ดอลลาร์ร่วง ตลาดจับตาการประชุมจี-8

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศธนาคารกรุงเทพรายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวของค่าเงินประจำวันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม 2552 ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 4.07/10 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดเมื่อวันพุธ (8/7) ที่ระดับ 34.06/08 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันค่าเงินบาทมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ตามแรงซื้อขายในตลาด ขณะที่เมื่อวานดอลลาร์มีทิศทางแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักยกเว้นเยน หลังจากมีแรงซื้อดอลลาร์และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอย่างหนาแน่ เนื่องจากนักลงทุนต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐที่กำลังจะออกมา อย่างไรก็ตามการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์นั้นเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากดอลลาร์ยังคงเผชิญต่อแรงกดดันจากข่าวการหารือเกี่ยวกับข้อเสนอในการเพิ่มบทบาทของเงินสกุลอื่นในฐานะเงินทุนสำรองของโลกแทนที่ดอลลาร์ในการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ (จี-8) ในวันที่ 8-10 ก.ค.นี้ ขณะที่วันนี้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้งเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักยกเว้นเยน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลต่อความเสี่ยงของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากบริษัทอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอะลูมิเนียมยักษ์ใหญ่ได้รายงานยอดขาดทุนซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ ช่วยสร้างบรรยากาศในทางบวกให้กับการเปิดฤดูการรายงานผลประกอบการในไตรมาสสองของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทระหว่างวันมีการซื้อขายอยู่ในกรอบ 34.06-34.10 บาท/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 34.07/09 บาท/ดอลลาร์

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินเยนเปิดตลาดที่ระดับ 92.95/97 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (8/7) ที่ระดับ 94.30/32 เยน/ดอลลาร์ หลังจากเมื่อคืนนี้เงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโร ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดยขาดสินทรัพยืเสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงและซื้อเงินเยนในฐานะแหล่งเงินทุนที่ปลอดภัย โดยที่ค่าเงินเยนแข็งค่าสุดในรอบ 5 เดือน เมื่อเทียบกับดอลลาร์ นับตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ระดับ 91.62 เยน/ดอลลาร์ ขณะเดียวกันค่าเงินยูโรก็แข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน เมื่อเทียบกับดอลลาร์ นับตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ระดับ 127.05 เยน/ยูโร แต่ระหว่างวันค่าเงินเยนกลับมีทิศทางอ่อนค่าลงอย่างชัดเจน หลังจากวันนี้นักลงทุนญี่ปุ่นได้เริ่มกลับเข้าซื้อคืนสกุลเงินต่างประเทศอีกครั้ง ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างระมัดระวังต่อการแทรกแซงตลาดจากเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นมากขึ้น เพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน เพราะอาจสร้างความเสียหายแก่ผู้ส่งออกญี่ปุ่นเมื่อโอนผลกำไรที่ได้ในต่างประเทศกลับเข้ามาในญี่ปุ่น ซึ่งระหว่างวันค่าเงินเยนมีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 92.38-93.50 เยน/ดอลลาร์ ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 93.12/14 เยน/ดอลลาร์

ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ 1.3889/93 ดอลลาร์/ยูโร อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันพุธ (8/7) ที่ 1.3925/27 ดอลลาร์/ยูโร ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรกลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์อีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนทะยอยช้อนซื้อเงินยูโร หลังจากเมื่อคืนยูโรร่วงลงค่อนข้างมาก โดยวันนี้เงินยูโรปิดตลาดที่ 1.3978/80 ดอลลาร์/ยูโร

อนึ่งระหว่างวันค่าเงินปอนด์เมื่อเทียบกับดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับเปิดในช่วงเช้าที่ระดับ 1.6076/80 ดอลลาร์/ปอนด์ ก่อนการประกาศผลการประชุมในการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ในเวลา 20.00 น.วันนี้ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า BOE มีแนวโน้มสูงมากที่จะตรึงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% และมีโอกาสที่ BOE จะขยายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) ออกไปจากวงเงินเดิมที่ 1.25 แสนล้านปอนด์ ซึ่งระหว่างวันค่าเงินปอนด์มีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1.6030-1.6213 ดอลลาร์/ปอนด์ ก่อนปิดตลาดที่ 1.5208/12 ดอลลาร์/ปอนด์

อัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +1.70/+2.10 สตางค์/ดอลลาร์ และอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +1.00/+3.00 สตางค์/ดอลลาร์