสุดการเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง ซึ่งต้องเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล หรือเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุก โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปีในวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ จึงเห็นว่ากรณีของนายสมศักดิ์และนายสุริยะใส หากคดีถึงที่สุดโดยศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกก็จะ ขัดรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว และต้องสิ้นสภาพในการดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองทันที

ไกรศักดิ์รับคุมอีสานหืดจับ

นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคอีสาน กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ได้แบ่งพื้นที่ภาคอีสานให้แกนนำพรรครับผิดชอบ เพื่อเตรียมการหาเสียงเลือกตั้งว่า ตนคงดูแลเท่าที่ดูแลได้ เพราะภาคอีสานเป็นภาคใหญ่ และยังพบปัญหาคนในภาคไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน รวมทั้งต้องยอมรับว่าการของบประมาณเพื่อดูแลพื้นที่แต่ละครั้งก็ไม่ง่าย ต้องดำเนินการขอกันเอง ส่วนงบของพรรคจัดให้แต่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เท่านั้น

นายไกรศักดิ์ ยังกล่าวว่า นอกจากนี้ ที่เป็นปัญหาคือนโยบายของร ัฐบาลนี้เป็นนโยบายที่ดี แต่เสียตรงที่ต้องใช้เวลาในการปฏิบัติมาก ทำให้เข้าถึงประชาชนช้า ต้องยอมรับว่าชื่อของพ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงติดหูคนอีสาน ซึ่งตรงนี้ก็เป็นปัญหาทำให้ทำงานลำบาก

ชวนไม่ห่วงนายกฯลงพื้นที่

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีก ภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่พบประชาชนที่ จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 11 ก.ค.นี้ อาจมีเหตุการณ์ขับไล่เหมือนนายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ที่ไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ว่าตนไม่ห่วง เพราะการทำงาน ต้องยึดและคิดถึงผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งกลุ่มที่ชุมนุมเป็นกลุ่มตัวแทนของพรรคการเมืองที่ได้รับหน้าที่ให้ขับไล่มาตลอด แต่เรามองว่าคนส่วนใหญ่รักบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ามีเหตุอะไรเกิดขึ้นต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลดูแล

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำ สำนักนายกฯ กล่าวถึงการลงพื้นที่ภาคอีสานของนายอภิสิทธิ์ ที่จะลงไปก็คือจังหวัดบุรีรัมย์ ยืนยันว่าเป็นความตั้งใจของนายกรัฐมนตรีที่จะไปในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่เป็นนายกฯ แต่เกิดเหตุการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง นายกฯก็ไม่อยากจะให้เป็นเงื่อนไขของความขัดแย้งในแต่ละพื้นที่ และบังเอิญว่า นายโสภณ ซารัมย์ รมว. คมนาคม ได้บอกว่าจะจัดกิจกรรมที่จังหวัดบุรีรัมย์อยากจะเชิญนายกฯไปร่วมงานจึงตรงกับ ความต้องการของนายกฯที่จะไปจังหวัดบุรีรัมย์และนายกฯก็ยังบอกด้วยว่าจะลงไปดูการทำงานตามแผนโครงการไทยเข้มแข็งด้วย

เอาใจทำใบขับขี่ให้ถึงชุมชน

นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า วันที่ 11 ก.ค.นี้ นายอภิสิทธิ์จะตรวจ และติดตามการให้บริการทำใบ อนุญาตขับรถนอกสถานที่ด้วยรถโมบาย อี-เอ็กแซม ของกรมฯระหว่างลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยจะให้บริการที่โรงเรียนธารทองพิทยาคม อ.ลำปลายมาศ ซึ่งเป็นนโยบายของกระทรวงคมนาคม ในการขยายความรู้หลักการใช้รถใช้ถนนที่ปลอดภัยให้ทั่วถึงกลุ่มประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแหล่งชุมชน

ทั้งนี้กรมฯ ได้จัดเตรียมรถโมบาย จำนวน 20 คัน เพื่อออกให้บริการทำใบอนุญาตขับรถนอกสถานที่แก่ประชาชนในเขตกรุงเทพ มหานคร 1 คัน ส่วนที่เหลือจะให้บริการใน 19 กลุ่มจังหวัด สำหรับการเปิดให้บริการ ณ โรงเรียน ธารทองพิทยาคม จัดเตรียมรถโมบาย 5 คัน เพื่อให้บริการออกใบอนุญาตขับรถใหม่ และเปลี่ยนใบอนุญาตขับรถแบบกระดาษเป็นรูปแบบใหม่ที่ทำจากพลาสติก สีสันสวยงาม โดยจะจัดเตรียมเครื่องทดสอบสมรรถภาพร่างกาย เพื่อทดสอบความพร้อมทางร่างกายของผู้มาขอรับใบอนุญาต.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook