ครม.สั่งทบทวนอีออคชั่นคุมงบไทยเข้มแข็งฯ
ด้านนายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลักการดำเนินโครงการและการเบกจ่ายเงิน กำหนดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการต้องทำตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดไม่มีข้อยกเว้นในดำเนินการนอกกรอบได้ และต้องปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้าง ระเบียบวิธีการงบประมาณและระเบียบการเงินการคลัง ตามการเบิกจ่ายขั้นตอนและระเบียบของทางราชการ ส่วนเงินเหลือจ่ายหรือใช้ไม่หมดหรือไม่ได้ใช้กำหนดให้ส่งคืนคลังเท่านั้น ห้ามไม่ให้มีการจัดทำโครงการใหม่มาทดแทนหรือมีโครงการเพิ่มเติมแต่อย่างใด ส่วนการบริหารโครงการในพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนใต้ กำหนดให้ครม.พัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนใต้มีอำนาจอนุมัติเปลี่ยนแปลงโครงการได้หรือใช้เงินเหลือจ่ายจากโครงการได้เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น
อย่างไรก็ตาม นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบว่าเงินทั้งหมดจะใช้ได้ภายในปลายเดือนส.ค.นี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่มีความพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันทีเพื่อให้มีเงินออกสู่ระบบได้เร็วและกระทรวงการคลังได้ระบุไว้อยู่แล้วว่ามีเงินรองรับโครงการอยู่แล้ว และที่ประชุมยังได้ถกเถียงกันในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์หรืออี-ออคชั่น ที่ต้องใช้ขั้นตอนถึง 60 วันอาจทำให้เกิดโครงการล่าช้าได้ นายกฯจึงสั่งการให้กระทรวงการคลังไปรวบรวมรายละเอียด ความเหมาะสมของโครงการ มาเสนอให้ครม.พิจารณาอีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ ร่างระเบียบสำนักนายกฯ ครั้งนี้จะทำให้การใช้เงินตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งฯโปร่งใสและตรวจสอบได้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์เดียวกับเงินงบประมาณ ส่วนความคืบหน้าเรื่องการต่ออายุ 5 มาตรการ 6 เดือน คาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.ได้ในสัปดาห์หน้า.