ครม.สั่งทบทวนอีออคชั่นคุมงบไทยเข้มแข็งฯ

ครม.สั่งทบทวนอีออคชั่นคุมงบไทยเข้มแข็งฯ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ซึ่งกำหนดแนวทางการใช้เงินตามแผนปฏิบัติการฯให้รัดกุมและเป็นหลักประกันได้ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงการ หากมีเงินเหลือใช้หรือใช้ไม่หมดต้องนำงบประมาณทั้งหมดส่งคืนเข้าคลัง และในสัปดาห์หน้ากระทรวงการคลังจะสรุปโครงการในรอบแรกที่ได้รับอนุมัติไปแล้วและจะใช้เงินกู้ตามพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทและขั้นตอนการดำเนินการให้รวดเร็วและเป็นไปตามเป้าหมายคือต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเสนอให้ครม.พิจารณาต่อไป และในสัปดาห์หน้ากระทรวงการคลังจะเริ่มเปิดจองพันธบัตรไทยเข้มแข็งวงเงิน 50,000 ล้านบาท

ด้านนายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลักการดำเนินโครงการและการเบกจ่ายเงิน กำหนดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการต้องทำตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดไม่มีข้อยกเว้นในดำเนินการนอกกรอบได้ และต้องปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้าง ระเบียบวิธีการงบประมาณและระเบียบการเงินการคลัง ตามการเบิกจ่ายขั้นตอนและระเบียบของทางราชการ ส่วนเงินเหลือจ่ายหรือใช้ไม่หมดหรือไม่ได้ใช้กำหนดให้ส่งคืนคลังเท่านั้น ห้ามไม่ให้มีการจัดทำโครงการใหม่มาทดแทนหรือมีโครงการเพิ่มเติมแต่อย่างใด ส่วนการบริหารโครงการในพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนใต้ กำหนดให้ครม.พัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนใต้มีอำนาจอนุมัติเปลี่ยนแปลงโครงการได้หรือใช้เงินเหลือจ่ายจากโครงการได้เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น

อย่างไรก็ตาม นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบว่าเงินทั้งหมดจะใช้ได้ภายในปลายเดือนส.ค.นี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่มีความพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันทีเพื่อให้มีเงินออกสู่ระบบได้เร็วและกระทรวงการคลังได้ระบุไว้อยู่แล้วว่ามีเงินรองรับโครงการอยู่แล้ว และที่ประชุมยังได้ถกเถียงกันในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์หรืออี-ออคชั่น ที่ต้องใช้ขั้นตอนถึง 60 วันอาจทำให้เกิดโครงการล่าช้าได้ นายกฯจึงสั่งการให้กระทรวงการคลังไปรวบรวมรายละเอียด ความเหมาะสมของโครงการ มาเสนอให้ครม.พิจารณาอีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ ร่างระเบียบสำนักนายกฯ ครั้งนี้จะทำให้การใช้เงินตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งฯโปร่งใสและตรวจสอบได้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์เดียวกับเงินงบประมาณ ส่วนความคืบหน้าเรื่องการต่ออายุ 5 มาตรการ 6 เดือน คาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.ได้ในสัปดาห์หน้า.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook