"ดังนั้นเรื่องที่นายนพดล พูดจึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ หากดูเส้นทางแล้วถ้าสายตาคนที่ไม่เหล่จนเกินไปหรือไม่สามัคคีก็อาจจะมองได้ว่าเส้นทางควรจะไปทางนี้เว้นแต่คนที่มีสายตาที่ไม่สามัคคีกัน ก็อาจจะมองว่าเส้นทางที่เหมาะสมน่าจะเป็นกัวลาลัมเปอร์ แต่เมื่อดูเส้นทางการเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ และปรากฎว่าพักที่โรงแรมแชงกรีลา กรุงกัวลาลัมเปอร์จริง แล้วเดินทางออกไปหลังจากที่ไหวตัวทัน ว่าจะมีการดำเนินคดี ซึ่งคุณนพดลได้พูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถที่จะเดินทางไปอีกหลายประเทศ โดยมีการพบผู้นำประเทศและประมุขของประเทศต่างๆ โดยผู้นำเหล่านั้นให้เกียรติต้อนรับมีรถนำขบวนพร้อมอย่างสมเกียรติ แต่ผมแปลกใจว่าวันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปพักที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขอพบกับนายกรัฐมนตรีมาเลเชีย แต่ผู้นำของมาเลเชีย ไม่ยินดีที่จะให้พบด้วย เพราะเป็นผู้ต้องหาตามหมายศาล ของกระทรวงมหาดไท และตามหมายของตำรวจสากล พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเผ่นไป นายเทพไทกล่าวพร้อมกางแผนที่โลกแสดงเส้นทางเดินทาง
นายเทพไทกล่าวว่า จากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ แวะที่ประเทศมาเลเซีย ทำให้ฉุกคิดและนึกถึงแผนตากสิน 2 ว่าทำไมถึงสอดคล้องกันกับข้อ 5.4 ว่า สงครามการเมืองจะใช้ประเทศเพื่อนบ้านกดดัน ซึ่งที่ผ่านมาทุกเรื่องที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับแผนตากสิน 2 ยกเว้นการจัดงานวัดเกิดครบรอบ 60 ที่สนามหลวง ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมต้องหาคำตอบ
ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุควรยุติการไล่ล่าตัว พ.ต.ท.ทักษิณ จนลืมการบริหารบ้านเมือง นายเทพไท กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้จดจ่อทำเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวเพียงแต่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความเคลื่อนไหวยั่วยุตลอดเวลา ดังนั้นรัฐบาลจึงมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หากไม่ทำก็จะถูกกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ดังนั้น รัฐบาลไม่ใช่ทำแต่เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ จนลืมเรื่องอื่น